ปธ.กมธ.ขับเคลื่อนปฏิรูปสื่อฯ แจงร่าง กม.ไซเบอร์อยู่ในขั้นกฤษฎีกาพิจารณา ยัน ปชช.มีสิทธิฯ แสดงออกเช่นเดิม ปิดเว็บต้องขอศาลก่อน จนท.ทำเกินเหตุก็มีความผิด เผยล้วงข้อมูลถึงเอกชนด้วย เพราะ กม.ควบคุมเหมือนกันหมด เชื่อเจอโจมตีทางไซเบอร์แน่ ต้องป้องกันรอ
วันนี้ (16 พ.ค.) พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสปท.รับทราบรายงานผลการศึกษาและข้อสังเกตร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ว่าขั้นตอนหลังจากนี้ สปท.จะส่งร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวที่ กมธ.ได้ปรับปรุงแก้ไขไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา เพราะก่อนหน้านี้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้รับความเห็นชอบจาก ครม.แล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฏีกาพิจารณา ส่วนข้อท้วงติงเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.ที่หมิ่นเหม่ต่อการละเมิดสิทธิเสรีภาพการแสดงออกของประชาชนนั้นไม่ต้องห่วง ประชาชนยังมีสิทธิเสรีภาพการแสดงออกเช่นเดิม
พล.อ.อ.คณิตกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่จะเกิดการสั่งปิดเว็บไซต์ หรือระงับการเผยแพร่ข้อมูล ต้องได้รับการอนุญาตจากศาลก่อน การแสดงความเห็นทางโลกออนไลน์ยังทำได้เช่นเคย แต่ต้องไม่ใช่ข้อความเฮตสปีช สร้างความแตกแยก เกลียดชัง หรือกระทบต่อเสถียรภาพความมั่นคงประเทศ หากไปโพสต์ข้อความเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (กปช.) จะพิจารณาว่าเข้าข่ายการทำผิดตามกฎหมายฉบับดังกล่าวหรือไม่ กปช.ต้องเรียกผู้กระทำผิดมาสอบถามข้อมูลและพิจารณาอย่างรอบคอบ ก่อนมีมติออกมา หากเจ้าหน้าที่ดำเนินการเกินกว่าเหตุจะมีความผิดเช่นกัน
พล.อ.อ.คณิตกล่าวว่า ส่วนการให้อำนาจ กปช.สามารถเข้าถึงข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ของเอกชนได้ด้วย นอกเหนือจากหน่วยงานรัฐนั้น เนื่องจากการใช้กฎหมายต้องไม่เลือกปฏิบัติ ต้องใช้บังคับกับทุกคนในมาตรฐานเดียวกัน เพราะการโจมตีทางคอมพิวเตอร์ไม่เลือกว่าจะเป็นของรัฐบาลหรือเอกชนเหมือนกระแสน้ำ ถ้าน้ำท่วมก็ท่วมหมดไม่เลือกว่า บ้านคนรวยหรือคนจน ดังนั้นจึงต้องออกกฎหมายควบคุมบังคับใช้ให้เหมือนกันทั้งหมด เราต้องเตรียมรับมือการโจมตีทางไซเบอร์ เพราะเชื่อว่ามันมาแน่ อย่างไรก็ต้องเจอ จึงจำเป็นต้องออกกติกาคอยควบคุมไว้