อดีต ส.ส.แม่กลอง วอนรัฐบาลเห็นความสำคัญของการบรรจุพยาบาลเป็น ขรก. พร้อมเพิ่มสวัสดิการเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ชี้ไทยต้องมีมีพยาบาลเพียงพอเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ
วันนี้ (14 พ.ค.) น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่เครือข่ายพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการเคลื่อนไหวให้ทางคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติข้าราชการตั้งใหม่ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ จำนวน 10,992 อัตรา หากไม่ดำเนินการจะรณรงค์ให้พยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราวในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเขียนใบลาออก มีผลวันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไปว่า ต้องการให้รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญในวิชาชีพพยาบาล เพราะตนเคยทำงานด้านนี้มาก่อน อาชีพพยาบาลเป็นอาชีพเฉพาะทางที่ต้องอยู่กับคน ไม่สามารถใช้เครื่องจักรทดแทนได้ ที่สำคัญประเทศกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุจึงต้องมีพยาบาลให้เพียงพอ และหากถึงในช่วงดังกล่าวรัฐบาลจะมีแนวทางรับมืออย่างไรบ้าง
น.ส.รังสิมากล่าวตั้งข้อสังเกตถึงการบรรจุพยาบาลวิชาชีพเข้ารับราชการ ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้เปิดรับบรรจุพยาบาลวิชาชีพในปีนี้จำนวน 11,213 อัตรา แต่กระทรวงสาธารณสุขชี้แจงว่ารับบรรจุได้เพียง 1,200 อัตรา ทำให้พยาบาลไม่ได้รับการบรรจุ 10,992 คน และแท้จริงสามารถบรรจุตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพเข้ารับราชการได้มากกว่านี้หรือไม่ ดังนั้นจึงอยากให้ทั้งสองหน่วยงานไปบูรณาการร่วมกัน และอยากไห้หาแนวทางในการเยียวยาพยาบาลที่ไม่ได้รับการบรรจุด้วย ขณะเดียวกัน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเล็งเห็นถึงค่าตอบแทนพยาบาล เนื่องจากพยาบาลทำงานหนัก ต้องเข้าเวรหลายกะ ควรคำนึงถึงสวัสดิการ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่พยาบาลควรได้รับอย่างเท่าเทียม เช่น ค่ารักษาพยาบาล ที่พักอาศัย สิทธิด้านครอบครัว เนื่องจากเป็นอาชีพเฉพาะทาง และค่าตอบแทนน้อยกว่าผู้จบปริญญาตรี โดยมีการเริ่มต้นเพียง 13,000 บาทเท่านั้น
“ดิฉันเป็นห่วงพยาบาลที่อาจจะเกิดสภาวะสมองไหลไปสู่โรงพยาบาลเอกชนหากไม่มีการบรรจุ เนื่องจากโรงพยาบาลเอกชนต้องการพยาบาลของรัฐอยู่แล้วเพราะมีประสบการณ์ และยังมีสวัสดิการและเงินเดือนที่ สูงกว่าหลายเท่า รัฐบาลจึงควรกำหนดแผนที่ชัดเจนในการบรรจุพยาบาลวิชาชีพเข้าสู่ราชการเพื่อเป็นหลักประกันการทำงานว่าจะไม่ตกงาน และได้เป็นข้าราชการ นอกจากนี้ ปัจจุบันต่างประเทศมีความต้องการพยาบาลของไทย หากรัฐบาลไม่มีตำแหน่งว่างในการบรรจุก็ให้ส่งพยาบาลไปทำงานต่างประเทศจะทำให้มีเงินเข้าประเทศ และพยาบาลเองจะได้รับเงินเดือนที่สูงขึ้นด้วย” น.ส.รังสิมากล่าว