xs
xsm
sm
md
lg

“อลงกรณ์” ค้านขึ้นภาษีช่วงนี้หวั่นกระทบ ปชช. แนะขยายฐานภาษีดีกว่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนปฎิรูปประเทศ  (แฟ้มภาพ)
รองประธาน สปท.มองยังไม่ควรขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มช่วงนี้ หวั่นกระทบประชาชน แนะขยายฐานภาษีเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

วันนี้ (19 พ.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศคนที่หนึ่งกล่าวถึงข้อเสนอของ สนช.ให้ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 1 เปอร์เซ็นต์ ว่ายังไม่สมควรที่จะขึ้นแวตจาก 7 เปอร์เซ็นต์ เป็น 8 เปอร์เซ็นต์ เพราะจะกระทบประชาชนและเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องตอนนี้ ควรรอเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมซึ่ง สนช.ก็เสนอความคิดเช่นนี้ ซึ่งความจริงแล้วทุกฝ่ายควรศึกษารายงานดังกล่าว เพราะทำการศึกษาระบบภาษีที่ต้องปฏิรูปเปลี่ยนแปลงไว้ดีมาก ที่ได้พูดถึงภาษี 3 ประเภท คือ 1. แวตควรจำแนกอัตราภาษีตามประเภทสินค้า เช่น สินค้าฟุ่มเฟือยหรูหรา กับมาม่า ปลากระป๋อง ไม่ควรใช้อัตราเดียวกัน และถ้าจะเพิ่มภาษีจาก 7 เปอร์เซ็นต์ เป็น 8 เปอร์เซ็นต์ ให้นำรายได้ที่เพิ่มไปใช้ในด้านการศึกษาและสาธารณสุขเพื่อประชาชน และนักเรียนนักศึกษาเท่านั้น 2. ภาษีลาภลอย หรือ Windfall Gain Tax ควรนำมาใช้ได้แล้วเป็นภาษีที่เกิดจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นแบบส้มหล่น เช่น มีทางหลวงไปตัดผ่านที่ทำให้ที่ดินราคาสูงขึ้นเมื่อขายก็มีรายได้สูงขึ้นจึงต้องเสียภาษีลาภลอยใช้กันมากในประเทศที่เจริญแล้ว และ 3. ภาษีนิติบุคคล เสนอให้บริษัทที่ทำธุรกิจในจังหวัดใดท้องถิ่นใดเสียภาษีในพื้นที่นั้นไม่ใช่มาคำนวณภาษีรวบยอดจ่ายที่กรุงเทพฯ เป็นรายงานที่ดีทันสมัยควรค่าแก่การศึกษาอย่าสนใจเพียงประเด็นเดียวแล้วไม่มองรายงานทั้งฉบับ

“ผมคิดว่าการขยายฐานภาษีน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในตอนนี้ เพราะฐานภาษีเราแคบมากตัวอย่างเช่นคนไทย 70 ล้านคน อยู่ในวัยทำงาน 40 ล้านคน ยื่นแบบภาษี ภงด.90/91 แค่ 10 ล้าน และเสียภาษีแค่ 4 ล้านคน ส่วนใหญ่คือมนุษย์เงินเดือนทั้งภาครัฐและเอกชน ต้องปฏิรูปจุดนี้ซึ่ง สปช.และ สปท.ได้เสนอรัฐบาลไปแล้วรวมทั้งมาตรการอื่นที่น่าสนใจเช่นเพิ่มประเภทภาษีเช่นภาษีมรดก ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีสิ่งแวดล้อม ภาษีลาภลอย ฯลฯ ซึ่งไม่กระทบคนยากคนจนและยังแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้วย” นายอลงกรณ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น