ข่าวปนคน คนปนข่าว
ตามคิวที่ “วีระ สมความคิด” เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นหนังสือให้ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ตรวจสอบกรณีที่มีข้อมูลว่า “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. คนดัง สร้างถนนทับคลองน้ำสาธารณะ ที่บ้านปางแก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา งานนี้ถึงจะเห็นใจเพื่อนร่วมอาชีพแค่ไหน แต่ “ผบ.แป๊ะ” คงพลิ้วไม่ได้ ต้องตั้งกรรมการสอบสวนให้เป็นเรื่องเป็นราว ใครผิดถูกอย่างไรก็ว่าไปตามเนื้อผ้า พิสูจน์กันไปตามกระบวนการ เรื่องรุกล้ำคลอง - ลำรางธารสาธารณะ คนกรุงอาจไม่อิน แต่ชาวไร่ชาวนารู้ดีว่าเดือดร้อนขนาดไหน แค่ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ก็ทำเอาแทบสิ้นเนื้อประดาตัวกันแล้ว ยังมาเจอ “ตอ” ประเภท “บิ๊กมีสี - เศรษฐีเมืองกรุง”ไปสร้างรีสอร์ต หรือบ้านพักตากอากาศที่ ตจว. แล้วใช้เส้นสายหาช่องทางดึงน้ำเข้าที่ตัวเอง... แต่เคส “คฤหาสน์บิ๊กปู” เท่าที่ตรวจสอบจากภาพถ่าย “เขื่อน” ที่สร้างขึ้นมา น่าจะไม่ได้เจาะจงไว้ป้องกันน้ำท่วม หรืออยากดึงน้ำชลประทานเข้าพื้นที่อะไรมากมาย แต่ดูลักษณะจะเป็น “ถนน” เชื่อมที่ดิน 2 ผืนต่อกันมากกว่า โดยเฉพาะผืนด้านในที่ดูแล้วเป็น “ที่ตาบอด” ชัดๆ พอมีเขื่อนตรงนั้น ก็เชื่อมกับที่ดินอีกผืนอย่างพอดิบพอดี
เห็น“บิ๊กปู”โบ้ยไปว่าได้ขออนุญาตสร้าง “ถนน - เขื่อน” จาก “นายก อบต.”อย่างถูกต้องแล้ว แต่ “เขา” ก็เมาต์ มาอีกทอดว่า สร้างเสร็จแล้วค่อยไปยกให้ทาง อบต. ต่างหาก
อีกอย่างเรื่องการตรวจสอบการใช้อำนาจหน้าที่ที่ไปทำให้“ชาวบ้านท้ายน้ำ”เดือดร้อนแบบนี้ ต้องไม่พยายาม“ตัดตอน”ว่า เป็นการ“เตะตัดขา” อะไรกันอย่างเดียว ต้องสอบให้รู้ดำ รู้แดง ระดับบิ๊กจะแย่งชิงดีชิงเก้าอี้กัน ชาวบ้านไม่มีส่วนได้เสียอะไรด้วย ใครที่เกี่ยวข้องก็ต้องไปจัดการให้ความเป็นธรรม อย่าปล่อยให้ “หญ้าแพรกต้องแหลกราญ” ในขณะที่ “ช้างสารชนกัน”
พอดีมี “มิตรสหาย”ส่งคำพิพากษาศาลฎีกาที่น่าสนใจมาให้พิจารณา เป็นคำพิพากษา คดีถึงที่สุด เมื่อเดือน ม.ค. 58 ที่นายตำรวจคนดัง ยศ “พลตำรวจตรี” ต้องรับโทษจำคุกโดยไม่รอการลงโทษ จากกรณีบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครอง ทำลาย ทำให้เสื่อมสภาพท้ายตลิ่ง ลำน้ำ ลำคลอง โดยก่อสร้างเขื่อนเป็นคันสลับซับซ้อน เลียนแบบธรรมชาติ เป็นกรณีของ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ที่ถูกตัดสิน หลังไปสร้างเขื่อนขวางกั้นลำน้ำ - กักน้ำเข้าที่ดินตัวเอง ศาลชี้ว่า“จำเลยเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์โดยตรง”ศาลชั้นต้นให้จำคุก 8 เดือน ไม่รอลงโทษ ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุก 6 เดือน ศาลฎีกายืนตาม ทำให้ “นายพล” ต้องคอตกเข้าคุกไป เบ็ดเสร็จ 6 เดือน เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่ชอบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เอาเปรียบประชาชน เพียงเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของตัวเอง … เห็นว่าเป็นคำพิพากษาศาลฎีกาที่น่าสนใจ หยิบยกขึ้นมาเป็นวิทยาทาน บังเอิ๊ญ..บังเอิญ เข้าสถานการณ์พอดี
ยอดลงทะเบียนตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ รอบที่ 2 หรือที่เรียกกันว่า “ลงทะเบียนคนจน” ที่เปิดตั้งแต่ช่วงต้นเดือน เม.ย. จนถึงวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา เห็นว่า ยอดพุ่งไปเกือบ 13 ล้านคนเข้าให้แล้ว ที่น่าตกใจคือ ยอดที่เพิ่มขึ้นจากที่เปิดลงทะเบียนเมื่อปีกลายถึง 4 ล้านคน ทั้งที่ยังไม่ปิดลงทะเบียน แง่หนึ่งก็เป็นความสำเร็จของรัฐบาลในการพีอาร์ประชาสัมพันธ์ จนคนมาลงทะเบียนกันถล่มทลาย ทำเอา“ท่านไก่อู” พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ออกมาประกาศความสำเร็จแบบ “โลกสวย” ว่า เป็นเพราะประชาชนมีความเชื่อมั่นรัฐบาลมากขึ้น แต่อาจจะลืมไปว่า ที่ตีปิ๊บขึ้นจนคนเฒ่าคนแก่แห่มาต่อคิวลงทะเบียน ก็ด้วย “ข่าวลือ” ว่า รัฐบาลจะ “แจกเงิน” เหมือนปีที่ผ่านมาอีก
ยอดคนลงทะเบียนเยอะขึ้น ก็เท่ากับว่า มีคนจน” เยอะขึ้น ไม่น่าจะใช่เรื่องมาโอ้อวด เป็นความสำเร็จอะไรเลย ในทางกลับกัน สะท้อนว่าคนไทยจนกันมากขึ้นต่างหาก ฟ้องว่าเศรษฐกิจปากท้องประชาชน ยังต้ำเตี้ยเรี่ยดิน ไม่มีแนวโน้มจะกระเตื้องขึ้นด้วยซ้ำ ก็ต้องรอดูว่า อันนี้ คสช. จะถือเป็นผลงาน 3 ปีของตัวเอง หรือโทษว่าเป็นเพราะรัฐบาลชุดเก่าอีก อย่างที่ท่านสมาชิก สปท. “วันชัย สอนศิริ” ออกมากางปีกปกป้อง รัฐบาล คสช. ว่า ดีที่ซู้ดดดด พวกที่ออกมาติเตียน ก็แค่พวกขี้อิจฉา ดิสเครดิตเอาสะใจ .. ทำหน้าที่ “องครักษ์พิทักษ์ทหาร” ได้ดีเยี่ยมแบบนี้ ใส่ชื่อเป็น “ส.ว. วันชัย” รอบหน้าได้เล้ยยย.
ช.ชฎา