รองหัวหน้าประชาธิปัตย์ ค้านสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศชงใช้ ม.44 ออกกฎหมายปฏิรูป 36 ฉบับ ชี้ข้ออ้าง สนช.งานล้นมือฟังไม่ขึ้น ยันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ห่วงทำ กม.ไม่สมบูรณ์เพียงพอ ไม่เป็นที่ยอมรับ แถมกำลังจะมีคณะกรรมการปฏิรูปแห่งชาติ แนะให้สานต่อดีกว่า คาดคงอยากสร้างผลงาน แต่หนุนปล่อยตามครรลองจะเหมาะสมกว่า
วันนี้ (16 พ.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ออกกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ 36 ฉบับว่า ไม่เห็นด้วยที่จะใช้มาตรา 44 เพื่อออกกฎหมายปฏิรูปด้วยเหตุผลที่ว่าหากดำเนินตามขั้นตอนปกติ กฎหมายจะออกมาบังคับใช้ไม่ทันภายในปี 2560 เพราะสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีภาระงานล้นมือซึ่งเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น
นายองอาจกล่าวว่า การใช้มาตรา 44 ควรเป็นเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนจริงๆ แต่การใช้มาตรา 44 เพื่อออกกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน การใช้มาตรา 44 เร่งออกกฎหมายอาจจะทำให้ได้กฎหมายที่ไม่มีความสมบูรณ์เพียงพอ ไม่ได้ผ่านกระบวนการของการฟังความคิดเห็นที่หลากหลายรอบด้านจากสังคมเท่าที่ควร และจะเป็นกฎหมายที่ไม่ได้รับการยอมรับเพราะไม่ได้เป็นกฎหมายที่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้องเหมาะสม นอกจากนั้น รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็บัญญัติให้มีคณะกรรมการปฏิรูปแห่งชาติ ที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อกำหนดแผนและขั้นตอนการปฏิรูปต่างๆ ควรให้เป็นเรื่องของคณะกรรมการปฏิรูปแห่งชาติเข้ามาดำเนินการสานต่อไปตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติจะดีกว่า
นายองอาจกล่าวต่อไปว่า เข้าใจว่าทาง สปท.คงอยากสร้างผลงานว่ามีผลงานการปฏิรูปเยอะๆ แต่ผลงานเยอะๆ ที่ไม่ถูกที่ถูกเวลาไม่น่าจะเกิดประโยชน์อะไรยิ่งพยายามใช้มาตรา 44 ทำกฎหมายปฏิรูปก็พอมองเห็นหนทางข้างหน้าได้ว่าจะปฏิรูปได้จริงหรือไม่อย่างไร ควรปล่อยให้กฎหมายปฏิรูปเกิดขึ้นตามครรลองที่ควรจะเป็นตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญน่าจะเหมาะสมกว่า