“สมชัย” มองปัญหาสรรหา คตง. เพราะกำหนดคุณสมบัติยิ่งกว่าเทพ ทำหาคนยาก

“กกต.สมชัย” มองปัญหาสรรหา คตง. เพราะการกำหนดคุณสมบัติไว้สูง เย้ย รธน.วางสเปกยิ่งกว่าเทพ ทำให้หาคนยาก มองเป็นได้ต้องพวก ขรก.รระดับสูงที่เกษียณ รับแต่เบี้ยบำนาญ ไม่ทำอาชีพอิสระ ไม่เคยนั่ง กก.ที่ไหนเลย

วันนี้ (11 พ.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวการที่องค์กรอิสระมีปัญหาในการหาผู้แทนที่จะส่งไปทำหน้าที่คณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เนื่องจากกฎหมายกำหนดคุณสมบัติไว้สูงว่า ตนเคยแสดงความเห็นแล้วว่า คนมาเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 2560 ต้องสเปกเทพ และไม่น่าเชื่อว่ารัฐธรรมนูญนี้กำหนดกรรมการสรรหาองค์กรอิสระ “เหนือกว่าเทพ” อีก จนเมื่อจำเป็นต้องเสนอชื่อคนมาเป็นกรรมการสรรหา คตง. ถึงรู้ว่าเขียนให้ยากเย็นจริง เนื่องจากกฎหมายกำหนดว่า กรรมการสรรหาองค์กรอิสระจะต้องมีคุณสมบัติระดับมหาเทพ คือ (1. คุณสมบัติเหมือนคนมาเป็นองค์กรอิสระทุกอย่าง คือใช้คุณสมบัติตาม ม.201 และไม่มีลักษณะต้องห้าม ตาม ม.202 (2. ไม่เป็นข้าราชการประจำ (3. ไม่เป็นลูกจ้าง (4. ไม่เป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ (5. ไม่ดำรงตำแหน่งในบริษัท (6. ไม่เคยปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ในองค์กรอิสระ (7. อายุ 45-68 ปี

“ผู้สมัครเป็นกรรมการองค์กรอิสระ ยังเป็นข้าราชการ ลูกจ้าง ทำงานเอกชนได้ เมื่อได้รับการสรรหาก็ค่อยลาออกใน 15 วัน แต่คนเป็นกรรมการสรรหาต้องไม่เป็นตำแหน่งต่างๆ เลย การจะเลือกอดีตผู้บริหารขององค์กรอิสระที่เกษียณไปแล้วมาเป็นกรรมการสรรหาก็ไม่ได้ เพราะเคยปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรอิสระมาก่อน และจะตั้งคณบดี หรือ อดีตคณบดีมาเป็นกรรมการสรรหาก็ไม่ได้ เพราะเป็นข้าราชการประจำ อยากจะเอาอนุกรรมการ ที่เคยทำงานกับองค์กรอิสระก็ไม่ได้ เพราะเคยปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรอิสระมาก่อน อยากจะเอาข้าราชการที่เกษียณอายุแล้วก็ต้องตรวจเช็กอีกว่าไปประกอบธุรกิจอะไรเลี้ยงชีพหรือไม่ หากเกษียณแล้วไปปลูกมะนาวสักไร่สองไร่เพื่อเลี้ยงชีพก็ไม่ได้ เพราะประกอบอาชีพอิสระ สรุปจะเหลือใครที่มาเป็นกรรมการสรรหาได้”

นายสมชัยยังตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ที่จะเป็นกรรมการสรรหาได้คงต้องเป็นกลุ่มข้าราชการระดับสูงที่เกษียณแล้ว อายุ 60-68 ปี รับแต่เบี้ยหวัดบำนาญ ไม่ประกอบอาชีพอิสระเพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว ตลอดชีวิตไม่เคยมาช่วยเหลือการงานใดๆ ขององค์กรอิสระเลย ไม่เคยถูกแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการ หรือคณะทำงานใดๆในองค์กรอิสระ