อดีตรองหัวหน้า ปชป.มองข้อเสนอย้าย สตช.มาอยู่ในสังกัด ยธ. ชี้จะตกอยู่ใต้อิทธิพลฝ่ายการเมือง ย้อนเป็นการปฏิรูปจริงหรือไม่ บอกสังคมรู้ “บุญเรือง” เจ้าของไอเดียสนิทกับใคร แนะจับตา สนช.-สปท.ทำงานให้ใคร เตือนนายกฯ พิจารณารอบคอบ
วันนี้ (19 พ.ค.) นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีข้อเสนอของอนุกรรมาธิการเฉพาะกิจเพื่อศึกษาแผนการปฏิรูปกิจการตำรวจ ในคณะกรรมการประสานงานระหว่างสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่มี พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ เป็นประธาน เสนอให้ย้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มาเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ว่าการย้าย สตช.ไปอยู่ภายใต้รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมซึ่งตัวรัฐมนตรีในอนาคตเป็นใครยังไม่ทราบ ก็จะเป็นการนำองค์กรตำรวจซึ่งเป็นต้นธารของกระบวนการยุติธรรมไปอยู่ใต้อิทธิพลของฝ่ายการเมืองอยู่ดี ถามว่าจะเป็นการปฏิรูปจริงหรือไม่ ที่สำคัญตัวประธานอนุฯ พล.ต.ท.บุญเรือง สังคมรู้ว่ามีความสนิทสนมกับใครบางคน ในผู้มีอำนาจ ดังนั้นการระบุว่าเป็นการปฏิรูปตำรวจ ของ สนช.และ สปท.ในครั้งนี้
“ขอให้สังคมจับตาดูว่า สนช.และ สปท.มาจากไหน ทำงานให้ใคร เพราะแผนปฏิรูปตำรวจตามที่ปรากฏเป็นข่าว ไม่มีการระบุถึงการกระจายอำนาจให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค มีอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจในพื้นที่ รวมถึงไม่มีการกล่าวถึงการคืนอำนาจหน้าที่ ของส่วนราชการอื่นให้ตรงกับภารกิจของหน่วยงานนั้นๆ ที่ซ้ำซ้อน”
นายถาวรกล่าวว่า ตนอยากเตือนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พึงระวังในข้อเสนอที่ระบุว่าเป็นการปฏิรูปตำรวจในครั้งนี้ เพราะไม่ใช่แนวทางที่แท้จริงของการปฏิรูปตำรวจที่ประชาชนและสังคมต้องการ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลงบางอย่างโดยการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ตำรวจชั้นผู้น้อยแล้วมากล่าวอ้างว่าเป็นการปฏิรูปตำรวจ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมจับตามองจึงขอให้นายกฯ พิจารณาให้รอบคอบถี่ถ้วน