“มิลค์บอร์ด” เพิ่มโทษทางปกครอง “โครงการนมโรงเรียน เทอม 1/2560” หากพบเชื้อโรคที่ระบุไว้ 5 ชนิด ครั้งแรกให้ลดสิทธิการจำหน่ายที่เหลือทันทีร้อยละ 25 หากพบอีกครั้งให้ยกเลิกสิทธิทันที ร้อยละ 50 และหากพบครั้งที่ 3 ให้ยกเลิกสัญญาการเข้าร่วมโครงการทันที ย้ำหลักเกณฑ์/รายชื่อผู้ประกอบการทั่วประเทศ หลังได้รับการขยายสิทธิ 2 ปี ยันเปิดเรียน 16 พ.ค.นี้ เด็กทุกคนต้องได้ดื่มนมโรงเรียนทันที
วันนี้ (15 พ.ค.) มีรายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ที่ประชุมคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) ได้เห็นชอบหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ปีการศึกษา 1/2560 ในการบริหารจัดการโครงการนมโรงเรียน เพื่อชี้แจงต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ และดำเนินการแจ้งรายชื่อผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมที่เข้าร่วมโครงการอาหารเสริม (นม)โรงเรียน ที่ได้รับมอบอำนาจจากองค์กรส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ในการเข้ามาเป็นคู่สัญญาซื้อขายอาหารเสริม (นม)โรงเรียน สำหรับปีการศึกษา 1/2560 ที่จะเปิดภาคเรียนวันที่ 16 พ.ค.นี้
โดยผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมฯ ที่ได้รับมอบอำนาจจาก อ.ส.ค.ในการเป็นคู่สัญญากับ อปท.โดยวิธีกรณีพิเศษจะต้องดำเนินการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535
มีรายงานว่า ผู้ประกอบการฯที่ได้รับการจัดสรรสิทธิ์ทั้งหมดจะเป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) 24 พ.ย. 2558 เห็นชอบตามที่คณะกรรมการพิจารณาสิทธิพิเศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจ (กรมบัญชีกลาง) ในคราวประชุม ครั้งที่ 3 /2558 เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2558 ได้อนุมัติการขยายเวลาสิทธิพิเศษในการจำหน่ายนมโรงเรียนให้แก่ อ.ค.ส.ออกไป 2 ปี คือ 1 ต.ค. 2558- 30 ก.ย. 2560
คุณภาพที่ผู้ประกอบการต้องมี เช่น ปรับลดนมโคที่มีค่าเซลล์เม็ดเลือดขาว ไม่เกิน 6 แสนเซลล์/ลบ.ซม. (จากเดิม 6.5 แสนเซลล์/ลบ.ซม.)โดยตรวจสอบน้ำนมก่อนผลิตที่หน้าโรงงานผลิต ทั้งนี้ยังมีเป้าหมายที่จะลดค่าเซลล์เม็ดเลือดขาวในน้ำนม ไม่เกิน 500,000 เซลล์ ภายในปี 2560 ให้ปรับเพิ่มการใช้น้ำนมโคที่มีปริมาณของแข็งรวม ไม่ต่ำกว่า 12.20% (จากเดิม 12.15%) โดยตรวจสอบน้ำนมก่อนผลิตที่หน้าโรงงานผลิต
นอกจากนั้น ระเบียบฉบับนี้ยังคงเกณฑ์การจำหน่ายนมโรงเรียนภายในประเทศ ที่ระบุว่า “ให้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม ที่เข้าร่วมโครงการฯ ดำเนินการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมเฉพาะภายในโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนภายในประเทศเท่านั้น”
มีรายงานว่า ในหมวด 2 “มิลค์บอร์ด”ได้ปรับเกณฑ์การจัดสรรสิทธิ์และพื้นที่การจำหน่ายนมโรงเรียน โดยให้คณะอนุกรรมการฯ (ระดับจังหวัด-อำเภอ) เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกจัดสรรสิทธิ จากเดิมเป็นคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อนำจำนวนสิทธิที่ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมถูกลดสิทธิหรือถูกตัดสิทธิจากการไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข แต่ยังไม่ถูกลดสิทธิหรือถูกตัดสิทธิ มาลดจำนวนสิทธิหรือถูกตัดสิทธิการจำหน่ายที่ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมควรได้รับในภาคเรียนนี้ด้วย และรายงานให้มิลค์บอร์ดรับทราบ
นอกจากนี้ ระเบียบฉบับนี้ยังได้กำหนดมาตรการบังคับตามสัญญาทางปกครอง ในหมวด 8 เช่น กรณีพบผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามสัญญา ให้ อ.ค.ส.สามารถลดสิทธิ ยกเลิกสัญญาการเข้าร่วมโครงการ ยกเลิกสัญญาการจำหน่าย ในกรณีหากตรวจพบว่านมตกมาตรฐานค่าเซลล์โซมาติก ค่าปริมาณรวมตามที่กำหนด และสามารถยกเลิกสัญญาหากพบเชื้อโรค ได้แก่ Salmonella spp., Staphylococus aureus, Listeria monocytogenes, Bacillus cereus หรือเชื้อ Escherichia coli โดยหากพบครั้งแรกให้ลดสิทธิการจำหน่ายที่เหลือทันทีร้อยละ 25 หากพบอีกครั้งที่ 2 ให้ยกเลิกสัญญาทันที ร้อยละ 50 และหากพบครั้งที่ 3 ให้ยกเลิกสัญญาการเข้าร่วมโครงการทันที
ขณะที่พื้นที่ผู้ประกอบการที่ได้รับจัดสรรสิทธิพื้นที่ทั่วประเทศ ภาคเรียนที่ 1/2560 มีดังนี้
จัดสรรสิทธิพื้นที่ภาคใต้ ภาคเรียนที่ 1/2560 http://www.schoolmilkthai.com/images/1-60/s160-1.pdf
จัดสรรสิทธิพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเรียนที่ 1/2560 http://www.schoolmilkthai.com/images/1-60/esan160-1.pdf
จัดสรรสิทธิพื้นที่ภาคกลาง ภาคเรียนที่ 1/2560 http://www.schoolmilkthai.com/images/1-60/c160-1.pdf
จัดสรรสิทธิพื้นที่ภาคเหนือ ภาคเรียนที่1/2560 http://www.schoolmilkthai.com/images/1-60/n160-1.pdf