xs
xsm
sm
md
lg

“วีระ” ซัด คสช.แย่กว่า “แม้ว” คุกคามการตรวจสอบภาค ปชช.- งัด กม.ตบหน้า “ศรีวราห์” สร้างฝายได้รับอนุญาตไม่ถูกต้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“วีระ” ซัด คสช. 3 ปี แก้ปัญหาทุจริตล้มเหลว ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย มิหนำซ้ำยังคุกคามการตรวจสอบของภาคประชาชนอย่างโจ๋งครึ่ม ขนาด “ทักษิณ” ว่าแย่แล้ว ยังไม่เคยทำขนาดนี้ พร้อมงัดกฎหมายตบหน้า “ศรีวราห์” สร้างฝายขวางลำน้ำสาธารณะได้รับอนุญาตไม่ถูกต้อง เพราะไม่เข้าข่ายตามกฎกระทรวงฉบับที่ 63 ที่ให้สามารถสร้างได้



วานนี้ (9 พ.ค.) นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน กล่าวในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางช่อง “นิวส์วัน” ตอนหนึ่งถึงกรณีที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) สร้างฝายปิดกั้นลำคลองสาธารณะ ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ อ้างว่า สิ่งก่อสร้างนี้มีมาตั้งแต่สมัยปี 2511 ซึ่งตามข่าวพ่อของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ซื้อที่ดินมาในปี 2515 ตอนนั้นยังไม่มี อบต. การดูแลอยู่ที่นายอำเภอ แล้วต่อมามีการแบ่งการปกครองส่วนท้องถิ่นเมื่อปี 2537 ฉะนั้น ตั้งแต่ปี 2515 - 2537 พ่อของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ครอบครองที่ดินมา ได้ไปขออนุญาตอย่างถูกต้องหรือยัง มีหลักฐานไหมตรงนี้ ตนเชื่อว่า ไม่ได้ไปแจ้ง ซึ่งนายก อบต. ก็พูดเองว่าไม่เจอหลักฐานอะไร มาถึง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รับโอนต่อจากพ่อในวันที่ 10 เม.ย. 2557 หลักฐานใบอนุญาตที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เอามาแสดงต่อสื่อบอกว่าได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย เป็นใบอนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำของ อบต.ปากช่อง หนังสือนี้ให้ไว้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. 58 หมายความว่า ตั้งแต่ 10 เม.ย. 57 ถึง 15 ก.ค. 58 เป็นเวลาปีกว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ ไปทำอะไรอยู่ ไหนบอกรู้กฎหมาย ไม่ทำผิดกฎหมาย แต่กลับเพิ่งมาขออนุญาตย้อนหลัง

นายวีระ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนยังเชื่อว่า อบต.ไม่มีอำนาจ เพราะในใบอนุญาต ระบุว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ ขออนุญาตก่อสร้างฝายน้ำล้นคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อใช้เป็นทางสัญจรอย่างเดียว ไม่เห็นตรงกับที่นายก อบต. บอกว่า เพื่อเป็นฝายชะลอน้ำป่า, ใช้น้ำที่กักเก็บน้ำเพื่อดับเพลิง และใช้เดินข้ามไปมาของที่ดิน 2 แปลง และตนเชื่อว่า อบต.ปากช่อง ยังทำผิดกฎหมายอยู่ เพราะใบอนุญาตข้อ 4 บอกว่า ผู้อนุญาต คือ อบต. ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือ ต้องปฏิบัติตามข้อบัญญัติท้องถิ่น และ ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงฉบับที่ 63 ซึ่งออกตามความในมาตรา 117 แห่ง พ.ร.บ. การเดินเรือในน่านน้ำไทยปี 2456 หมายความว่า กรมเจ้าท่าโอนอำนาจในการดูแลการล่วงล้ำลำน้ำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดูแล

ทีนี้มาดูกฎกระทรงฉบับที่ 63 ระบุลักษณะของสิ่งที่พึงอนุญาตสร้างล่วงล้ำน้ำได้ มีต่อไปนี้ 1. ท่าเทียบเรือ 2. สะพานปรับระดับและโป๊ะเทียบเรือ 3. สะพานข้ามแม่น้ำหรือคลอง 4. ท่อหรือสายเคเบิล 5. เขื่อนกั้นน้ำเซาะ 6. คานเรือ 7. โรงสูบน้ำ มี 7 อย่างเท่านั้น ตรงไหนที่ให้สรางฝายน้ำล้นเป็นถนนคอนกรีตปิดกั้นลำน้ำ ไม่อยู่ในข้อไหนเลย

นายวีระ กล่าวต่ออีกว่า ยังไม่แค่นี้ มันยังมีวิธีการ ถ้าเขาจำเป็นต้องทำสะพานหรือถนนปิดกั้นคลอง อบต. อนุญาตตามลำพังไม่ได้ หรือแม้แต่กรมเจ้าท่ายังอนุญาตตามลำพังไม่ได้เลย ต้องให้ อบต. ยื่นให้คณะกรรมการจังหวัด เพื่อให้เอาเข้าสู่ที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งกรมเจ้าท่าก็รวมอยู่ในกรรมการชุดนี้เพียงเสียงเดียว สมมติที่ประชุมเอาเสียงส่วนมากให้อนุญาต ก็ยังต้องเอาเรื่องเข้ากรมเจ้าท่าอีก ซึ่งกรมเจ้าท่าต้องทำตามกฎหมายคือมันทำไม่ได้ ตนถึงไม่เชื่อว่า คณะกรรมการจังหวัดจะอนุญาต และไม่เชื่อว่า กรมเจ้าท่าอนุญาต เพราะถ้าอนุญาต บอกคำเดียวผิดกฎหมาย ตนจึงมั่นใจว่า อบต. ทำผิด นายก อบต. ออกมาบอกว่าอนุญาตโดยถูกต้อง คุณตัดสินตัวเองได้หรือ

นายวีระ กล่าวด้วยว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ บอกว่า ที่ดินเป็นที่ตาบอดเจอกับที่ตาบอด สร้างฝายไปตัวเองก็ไม่ได้รับประโยชน์ และที่ผ่านมา ชาวบ้านไม่เคยมีใครร้องเรียน ตนขอถามว่าที่ตาบอดเจอบอดแล้วทุกวันนี้คุณเข้าออกทางใด ไปดูได้เลยชาวบ้านเขาสร้างฝายกันยังไง แต่นี่ใช้คอนกรีตเสริมเหล็กเลย จะเห็นเลยว่ามันไม่เหลือสภาพคลอง มันไม่มีน้ำแม้แต่หยดเดียว ถ้าชาวบ้านได้ประโยชน์จะมาร้องเรียนตนหรือ น้ำที่กักเหนือไปเป็นที่ของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ คุณมีน้ำใช้ มีทางสัญจรเชื่อมที่ดิน 2 แปลง ประชาชนคนอื่นได้ประโยชน์ตรงไหน

แล้วการที่ตนไปฟ้อง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง ถ้าไม่ดำเนินการตามกฎหมายอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา ถ้าช่วยกัน ผบ.ตร. จะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตนก็ต้องเล่นงาน ผบ.ตร. ต่อ

เมื่อถามเรื่องการแก้ปัญหาทุจริต 3 ปี คสช. นายวีระ ตอบว่า ไม่ดีขึ้นเลย เหมือนทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ประชาชนหวัง คสช.เข้ามาคืนความสุข เข้ามาจัดการความเลวร้ายที่พวกนักการเมืองทำเอาไว้ แต่เรื่องทุจริตก็ยังเกิดขึ้นมากมาย ไม่ต่างจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเลย สมัยนายทักษิณเป็นเผด็จการรัฐสภา คสช.ก็ไม่ต่างกัน แทรกแซงทุกอย่าง และตนยังสงสัยว่า 3 ปีที่ผ่านมา คสช.มีอำนาจเบ็ดเสร็จทำไมจัดการปัญหาคอร์รัปชันไม่ได้ ไม่เด็ดขาดเลย หลายเรื่องเกิดกับคนใกล้ตัว พ.อ.ประยุทธ์ เอง อย่างเช่นน้องชาย ที่ไม่โปร่งใสหลายเรื่อง ก็ไม่มีการตรวจสอบตรงไปตรงมา

“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระบวนการตรวจสอบภาคประชาชนอ่อนแอมาก สมัยทักษิณว่าแย่แล้วนะ แต่ยังไม่เคยมาคุกคามการตรวจสอบภาคประชาชน อย่างกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา จะไปยื่นนายกฯเรื่องให้ตรวจสอบการซื้อเรือดำน้ำ ยังไม่ทันยื่น ทหารหิ้วไปแล้ว อย่างนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในสมัยทักษิณนะ ไม่เคยโจ๋งครึ่ม หรือส่งทหารมาคุกคามผมถึงบ้าน ไปปิดบ้านไม่ให้ผมออก” นายวีระ กล่าว
คำต่อคำ : คนเคาะข่าว 3 ปี คสช.ปราบคอร์รัปชันไปถึงไหน 9 พฤษภาคม 2560

เติมศักดิ์: สวัสดีครับ ขอต้อนรับสู่รายการคนเคาะข่าว วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม 2560 นะครับ วันนี้เรายังคงอยู่ที่การประเมิน 3 ปี การทำงานของ คสช. การทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วันนี้จะเจาะไปที่แง่มุมของการต่อต้าน ปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน เรามาประเมินกันครับว่า 3 ปี คสช.การปราบปรามเรื่องคอร์รัปชันไปถึงไหน อย่างไร กับเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน หรือ คปต. คุณวีระ สมความคิด สวัสดีครับ คุณวีระ
วีระ- สวัสดีครับคุณเติมศักดิ์
เติมศักดิ์- ขอเรื่องล่าสุดก่อน ที่คุณวีระไปยื่นแล้วกลายเป็นข่าวใหญ่ในวันนี้ คุณวีระไปยื่นเรื่องต่อ ผบ.ตร.ให้ตรวจสอบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ไปสร้างสิ่งก่อสร้างปิดกั้นคลองสาธารณประโยชน์ ที่มาของการตรวจสอบเรื่องนี้เป็นอย่างไร เพราะว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวตอบโต้เมื่อวาน ถามว่าคุณวีระไปกินดีหมีมาจากไหน ที่มาคืออะไรครับเรื่องนี้
วีระ- ไม่จำเป็นต้องไปกินดีหมีที่ไหนนะ เพราะว่าผมก็ทำอย่างนี้กับทุกคน ผมได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน หนังสือร้องเรียนมาถึงผม เขาลงวันที่ 8 เมษายน มาถึงผม เขามาส่งด้วยตัวเขาเองเลย มีหลักฐานมาประกอบหมด เขาร้องเรียนถึงผมนะ ผมไม่ใช่ต้องไปกินดีหมีที่ไหน แล้วคุณเติมศักดิ์ก็บอกแล้วนะ เริ่มรายการ ก็รู้อยู่นะ ผมเป็นเลขาธิการ คปต.มานานแล้วนะ คุณเติมศักดิ์ก็รู้จักกับผมมานานแล้วนะ ผมไม่ใช่นายวีระนะ ไม่ใช่ตาแก่คนหนึ่งที่ชื่อนายวีระนะ ผมเป็นคนที่ช่วยราชการต้านภัยคอร์รัปชัน ทำหน้าที่นี้มา 20 กว่าปี ไม่ใช่เพิ่งมาทำกับคุณศรีวราห์นะ ไม่ใช่เพิ่งจะลุกขึ้นมาตรวจสอบคุณศรีวราห์ ตรวจสอบมาเยอะแยะ ทุกรัฐบาล นักการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ ใครที่ไปกระทำความผิด ทำให้รัฐเสียหาย ก็เป็นหน้าที่ที่ผมต้องตรวจสอบ ในเมื่อประชาชนเขามาให้ผมตรวจสอบนายตำรวจคนนี้ เขาบอกว่าเขากลัว ประชาชนเขาบอกเขากลัว เขาไม่รู้จะไปพึ่งใคร มาทำผิดกฎหมายอย่างนี้ เขาก็อยากให้ผมช่วยตรวจสอบ ผมดูแล้ว เอ๊ะนี่มันเป็นการกระทำความผิดส่วนตัวนะ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เพราะเขาไม่ได้ไปใช้อำนาจหน้าที่ไปกระทำกับใคร แต่เขาไปทำผิดกฎหมาย ที่กฎหมายห้าม แล้วเขาก็ไปทำ อันนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัว อย่างที่เขามาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่าผมไปทำให้เขาเสียหาย ไปทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหาย ก็อยากจะถามว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหายอย่างไร ตัวเขาน่ะเสียหายแน่ เพราะว่าเขาทำความผิด แล้วก็ถูกเปิดเผย เขานั่นล่ะเสียหาย แต่สำนักงานตำรวจไม่ได้ไปเสียหายอะไรด้วย
เติมศักดิ์- ในกรณีนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของการใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการ ก็เลยไม่ต้องไปที่ ป.ป.ช.ใช่ไหมครับ
วีระ- ไม่ใช่ ไม่ได้ไปที่ ป.ป.ช. เพราะว่าเขาไม่ได้ไปกระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือไปใช้อำนาจหน้าที่ไปทำให้ใครเดือดร้อน แต่อันนี้ก็ไม่แน่ เดี๋ยวดูๆ ไปก่อน มันอาจจะมีเรื่องนั้นเข้ามาเกี่ยวด้วย ถ้าการตรวจสอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ผบ.ตร.จักรทิพย์ ถ้าเขาตรวจสอบไปว่ามันมีความจริงในขั้นตอนใดที่ไปใช้อำนาจในความเป็นนายตำรวจใหญ่ แล้วไปทำให้ใครเกรงใจ เกรงกลัว นั่นเป็นรายละเอียดที่เดี๋ยวจะต้องเป็นข้อเท็จจริงในการตรวจสอบ
เติมศักดิ์- พฤติการณ์ที่ระบุในหนังสือที่เขามายื่นให้คุณวีระช่วยตรวจสอบ เป็นอย่างไรครับ
วีระ- เขาก็บอกตรงๆ ว่ามันมีการกระทำที่ไปสร้างถนนเชื่อมที่ดิน 2 แปลงของคุณศรีวราห์ โฉนดที่ดินเลขที่ 11540 สองแปลงนี้ คือเขาทำเชื่อมกันที่ดินสองแปลงนี้ ที่ดินแปลงนี้ ดูดีๆ นะครับ มันจะเป็นรูปที่ดินอย่างนี้ กับที่ดินอีกแปลงหนึ่ง แปลงนี้ สองแปลง แล้วทีนี้เรามาดูระวางใหญ่
ระวางที่ดินที่เมื่อกี้ผมยกโฉนดให้ดู พอเรามาดูในระวางใหญ่ ในระวางใหญ่ ตรงนี้ แปลงนี้ แปลงที่เลขที่ดิน 187 เลขที่ดิน 185 อยู่ตรงนี้ เทียบกันดูเลย 185 จะเป็นรูปที่ดินอย่างนี้ 187 ตรงนี้ (ขวามือของผู้ชม) แล้วสีน้ำเงินนี้คือคลอง แล้วเราดู ในโฉนดก็จะเขียนไว้ว่าคลองสาธารณะ 185 อยู่ตรงนี้ แล้วนี่ก็คลองสาธารณะ 187 ตรงนี้ก็คลองสาธารณะ นี่ก็คือแผนที่ที่ดินที่จะอธิบายให้เห็นอย่างชัดเจน
คราวนี้ประเด็นของมันก็คือว่า ระหว่างที่ดินสองแปลงของคุณศรีวราห์ ความผิดมันอยู่ตรงนี้ นี่คือถนนที่เขาทำเชื่อม
เติมศักดิ์- ตกลงเป็นถนนเหรอครับ
วีระ- เป็นถนนครับ ที่เรียกว่าถนน ไม่ใช่ฝายน้ำล้น
เติมศักดิ์- ในการแถลงของคุณศรีวราห์เมื่อวานนี้ใช้คำว่าเป็นฝายน้ำล้น
วีระ- นี่แผนที่ แผนที่ที่เราถ่ายจากมุมสูง
เติมศักดิ์- ที่ดินสองแปลง ลำน้ำสาธารณะอยู่ตรงไหนนะครับ
วีระ- นี่ เห็นไหม อันนี้ 185 อันนี้ 187 อันนี้จะเห็นชัดเลย มันจะฝายน้ำล้นยังไงล่ะ มันระดับเดียวกันเลย ไม่ใช่ฝายน้ำล้นนะครับ นี่มันถนนเลยนะครับ มันอยู่ระดับเดียวกันเลยครับ แล้วดูข้างล่างไม่มีน้ำเลยครับ ด้านของคุณศรีวราห์ น้ำยังขังเต็มเลย คือแกก็ได้น้ำใช้ แกก็ได้ถนนเชื่อมที่ดินสองแปลง ซึ่งมันไม่มีทางออก มันก็เลยเชื่อม มันก็จะได้ออกริมทางรถไฟ ถ้าไม่มีตรงนี้แกจะออกได้อย่างไร
นี่คือสิ่งที่เขามาร้องเรียนว่าไปทำถนนปิดกั้นคลองสาธารณประโยชน์ คลองสาธารณประโยชน์นี่กว้างตั้ง 20 เมตร บางช่วงกว้างตั้ง 30 เมตร ถนนนี่ยาวถึง 30 เมตร
เติมศักดิ์- หนังสือที่ร้องเรียนเข้ามาเขาบอกไหมครับว่าได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านบริเวณนั้นอย่างไร
วีระ- เขาก็บอกว่าเขาเดือดร้อน เขาก็ไม่มีน้ำใช้ การกระทำดังกล่าวของนายตำรวจคนนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำรงชีพของชาวปากช่อง เขาก็ยืนยันมาอย่างนี้
เติมศักดิ์- แล้วพอได้หนังสือร้องเรียนนี้ คุณวีระได้ทำการบ้าน ตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
วีระ- ก็ต้องตรวจสอบไง ก็ลงพื้นที่ ผมไปฝังตัวเลย ไปฝังตัวอยู่ที่นั่น ตรวจสอบ เพราะผมไม่เชื่อ ผมก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับคุณศรีวราห์ ผมก็ไม่ได้เชื่อนะ ใครมาร้องเรียนกับผม แล้วโดยเฉพาะคนที่ถูกร้องเรียนก็ไม่ใช่ธรรมดา เป็นถึงรอง ผบ.ตร.ตอนนี้ก็มีอำนาจมากเลย
เติมศักดิ์- ก่อนที่จะไปยื่นเรื่องให้ ผบ.ตร.วานนี้ หลังจากได้หนังสือและก่อนไปยื่น ผบ.ตร. ก็ไปทำการบ้าน ไปตรวจสอบ ค้นหาข้อมูลหลักฐานในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว
วีระ- ค้นหา ไปศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จนมั่นใจว่าทำไม่ได้ เพราะว่าการไปก่อสร้างสิ่งที่ล่วงล้ำลำน้ำ มันไม่มีกฎหมายใดให้ทำได้
เติมศักดิ์- ถ้ามีคนถามว่า ตกลงในมุมคุณวีระ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ทำผิดกฎหมายข้อไหน
วีระ- ก็ทำผิดกฎหมายหลายบท ก็คือประมวลกฎหมายอาญามาตรา 229 ซึ่งระบุเอาไว้ว่า ผู้ใดทำด้วยประการใดให้ทางสาธารณะ (ทางสาธารณะนี่หมายถึงคลองด้วยนะ คลองนี่ก็ถือเป็นทางสาธารณะ) อยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแต่การจราจร คือไปขวางการไหลของน้ำ คนเขาจะไปใช้ทางนี้ สมมุติว่เขาจะล่องเรือลงมา เดินทางทางน้ำ ก็คือการจราจรทางน้ำ นี่ไปกีดขวาง แล้วก็ยังจะผิดประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 แล้วมีเรื่องบุกรุกด้วยนะ เพราะไปบุกรุกที่ของคนอื่น
ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 1 เขาจะมีนิยามไว้เลย ที่ดิน หมายความว่า พื้นที่ดินทั่วไป และคลองด้วยนะ คลอง นี่เป็นที่ดินตามนิยามของประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 1 คลองนี่อย่านึกว่ามันเป็นน้ำ แล้วจะเป็นที่ดินได้อย่างไร ตามกฎหมายเขาถือว่าเป็นที่ดินนะ
ทีนี้คลองสาธารณะ มันหมายถึงที่สาธารณประโยชน์ ก็หมายถึงที่ของรัฐ ที่ของหลวง
เติมศักดิ์- ที่สาธารณะ
วีระ- ที่สาธารณะ มันเป็นที่ของหลวงไง อย่างที่เขาบอกที่ดินของรัฐก็คือที่ดินของหลวง ไม่มีใครไปมีสิทธิครอบครองแต่เพียงผู้เดียว หรือจะไปครอบครองไม่ได้ หรือจะไปออกโฉนดไม่ได้ คลองนี่คุณศรีวราห์ไปทำถนน ไปทับคลอง ถนนนี้ใครทำ คุณศรีวราห์ทำ คุณศรีวราห์ไปทำถนน ก็หมายความว่าคุณศรีวราห์ก็ไปยึดถือ บุกรุก ที่ดินของหลวง ที่ดินของรัฐ
เติมศักดิ์- แต่คุณศรีวราห์อ้างในการแถลงข่าวว่า สิ่งก่อสร้างนี้มีมาตั้งแต่ 2511
วีระ- เอาล่ะ ถ้าคุณบอกว่ามีมาตั้งแต่ปี 2511 คุณพ่อคุณ ตามข่าวนะ จริง/ไม่จริง ไม่รู้ พ่อคุณซื้อที่ดินต่อมาจากคุณอัมพร ณ ป้อมเพ็ชร ในปี 2515 ตอนนั้นยังไม่มี อบต. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่งมีตามพระราชบัญญัติองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในปี 2537 โอเคตอนนั้นมันยังไม่มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การดูแลอยู่ที่ส่วนกลางคืออำเภอ นายอำเภอเป็นคนดูแลพื้นที่ทั้งหมด แต่ต่อมามีการแบ่งการปกครองออกมาเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้ง อบต.ขึ้นมาในปี 2537 ปี 15 ถึงปี 37 คุณพ่อคุณศรีวราห์ครอบครอง ถูกไหม แล้วถ้าบอกว่าคุณพ่อคุณศรีวราห์ได้สิทธิมาตั้งแต่ปี 2515 มี อบต.ปี 2537 คุณพ่อคุณศรีวราห์ได้ไปขออนุญาตอย่างถูกต้องหรือไม่ ประเด็นที่ 1 นะ มีไหม มีหลักฐานไหมว่าคุณพ่อคุณศรีวราห์ได้ไปขออนุญาตกับ อบต. เพราะมันมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกิดขึ้นแล้ว คุณต้องไปขออนุญาตนะ คุณจะอ้างว่าเมื่อก่อนยังไม่มี อบต. แล้วคุณจะทำ นายอำเภอไม่ว่า แต่ตอนนี้มันมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมี อบต.ปากช่อง แล้ว
เติมศักดิ์- คืออำนาจในการดูแลเรื่องนี้โอนมาที่ อบต.เมื่อปี 37
วีระ- ปี 37 คุณก็ต้องไปแจ้ง อบต. มีไหมหลักฐานตรงนี้ เอาล่ะ พอตั้งแต่ปี 37 ซึ่งผมเชื่อว่าคุณพ่อคุณศรีวราห์ไม่ได้ไปแจ้ง ไม่ได้มีหลักฐาน เพราะ อบต. นายก อบต.ก็บอกไม่มี ค้นไม่เจอหลักฐานอะไรเลย นี่นายก อบต.พูดเองนะ ถ้าผมจำไม่ผิด ตามข่าว เอาล่ะ พอมาถึงยุคคุณศรีวราห์ รับโอนมรดกตามกฎหมาย
เติมศักดิ์- เมื่อปี 2557
วีระ- ปี 2557 รับมรดกที่ดินนี้ มาจากคุณสุพีร์ คุณพ่อ ตั้งแต่คุณศรีวราห์เป็นพลตำรวจตรี วันที่ 10 เมษายน 2557 ดูดีๆ นะครับ 10 เมษายน 2557 โฉนดที่ดินอีกแปลงหนึ่งก็เหมือนกัน ก็ 10 เมษายน 2557 เหมือนกัน อีกแปลงหนึ่งก็รับโอนในวันที่ 10 เมษายน 2557 หมายถึงว่าเป็นสิทธิของคุณศรีวราห์โดยสมบูรณ์ตั้งแต่ 10 เมษายน 57
ทีนี้เรามาดู หลักฐานการขออนุญาตที่คุณศรีวราห์เอามาแสดงกับสื่อมวลชนในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ แกบอกว่านี่ ใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย เป็นใบอนุญาต
เติมศักดิ์- ทำสิ่งล่วงล้ำ
วีระ- ทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำของ อบต.ปากช่อง หนังสือฉบับนี้ให้ไว้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2558 เขามีช่วงเวลาให้ทำ 1 ปีเต็มๆ หมายถึงว่าได้รับอนุญาต คุณต้องก่อสร้างสิ่งก่อสร้างที่คุณได้รับอนุญาตให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี เกินไม่ได้นะ ต้องทำให้เสร็จ หมายถึงว่าเขาอนุญาตตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม หมายความว่าตั้งแต่คุณศรีวราห์มีสิทธิ ตั้งแต่ 10 เมษายน 57 จนถึง 15 กรกฎาคม 58 คุณศรีวราห์ไปทำอะไรอยู่ คุณศรีวราห์บอกว่า คุณเป็นตำรวจ คุณรู้กฎหมาย คุณไม่ทำผิดกฎหมาย คุณยืนยันเองว่าฝายนี้มีมาตั้งแต่ปี 2511 สมัยพ่อคุณก็ไม่ไปขออนุญาต เชื่อว่าไม่ไปขออนุญาตให้ถูกต้อง กับ อบต.
เอาล่ะ พอคุณมาครอบครอง โดยชื่อคุณเอง ตั้งแต่ 10 เมษายน 57 คุณทำอะไรอยู่ปีกว่า ไหนคุณบอกว่าคุณรู้กฎหมาย คุณรู้กฎหมายแล้วคุณไม่ไปขออนุญาตให้ถูกต้องเหรอ คุณได้สิทธิครอบครอบปั๊บ คุณต้องไปทำทันที ไหนว่าคุณรู้กฎหมายไง ไหนว่าคุณไม่ทำผิดกฎหมายไง เห็นไหม แล้วยอมรับเองนะว่ฝายนี้มีมาก่อนแล้ว ก็แสดงว่าคุณเพิ่งมาขออนุญาตย้อนหลังหรือเปล่า ผมก็ต้องเชื่อว่าคุณเพิ่งมาขออนุญาตย้อนหลังนะ บางคนก็บอกว่าเขาขออนุญาตแล้ว ถึงจะย้อนหลัง
เติมศักดิ์- ก็ถือว่าถูกต้องตามกฎหมายแล้วนี่ มีคนว่าอย่างนั้น
วีระ- เห็นไหม ใครๆ ก็บอกอย่างนี้ แม้แต่นายก อบต.ก็บอกผมอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ผมถามหน่อยเถอะครับ ในทางกฎหมายคนที่เป็นคนทำ หรือเป็นคนอนุญาต อนุมัติเนี่ย ที่ติดคุกกันมาก็เยอะแยะไม่ใช่เหรอ ที่ใช้อำนาจโดยมิชอบ ถูกไหม
เติมศักดิ์- ผมขออนุญาตทวนสิ่งที่นายก อบต.ให้สัมภาษณ์เมื่อวาน แล้วเป็นข่าวในวันนี้ บนหน้าหนังสือพิมพ์ด้วย ตอนหนึ่งบอกว่า พอปี 57 บิดาของคุณศรีวราห์เสียชีวิต ก็เลยมอบที่ดินให้คุณศรีวราห์ดูแล ต่อมาคุณศรีวราห์ได้ไปขออนุญาตสร้างฝายที่สำนักงานกรมเจ้าท่า แต่กรมเจ้าท่าได้โอนอำนาจให้ท้องถิ่นแล้ว คุณศรีวราห์จึงมาขออนุญาตสร้างฝายน้ำล้นสูง 2 เมตร เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 58 ตามใบอนุญาตเลขที่ 2/58 เพื่อเป็นฝายชะลอน้ำป่า เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้มอบคืนให้ อบต.เป็นผู้ดูแล คุณศรีวราห์ก็เลยบอกว่า คุณวีระกล่าวหาอย่างนี้เท่ากับกล่าวหา อบต.นะ เพราะว่าฝายนี้ หรือจะเรียกว่าถนนก็แล้วแต่ อบต.เป็นผู้ดูแลนะตอนนี้ เนื่องจากน้ำที่กักเก็บในฝายน้ำล้น คสล.ทาง อบต.ได้ใช้น้ำเพื่อนำมาดับเพลิงเมื่อเกิดไฟไหม้ในพื้นที่ และเป็นที่เดินข้ามไป-มาในที่ดินทั้งสองแปลง ถือว่าได้กระทำถูกต้อง มีอะไรในคำชี้แจงจากนายก อบต.ตรงนี้ที่คุณวีระเห็นต่างไหมครับ
วีระ- เอาอย่างนี้นะครับ ผมบอกได้เลยว่า ผมเชื่อว่า อบต.ปากช่อง ไม่มีอำนาจ ผมเชื่อว่าเขายังไม่ได้ทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผมใช้คำนี้แล้วกัน
เติมศักดิ์- ไม่มีอำนาจในการอนุญาต
วีระ- ถูกต้อง ยังไม่ได้ทำตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ทำไมผมถึงพูดตรงนี้ ดูในหนังสืออนุญาตของเขา ของ อบต.เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 58 เขาบอกว่าศรีวราห์มาขอ ข้อ 2 ขอก่อสร้างฝายน้ำล้น คสล. ก็คือฝายน้ำล้นคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่ออะไร เพื่อใช้เป็นทางสัญจร ไม่เห็นตรงกับที่นายก อบต.บอกเลย นายก อบต.บอกว่าอะไร ทวนอีกทีซิ
เติมศักดิ์- นายก อบต.บอกว่า เพื่อเป็นฝายชะลอน้ำป่า ใช้น้ำที่กักเก็บในฝายไปใช้ดับเพลิง และเป็นที่เดินข้ามไป-มาในที่ดินทั้งสองแปลง นี่แถลงของนายก อบต.นะครับ
วีระ- แต่ในนี้บอกว่าใช้สัญจรอย่างเดียวครับ เอาล่ะ ยังไม่จบ ในเรื่องที่ผมเชื่อว่าทาง อบต.ปากช่อง ยังทำผิดกฎหมายอยู่ เพราะอะไร ต้องมาดูข้อ 4 ด้วย ข้อ 4 เขาบอกว่า ผู้ได้รับอนุญาต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้ หมายความว่าผู้อนุญาต ก็คือ อบต. ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก็คือ จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในข้อบัญญัติท้องถิ่น และ/หรือ (หมายถึงว่าต้องทำทั้งสองอย่างนะ) และนะ ไม่ใช่หรือนะ ถ้าหรือก็เลือกได้ แต่ถ้าและ/หรือ ก็คือนอกจากทำตามข้อบัญญัติของท้องถิ่นแล้ว และต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงฉบับที่ 63 ซึ่งออกตามความในมาตรา 117 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย ปี 2456 หมายความว่าเขา กรมเจ้าท่า เขาโอนอำนาจในการดูแลการล่วงล้ำลำน้ำให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ช่วยดูแล เพราะว่ากรมเจ้าท่าเขาอาจจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ เขาก็เลยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดูแล ห้ามมิให้มีการล่วงล้ำลำน้ำ
เติมศักดิ์- อ๋อ จึงต้องวางเงื่อนไขว่า จะต้องทำตามกฎกระทรวงฉบับที่ 63 ด้วย
วีระ- ใช่ ตอนนี้เราก็มาดู กฎกระทรวง ฉบับที่ 63
เติมศักดิ์- ออกตามความใน พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย
วีระ- กฎกระทรวงฉบับที่ 63 ออกเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2537 ซึ่งตอนนั้น พันเอก วินัย สมพงษ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กฎกระทรวงคมนาคม ฉบับที่ 63 ออกวันที่ 10 สิงหาคม ทีนี้เราก็มาดูว่ากฎกระทรวงเขามีเงื่อนไขว่า อะไรที่ทำได้ อะไรที่ทำไม่ได้ ในการที่จะให้มีการล่วงล้ำลำน้ำ ก็อยู่ในข้อที่ 4 ลักษณะของอาคารและการล่วงล้ำลำน้ำที่พึงอนุญาตได้ มีดังต่อไปนี้
1. ท่าเทียบเรือ ก็จะมีรายละเอียด เขาให้ทำได้
2. สะพานปรับระดับและโป๊ะเทียบเรือ
3. สะพานข้ามแม่น้ำ หรือสะพานข้ามคลอง เห็นไหม ถ้าทำสะพานน่ะ ได้
4. ท่อหรือสายเคเบิล ถ้าวางใต้น้ำนะ
5. เขื่อนกั้นน้ำเซาะ
6. คานเรือ
7. โรงสูบน้ำ
ตรงไหนที่บอกว่าให้สร้างฝายน้ำล้น/ถนนเป็นคอนกรีต เห็นไหมครับ อนุญาตไม่ได้ครับ
เติมศักดิ์- ไม่อยู่ในข่ายข้อไหนเลยเหรอครับ
วีระ- ไม่อยู่เลยครับ 7 ข้อ คุณเติมศักดิ์ดูสิ มีไหมล่ะ
เติมศักดิ์- ท่าเทียบเรือ สะพานปรับระดับและโป๊ะเทียบเรือ สะพานข้ามแม่น้ำหรือสะพานข้ามคลอง
วีระ- ถ้าทำสะพานข้ามคลอง ได้ แต่เขาไม่ได้ทำนะ นี่เขาทำถนนเลยนะ ปิดกั้นลำน้ำนะ เข้าใจไหมครับ
เติมศักดิ์- ก็ไม่เข้าข่ายสะพานข้ามแม่น้ำ
วีระ- ไม่เข้าข่าย ตามกฎหมาย อันนี้ทำไม่ได้ครับ คนที่ดูแลการล่วงล้ำลำน้ำ คือกรมเจ้าท่า แต่กรมเจ้าท่าเขาได้ดูแลองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นช่วยดูแลกฎหมายตัวนี้ ไม่ได้หมายความว่าให้อำนาจ อบต.ไปทำผิดกฎหมาย ไปทำเกินนะ เพราะกฎหมายหลักมันอยู่ที่นี่ กฎกระทรวง ซึ่งออกตามมาตรา 117 ของ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ก็ในนี้ยังระบุเลยว่าต้องทำตามเงื่อนไข และตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 63 ชัดเจนไหมคุณเติมศักดิ์
ยังไม่ใช่แค่นี้ มันยังมีวิธีการอีก บางคนก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้น ถ้าเขาจะทำอะไร ถ้าเขาจำเป็นจะต้องทำสะพาน หรือจำเป็นจะต้องทำถนน ปิดกั้นคลองเลย อบต.อนุญาตตามลำพังไม่ได้ เห็นไหม อย่างที่ผมบอก มันมีข้อกฎหมาย กฎกระทรวง ฉบับที่ 63 ไม่อนุญาตเอาไว้แล้ว เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าก็ยังอนุญาตไม่ได้เลย แม้แต่เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเองก็อนุญาตไม่ได้ อบต. เป็นแค่ผู้รับโอนอำนาจให้ช่วยดูแล จะมาอนุญาตได้หรือ เขาก็เคยมีการขอกันแบบนี้ แล้วที่เขาทำกันมา เขาทำแบบนี้ครับ อบต. สมมุติว่าเขาได้รับการขอจากคุณศรีวราห์ อบต.เขารู้แล้วว่าอำนาจเขาไม่ได้ เขาต้องยื่นให้กับคณะกรรมการจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เอาเข้าสู่ที่ประชุมของหัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งเขาจะมีการประชุมทุกเดือน ซึ่งจะมีตัวแทนจากทุกหน่วยงานในจังหวัด ทุกกระทรวงที่อยู่ในจังหวัด เขาก็จะมีกรรมการประชุมว่าได้หรือไม่ได้ เขาจะดูข้อกฎหมายกันเลย ซึ่งเจ้าท่าจังหวัดนครราชสีมาก็อยู่ในนี้
เติมศักดิ์- อยู่ในกรรมการชุดนี้
วีระ- อยู่ในกรรมการชุดนี้ มันต้องอยู่ในกรรมการจังหวัดอยู่แล้ว เอาล่ะ สมมุติว่าที่ประชุมเขาเอาเสียงส่วนมาก ทีนี้เจ้าท่าเขารู้ว่าเขาไม่ได้ เขาค้าน เขาเสียงเดียว ถูกไหม แต่มติของคณะกรรมการจังหวัด มันมีหลายหน่วยงาน เกิดเขายกมือบอกว่า ให้ทำได้ มันก็ยังทำไม่ได้อยู่ดี เพราะอะไร มันก็จะต้องถูกนำเรื่องเข้าสู่กรมเจ้าท่าอีกล่ะครับ เพราะเจ้าท่าเขาค้าน เพราะเจ้าท่าเขารู้กฎหมายอยู่แล้วว่ามันทำไม่ได้ และมติของคณะกรรมการจังหวัดนครราชสีมามันก็ไม่ได้ผูกพันกรมเจ้าท่านะ หมายความว่า ถ้ามติเขาบอกให้ทำได้ แล้วกรมเจ้าท่าต้องยอมตามมติ ไม่ใช่ กรมเจ้าท่าเขาต้องปฏิบัติตามกฎหมายหลัก ก็คือมาตรา 117 ตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย กรมเจ้าท่าก็ต้องปฏิบัติตามนี้
เติมศักดิ์- ในมือคุณวีระคือ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2560
วีระ- ใช่ครับ นี่ล่าสุด
เติมศักดิ์- ฉบับที่ 17
วีระ- ฉบับที่ 17 และเขาต้องปฏิบัติตามนี้ด้วย กฎกระทรวง ฉบับที่ 63 ที่ผมพูด นี่เป็นหลักเลย ทำไม่ได้อยู่แล้วครับ และไม่ผูกพันไง ผมถึงบอกว่าผมไม่เชื่อหรอกว่าคณะกรรมการจังหวัดอนุญาต และผมไม่เชื่อด้วยว่ากรมเจ้าท่าอนุญาต เพราะถ้าทั้งหมดนี้ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไปอนุญาต ผมบอกได้คำเดียวครับ ทำผิดกฎหมายครับ
สมมุติว่ากรมเจ้าท่าอนุญาต กรมเจ้าท่ามีความผิด ไปละเมิดกฎหมายที่ตัวเองรักษา เข้าใจหรือยังคุณเติมศักดิ์ ผมจึงมั่นใจเลยว่า อบต.ทำผิดครับ ที่คุณศรีวราห์มั่นอกมั่นใจว่าเขาได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ผมถึงบอกตั้งแต่เมื่อวานนี้ว่าคุณมั่นใจได้อย่างไร นายก อบต.ปากช่อง ออกมาบอกว่าผมอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย คุณตัดสินตัวคุณเองได้หรือ ตัวนายก อบต.น่ะ เดี๋ยวคดีไปสู่ศาลแน่
เติมศักดิ์- เมื่อวานนี้การแถลงข่าวตอนหนึ่งของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ก็คือพยายามจะบอกว่าฝายแห่งนี้ สิ่งก่อสร้างนี้ มีประโยชน์ต่อคนในพื้นที่ และอธิบายเรื่องที่ดินตาบอด ยืนยันว่าเดิมทีที่ดินผืนนี้เป็นที่ตาบอด และเมื่อสร้างสิ่งก่อสร้าง ซึ่งคุณศรีวราห์ใช้คำว่า ฝาย ก็ยังเป็นที่ตาบอดอยู่ดี เพราะที่ดินติดกัน ซึ่งเป็นที่ดินของผม เป็นที่ดินตาบอดเหมือนกัน บอดเจอบอด ยังไงก็บอด ไม่ได้ประโยชน์อะไร
วีระ- เอาล่ะ คุณพูดเองนะ บอดต่อบอดนะ แล้วทุกวันนี้คุณออกตรงไหน คุณพูดเองนะ เดี๋ยวผมจะเปิดต่อไป คุณต้องตอบสังคมนะ คุณพูดเองนะคุณศรีวราห์ คุณยอมรับเองนะว่าที่ของคุณน่ะ บอดต่อบอด แล้วทุกวันนี้คุณเข้า-ออกทางไหน
เติมศักดิ์- ซึ่งเดี๋ยวจะไปว่ากัน
วีระ- เดี๋ยวจะไปอีกคดีหนึ่ง
เติมศักดิ์- พล.ต.อ.ศรีวราห์ พยายามจะบอกว่าไม่ได้รับประโยชน์จากการก่อสร้างฝายนี้ และไม่เคยได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ สมัยคุณพ่อสร้างก็ไม่เคยมีใครร้องเรียน คนแถวนั้นรู้ดีว่าเป็นที่ของใคร แต่ไม่เคยมีใครร้องเรียน ฝายนี้มีมาตั้งแต่ปี 2511 ตอนนั้นผมอายุแค่ 9 ขวบ เป็นเด็กชายศรีวราห์ ที่สำคัญชาวบ้านทั่วไปในเขตพื้นที่ที่เขาทำกัน ถ้าอย่างนั้นชาวบ้านทำฝายเก็บกักน้ำเป็นแก้มลิง ก็ต้องถูกดำเนินคดีหมดสิ ผมเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้รักษากฎหมาย ยืนยันว่าไม่ทำผิดกฎหมายแน่นอน
คือคุณศรีวราห์บอกว่า ฝายน้ำล้นที่ อบต.เขาดูแลอยู่ตอนนี้ และเขาอนุญาตแล้ว เพื่อป้องกันน้ำป่าไหลเข้าเมืองไปท่วมชาวบ้าน และเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนอย่างที่คุณวีระกล่าวหา
วีระ- คุณไปดูสิ ฝายน้ำล้นหรือฝายชะลอน้ำ เขาสร้างอย่างไร คุณไปดูได้เลย เขาเอาหินมาเรียงกัน แล้วให้น้ำมันไหลเซาะไปได้นะครับ ไม่ใช่กันแบบนี้ นี่ใช้คอนกรีตเสริมเหล็กกันหมดเลยนะ มันเทคอนกรีตเลยนะ น้ำมันลอดออกไปไม่ได้นะ ได้แต่ล้นออกไป ในยามที่มันมีน้ำมาก แต่มันก็ล้นออกไปแค่ชั่วคราว แค่ไม่กี่วัน แล้วถามว่าคนท้ายน้ำเขาได้ประโยชน์อะไร ผมถามหน่อย ผมอยากให้คนที่ตรวจสอบลงไปดูด้วยตัวเองเดี๋ยวนี้เลย คุณจะเห็นเลยครับ มันไม่เหลือสภาพคลองแล้วครับ หลังฝายนี้ หรือถนนนี้ ไปดูได้เลยครับ มันไม่มีน้ำแม้แต่หยดเดียว แล้วใครจะได้ประโยชน์ ผมถามหน่อย ชาวบ้านคนไหนได้ประโยชน์ ถ้าเขาได้ประโยชน์เขาจะมาร้องเรียนผมทำไม คนที่ได้ประโยชน์มีแต่คุณศรีวราห์คนเดียว เพราะอะไร น้ำที่กักอยู่ในที่ของแก เหนือขึ้นไปก็ยังเป็นที่ของแก น้ำมาอยู่ของแกเต็มเลยนะ แกมีน้ำไว้ใช้ในที่ของแก แกมีทางสัญจรเชื่อมระหว่างที่ดินสองแปลง ไหนแกบอกแกไม่ได้ประโยชน์ไง นี่ล่ะแกได้ประโยชน์โดยตรงนะ แต่แกได้ประโยชน์คนเดียว ประชาชนคนอื่นได้ประโยชน์ตรงไหน เพราะแกก็บอกเองว่าที่มันตาบอดทั้งหมด มันไม่ใช่ทางสัญจรสาธารณะที่คนอื่นมาใช้ด้วยที่ไหน ชัดไหม
เติมศักดิ์- ตอนท้ายดูเหมือนว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ พยายามจะพูดถึงมูลเหตุจูงใจที่คุณวีระมาร้อง ก็คือบอกว่าก่อนหน้านี้คุณวีระถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ไม่ทราบว่านายวีระไปกินดีหมีที่ไหนมา และการกระทำอย่างนี้ถือว่าผิดกฎหมายอาญา มาตรา 172 ใส่ความพนักงานเจ้าหน้าที่ และมาตรา 326 ว่าด้วยการหมิ่นประมาท และไปแจ้งความดำเนินคดี หมิ่นประมาท ใส่ความเจ้าหน้าที่ ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
วีระ- ก็ผมบอกแล้วไง ผมไม่ใช่ ตาวีระนะ ผมไม่ใช่คนแก่ๆ ตาวีระ ผมเป็นเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน มา 20 กว่าปีนะคุณเติมศักดิ์ ทำหน้าที่ช่วยราชการตรวจสอบการทุจริตหรือการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ
เติมศักดิ์- เป็นสถานะที่สาธารณชนก็รู้ดี
วีระ- เขาก็รู้จักผมกันหมดนะ แล้วเรื่องที่คุณศรีวราห์บอกว่า แกมาดำเนินคดีกับผม เรื่องผมผิด พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ไปจัดการชุมนุมในเขตพระราชฐาน ให้กฎหมายเขาดำเนินการไป ผมยังไม่อยากพูดตอนนี้ ซึ่งผมบอกได้เลยว่าผมไม่ได้ไปยุ่งเลย แต่แกมากล่าวหาผม ซึ่งเดี๋ยวไปสู้กัน ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องระหว่างตำรวจกับผม แต่ผมก็เพิ่งรู้ว่าคุณศรีวราห์บอกเองว่าแกเป็นคนอยู่เบื้องหลังนะ ถ้าพูดอย่างนี้ แกยอมรับเองนะ ซึ่งเมื่อก่อนผมก็ยังไม่รู้นะว่าตำรวจมาดำเนินคดีกับผมนี่ ใครดำเนินคดี เพราะตำรวจที่ผมถามว่าคดีนี้ใครเป็นเจ้าทุกข์ เขาบอกว่าพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต แต่เมื่อวานนี้ผมเพิ่งรู้นะว่าคนอยู่เบื้องหลังคือคุณศรีวราห์เอง แกรับเองนะ ว่าผมเป็นคนดำเนินคดีกับวีระ แกพูดเอง ตอนนี้ผมเลยรู้ ผมเพิ่งรู้เมื่อวานนี้ว่าคุณศรีวราห์อยู่เบื้องหลัง
เติมศักดิ์- คือกำลังจะบอกว่าไม่ใช่เพราะรู้ว่าคุณศรีวราห์อยู่เบื้องหลัง แค้นก็เลยเอาเรื่องนี้มา
วีระ- ก็เมื่อก่อนผมยังไม่รู้เลย ว่าใคร ตำรวจคนไหนเป็นคนดำเนินคดีกับผม มีแต่ตำรวจ สน.ดุสิต บอกว่าพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เป็นคนดำเนินคดีผม เพราะผมอยากรู้ว่าใครเป็นคนใช้สิทธิมากล่าวหาผม สน.ดุสิต นี่ พ.ต.ท.บุญชัยฤทธิ์ เขาบอกว่า พนักงานสอบสวนเป็นคนกล่าวหาเอง เห็นไหม ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าตกลงมันมีมูลเหตุจูงใจจากไหน ก็เพิ่งรู้เมื่อวานนี้ว่าคุณศรีวราห์อยู่เบื้องหลัง
อีกนิดหนึ่ง คุณศรีวราห์บอกว่าผมไม่พอใจ ใช่ไหม ถึงมาทำเรื่องนี้
เติมศักดิ์- คืออาจจะไม่ได้พูดตรงๆ ก็พูดถึงกรณีที่คุณวีระเคยโดนดำเนินคดีข้อหาผิด พ.ร.บ.ชุมนุมฯ
วีระ- แล้วก็หาว่าผมนี่โกรธแก ใช่ไหม ไม่พอใจถึงมาทำเรื่องนี้ ใช่ไหม
เติมศักดิ์- ท่านอาจจะไม่พูดตรงๆ อย่างนั้น
วีระ- ก็ไม่รู้นะ
เติมศักดิ์- แต่จะมีนัยหรือไม่นี่ สังคมอาจจะตีความได้อย่างนั้น
วีระ- ผมจะบอกให้เลยนะ ก็บอกแล้วไง เมื่อก่อนผมยังไม่รู้ไงว่าคุณศรีวราห์อยู่เบื้องหลัง ก็เพิ่งรู้เมื่อวานนี้ แล้วผมจะไปมีมูลเหตุจูงใจได้อย่างไร แล้วที่สำคัญผมก็พูดตั้งแต่ต้นแล้วไง ผมเป็นเลขาฯ คปต. มีคนเขามาร้องเรียนผม แล้วผมก็ต้องตรวจสอบ เฮ้ย ทำไม ผมทำไม่ได้หรือไง ผมก็ทำกับทุกคนหมดน่ะ
เติมศักดิ์- คือการร้องเรียนนายตำรวจระดับสูงอย่างนี้ คุณวีระก็ต้องทำการบ้านและก็ต้องดูหลักฐานให้แน่ชัด
วีระ- ถูกต้อง ว่าตรงนี้ควรจะไปไหน ไป ป.ป.ช.ไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ใช้อำนาจหน้าที่ ตามหน้าที่ที่เขามีตามกฎหมาย อันนี้เรื่องส่วนตัวเขา ผมถึงต้องไป ผบ.ตร. เพราะมันเป็นเรื่องผิดวินัยข้าราชการตำรวจ และมันก็เป็นการที่ตำรวจทำผิดกฎหมายเสียเอง หมายถึงว่าเป็นความผิดส่วนตัวของตำรวจคนนี้ ถูกไหม ผู้บังคับบัญชาต้องเป็นคนตรวจสอบสิ ตามอำนาจ เขาเป็นรอง ผบ.ตร. จะให้ผมไปแจ้งกับผู้กำกับ ซึ่งมียศพันตำรวจเอก ตามสถานีตำรวจ ไหวเหรอ มันจะกล้าทำไหมล่ะ
เติมศักดิ์- คือ ไม่ใช่เรื่องแค้น แล้วก็ไม่ได้เป็นเรื่องของการที่มีวาระอะไรด้วยใช่ไหม
วีระ- จะไปแค้นยังไง ก็เพิ่งรู้เมื่อวานนี้ เขาบอกเขาดำเนินคดีกับผม ก็เพิ่งรู้เมื่อวานนี้
เติมศักดิ์- คุณวีระคาดหวังอย่างไรกับการไปร้อง ผบ.ตร.ในครั้งนี้ คิดว่าเรื่องมันจะมีความคืบหน้าไหม
วีระ- ผมก็ต้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ผบ.ตร. เป็นคนตรวจสอบ เพราะโดยอำนาจหน้าที่มันเป็นอย่างนั้น ผบ.ตร.เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของคุณศรีวราห์ ถ้า ผบ.ตร.ไม่ดำเนินการตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมา อย่างที่เราพูดกันมาตั้งแต่ต้น ผิดอะไร อย่างไร ทำได้/ไม่ได้อย่างไร มันชัดเจนหมดแล้ว โดยข้อกฎหมาย โดยข้อเท็จจริง มันชัดเจนหมดแล้ว ถ้าเขาช่วยกัน ผบ.ตร.โดนสิครับ ละเว้นนะ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผมก็ต้องเล่นงาน ผบ.ตร.ต่อ
เติมศักดิ์- ทีนี้ ออกจากเรื่องนี้ เราพูดถึงภาพรวมแล้ว ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ในยุค คสช.ที่ประกาศจะเข้ามาปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ รวมทั้งเรื่องการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชันด้วย คุณวีระประเมินอย่างไร สถานการณ์คอร์รัปชันประเทศไทยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ในยุค คสช.
วีระ- พูดตรงๆ นะ ไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะมันเหมือนเดิม เหมือนทุกรัฐบาลที่ผ่านมา เราหวังว่า คสช.อ้างว่าจะเข้ามาคืนความสุข คสช.จะเข้ามาจัดการกับความเลวร้ายที่พวกนักเลือกตั้ง พวกนักการเมือง มาทำปัญหาเอาไว้ นี่ คสช.เขาบอก เขาจำเป็นต้องยึดอำนาจ มาจัดการปัญหาต่างๆ เรื่องหนึ่งคือการแก้ปัญหาคอร์รัปชัน แต่ผมก็ไม่เห็นว่ามันดีขึ้น เพราะอะไร เพราะเรื่องความไม่โปร่งใส เรื่องของการทุจริตคอร์รัปชันมันก็ยังเกิดขึ้นมากมายในยุครัฐบาล คสช. ไม่ได้ต่างจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเลยครับ
สมัยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ในสมัยคุณทักษิณ จำได้ไหมที่เกิดพันธมิตรฯ ขึ้น เราก็พูดกันว่ารัฐบาลคุณทักษิณเป็นเผด็จการรัฐสภา คุณทักษิณใช้อำนาจมากเลย เข้าไปเรียกว่ามีอำนาจครอบงำหมด ทั้งอำนาจนิติบัญญัติ ก็คือสภา อำนาจบริหาร แน่นอนของรัฐบาลอยู่แล้ว เบ็ดเสร็จ อำนาจตุลาการ มีการพูดกันว่าแม้แต่กระบวนการตุลาการก็ยังถูกอำนาจของคุณทักษิณเข้าไปมีอิทธิพล คสช.ก็ไม่ต่างกันนะ รัฐบาล คสช.ตอนนี้ก็มีอำนาจมากเลยนะครับ แทรกแซงหมดทุกอย่างเลย แล้วผมก็ยังสงสัยอยู่ว่า 3 ปีที่ผ่านมา ขนาด คสช.มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ทำไมจัดการกับปัญหาคอร์รัปชันไม่ได้ ไม่เห็นเด็ดขาดตรงไหนเลย เรื่องการกล่าวหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชันหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนใกล้ตัวคุณประยุทธ์ นายกฯ ประยุทธ์ ก็เป็นที่ค้างคาใจของประชาชนทั้งประเทศ อย่างเช่นเรื่องของน้องชายคุณประยุทธ์ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา มีเรื่องความไม่โปร่งใสหลายเรื่องนะ แต่ไม่คืบหน้า ไม่มีการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา นี่ผมใช้คำพูดคำนี้เลย ยังค้างคาใจคนทั้งประเทศ ซึ่งผมกำลังตรวจสอบ ยังไม่ได้จบนะ ผมก็ตรวจสอบต่อนะ เรื่องตอนนี้ก็มาที่สำนักงานข้อมูลข่าวสารของทางราชการแล้วนะ
เติมศักดิ์- คือเรื่องที่ตรวจสอบก่อนหน้านี้ก็ยังตามต่อใช่ไหมครับ
วีระ- ตามต่อ ผมไม่ได้หยุดนะ ป.ป.ช.หยุด ผมไม่หยุด
เติมศักดิ์- ไม่ใช่ว่าหาเรื่องใหม่ไปเรื่อยๆ
วีระ- ไม่ใช่ เรื่องเก่าก็ติดตามอยู่ ผมต้องเอาถึงที่สุด นี่ผมยกตัวอย่างให้ฟังนะ
เติมศักดิ์- แม้ว่าจะถูกปรับทัศนคติไปหลายรอบ
วีระ- ก็ไม่เป็นไร ผมบอกแล้วไง ก็ทำตามกฎหมายแล้วกัน แล้วอะไรที่ทำผิดกฎหมายกับผมไว้ อายุความมันมีนะคุณเติมศักดิ์ คุณหมดอำนาจเมื่อไร ผมก็เอาคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
เติมศักดิ์- ตกลงไม่ดีขึ้น สถานการณ์ไม่ดีขึ้น
วีระ- ในมุมมองของผม ซึ่งเป็นคนที่ทำงานด้านนี้ พูดตรงไปตรงมาเลย ว่าไม่ได้ดีขึ้น มันดีขึ้นตรงไหนล่ะ เพราะยังมีเรื่องการใช้อำนาจโดยมิชอบ มีเรื่องของความไม่โปร่งใส และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตั้งแต่รัฐบาล คสช.เข้ามามีอำนาจ กระบวนการตรวจสอบจากภาคประชาชนอ่อนแอมาก บอกได้เลย
สมัยคุณทักษิณ ซึ่งเราว่ามันสุดๆ แล้วนะ มันแย่สุดๆ เขาก็ไม่เคยมายุ่งกับการตรวจสอบภาคประชาชน เขาไม่เคยมาข่มขู่คุกคามนะ คุณจำได้ไหม คุณศรีสุวรรณ จรรยา จะไปยื่นกับคุณประยุทธ์ ให้ตรวจสอบเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ ยังไม่ทันยื่นเลย ทหารหิ้วไปแล้ว อย่างนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นในสมัยคุณทักษิณนะ ขนาดเราว่าทักษิณแย่แล้วนะ แต่เขาก็ไม่ทำแบบนี้กับภาคประชาชนที่มาตรวจสอบเขานะ ผมตรวจสอบคุณทักษิณ จนคุณทักษิณถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก 2 ปี คุณทักษิณเขาก็ไม่เคยที่จะเอานักเลงอันธพาล หรือเอาทหาร ตำรวจมาอุ้มผมนะ เขาไม่พอใจผม เขาก็ไม่ได้มาทำอย่างนั้น อย่างโจ๋งครึ่ม เขาไม่เคยแสดงอำนาจอย่างนั้นกับผมนะ เห็นไหม ผมก็ยังอยู่ได้ ผมรู้ว่าเขาโกรธผม เขาเกลียดผม เขาไม่พอใจผม แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียดเหมือนอย่างที่ คสช.ทำ
คสช.นี่ทำอะไรกับผม นอกจากทำกับคุณศรีสุวรรณ ส่งทหารไปคุกคามผมที่บ้านผม ไปปิดหมู่บ้าน ไม่ให้ผมออกจากหมู่บ้าน นวธานี อย่างนี้เป็นต้น
เติมศักดิ์- ทุกวันนี้คุณวีระไม่ได้คิดหรือครับว่าแต่ละเรื่องที่ตรวจสอบ มันเหมือนมาดิสเครดิตรัฐบาลชุดนี้ ดิสเครดิต คสช. และเป็นประโยชน์กับฝ่ายคุณทักษิณ
วีระ- คือคุณเติมศักดิ์ ผมทำมาทุกรัฐบาล เออ ถ้าผมเพิ่งมาเริ่มทำกับรัฐบาล คสช.สิครับ ผมทำมาทุกรัฐบาล ตั้งแต่สมัยคุณชวน หลีกภัย ชวน 1 มาบรรหาร มา พล.อ.ชวลิต มาชวน 2 แล้วก็มายุคคุณทักษิณ มายุคคุณสมัคร มายุคคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เสร็จแล้วผมไปติดคุกอยู่เขมร มันถูกเว้นวรรคช่วงนี้ มีแต่คุณยิ่งลักษณ์ไม่โดนผม เพราะผมไปติดคุกเสียก่อน ผมไม่ได้เว้นใคร คุณเติมศักดิ์ ถ้าอย่างนั้นก็กลายเป็นว่า ถ้าผมตรวจสอบคุณชวน สมัยรัฐบาลชวน 1 เสร็จแล้วพอมารัฐบาลคุณบรรหาร ผมก็ตรวจสอบคุณบรรหาร ดำเนินคดีกับคุณบรรหารด้วย อ้าว มันก็ต้องเป็นประโยชน์กับรัฐบาลชุดที่แล้ว ก็คือชวน 1 สิ เอาล่ะ พอเปลี่ยนมาเป็นรัฐบาลชวลิต ผมตรวจสอบรัฐบาลชวลิต มันก็เป็นประโยชน์กับรัฐบาลบรรหาร กับชวน 1 สิ พอเปลี่ยนมาเป็นรัฐบาลชวน 2 มันก็เป็นประโยชน์กับบรรหาร ชวลิต อีกสิ ถ้าบอกตรรกะอย่างนี้นะ ถ้าใช้ตรรกะอย่างนี้ บอกว่าผมมาตรวจสอบ คสช. คนได้ประโยชน์คือยิ่งลักษณ์ และทักษิณ คนอื่นๆ ล่ะ ที่ผมตรวจสอบมาแล้วล่ะ เห็นไหม ผมบอกว่าตรรกะนี้มันใช้ไม่ได้ เพราะว่าผมตรวจสอบทุกรัฐบาล ตรวจสอบทุกคน แล้วก็ดูความจริง ดูสาระของมัน ว่าเรื่องที่ผมตรวจสอบมันมีความจริงไหม อยู่ๆ ผมลุกขึ้นมากล่าวหา มาแกล้งเขาไหม อยู่ๆ ไม่ได้มีความจริงเลย แล้วผมมาแกล้งเขา
เติมศักดิ์- แล้วองค์กรตรวจสอบ อย่าง ปปง. สตง. ผู้ตรวจการแผ่นดิน ยุคนี้ล่ะครับ เป็นไปตามความคาดหวังของประชาชนแค่ไหนครับคุณวีระ
วีระ- มันไม่คาดหวังเลย ผิดหวัง อย่าว่าแต่คาดหวังเลย ผิดหวัง เพราะมันยังมีอีกหลายเรื่องที่ค้างคาใจ ที่เราดูว่าอย่างนี้คนที่ได้ประโยชน์คือคนถูกกล่าวหานะ เหมือนกับว่าเขาตรวจสอบแล้วเหมือนไปการันตี แล้วออกมาแถลงข่าวว่าไม่พบความผิด บริสุทธิ์ผุดผ่อง
เติมศักดิ์- เหมือนไปฟอก?
วีระ- ไปฟอก นี่ผมไม่ได้พูดเองนะ นี่ออกทางสื่อนะ นี่ผมไม่ได้พูดเองนะ เป็นความรู้สึกของสังคมนะเขาบอกอย่างนี้มันฟอกกันนี่ ล่าสุดผู้ว่าฯ สตง.ออกไปตรวจสอบการจัดซื้อเรือดำน้ำ ไม่กี่วันออกมาการันตี บอก บริสุทธิ์ผุดผ่อง เอ้า ไม่เป็นไรๆ คดีความมีอายุ มันยังมีอายุความของมัน ไม่เป็นไร
เติมศักดิ์- สุดท้ายครับ คิดว่ารัฐประหารครั้งนี้จะเสียของอีกหรือเปล่า คุณวีระ
วีระ- มันจะเหลือรึ มันได้อะไรล่ะ ผมถามคุณเติมศักดิ์ มันมีการปฏิรูปอะไรหรือยัง ในความเห็นของผมนะ ผมยังไม่เห็นมีการปฏิรูปอะไรสักเรื่องเลย คุณเห็นไหมสังคมเรียกร้องอะไรมาก เรื่องใหญ่ๆ ที่สังคมเรียกร้องเรื่องหนึ่งคือปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มันได้ปฏิรูปไหม ผมจำได้ว่าตั้งแต่ปี 57 คุณประยุทธ์พูดชัดเลย บอกว่าไม่ปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รอให้รัฐบาลหน้ามาปฏิรูป แล้วคุณพูดทำไม ตอนคุณยึดอำนาจใหม่ๆ คุณบอกว่ารัฐบาลคุณจะเข้ามาคืนความสุข รัฐบาลคุณจะเข้ามาปฏิรูปประเทศ แล้วทำไมเรื่องสำนักงานตำรวจแห่งชาติคุณไม่กล้าไปแตะ คุณกลัวอะไร
เติมศักดิ์- ที่จริงอำนาจพร้อม เงื่อนไขก็ดี สังคมก็สนับสนุน
วีระ- แต่ไม่กล้าแตะตำรวจมันคืออะไร เห็นไหม แค่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าเปรียบมันก็เหมือนกรมๆ หนึ่ง ยังไม่กล้าปฏิรูป ยังไม่กล้าแตะเลย เหมือนกองทัพหนึ่งย่อยๆ ไม่กล้าแตะ ไม่กล้ายุ่งกับตำรวจ แล้วอย่างนี้ประชาชนจะเหลืออะไรล่ะ จะเหลือความเชื่อมั่นตรงไหน แล้วจะมาบอกว่าไม่เสียของได้อย่างไร ผมก็ต้องบอกว่าเสียของสิครับ เอาแค่เรื่องเดียว สำนักงานตำรวจแห่งชาติคุณยังไม่กล้าแตะเลย
เติมศักดิ์- โอกาสหน้ามาว่าเรื่องอื่นกันต่อ
วีระ- นับประสาอะไรกับอีกหลายเรื่อง ระบบราชการก็ไม่ปฏิรูป กระบวนการยุติธรรมก็ไม่ปฏิรูป สิ่งที่มันจะเกี่ยวพันกับชีวิตความเป็นอยู่ และเกี่ยวกับสิ่งที่จะทำให้เกิดสังคมมันอยู่เป็นสุข ไม่เกิดความขัดแย้ง คุณไม่ได้ลดความขัดแย้งตรงนี้ลงเลย ลึกซึ้งผมเชื่อเลยว่าต่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ ความขัดแย้งก็ต้องเกิดขึ้น พอมันขัดแย้ง เดี๋ยวทหารก็มาอ้างเหตุยึดอำนาจอีก ผมบอกกับคุณเติมศักดิ์ บอกกับท่านผู้ชม ณ วันนี้เลยนะ วีระ สมความคิด ไม่เชื่อว่าประเทศไทยจะไม่มีปฏิวัติอีก ผมเชื่อว่ามีอีกแน่นอน
เติมศักดิ์- และเชื่อว่าหลังเลือกตั้งความขัดแย้งเกิดขึ้น
วีระ- เกิดขึ้นอีก แล้วเดี๋ยวก็มีคนจ้องปฏิวัติอีก
เติมศักดิ์- แสดงว่านี่คือความสงบชั่วคราว
วีระ- ถูกต้อง เสียของไหม
เติมศักดิ์- ครับ ขอบคุณมากครับคุณวีระ ขอบคุณครับ คนเคาะข่าวลาไปก่อน สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น