ข่าวปนคน คนปนข่าว
ดังเปรี้ยงข้ามคืน กับวลีเด็ด “จับสื่อไปยิงเป้า” ชนิดดาวสภายังอาย ทำเอา“เสี่ยเยิ้ม” พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สมาชิก สปท. และ ตท.12 เพื่อนร่วมรุ่น “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่หลังไมค์กัดฟันกรอดๆ ต้องออกมาเต๊ะท่า ดี๊ด๊าหน้าไมค์ ขอบคุณทุกสื่อที่ช่วยประจาน เอ๊ยย.. เสนอข่าวการอภิปรายของตัวเองในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองสื่อฯ เมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค. จนทำให้คนทั้งประเทศได้รู้จัก พร้อมทั้งชี้แจงกรณีมีชื่อเป็นหุ้นส่วนบริษัทห้างร้าน ก็เพื่อทำกิจการสนามกอล์ฟ - สนามกีฬา ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 เปิดโอกาสให้ครอบครัวญาติมิตรผู้ใต้บังคับบัญชาได้มีงานทำ เพิ่มรายได้ให้ครอบครัวลูกน้อง ฟังแล้วก็เอามือทาบอก ซาบซึ้งในความ “ใจพระ” ของ พล.อ.ธวัชชัย เสียจริงๆ รู้จักทำมาหากิน แถมเผื่อแผ่ลูกน้องอีก มิน่าไม่ค่อยมีใครเรียก“ท่านแม่ทัพ” เท่าไร เห็นเรียกกันว่าปากว่า“เสี่ยเยิ้มๆ” แต่เอ๊ะ.. แก้ข่าวอยู่เรื่องเดียว เรื่องกุนเชียง เรื่องบ้านเล็ก เรื่องสายตะกู ไม่ยักจะพูดถึงแฮะ
ปัดกันเป็นแถว เรื่องที่ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินเกมไล่เทกโอเวอร์ “พรรค SMEs”ทำพรรคสำรอง แก้เกมกติกาหิน เลือกตั้งแบบ“แบ่งสรรปันส่วนผสม” ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ออกตัวมาก่อนเพื่อนก็ พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ข่าวลือแรงกว่าเพื่อน จนต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าว“เดอะท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา ทายาทอดีตนายกฯบรรหาร ผู้ล่วงลับ ที่ออกตัวตามสูตรว่า ไม่มีดีลเทกโอเวอร์อย่างที่เป็นข่าว ส่วน “ผู้ใหญ่ในพรรค” คนไหนไปตกปากรับคำเอาไว้ อันนี้ไม่รู้เรื่องด้วย ... ที่น่าสนใจมากกว่า นั้นมูฟเมนต์ของอีก 2 พรรค ที่ผสมโรงออกมาปฏิเสธด้วย ทั้ง “พลังชล - ชาติพัฒนา” ที่ว่ากันตามจริงไม่ได้มีข่าวลืออะไรกับเขาด้วย แบบนี้ทางการเมืองเขาว่า “เคาะชามข้าว” กันนะท่านนะ
เมื่อวานว่ากันเรื่องที่จู่ๆ กสทช. ก็ “ปาดหน้าเค้ก” รับบท“นักล่าเน็ตไอดอล” เป็นเจ้าภาพดูเรื่อง OTT โอเวอร์เดอะท็อป (Over The Top) ตีขลุมเอาว่า อะไรก็ตามแต่ที่เป็นการออกอากาศ “ภาพ - เสียง” บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อยู่ในการกำกับของ กสท. ที่อยู่อันเดอร์ กสทช. อีกที ทั้งที่จริงๆ ควรเป็นอำนาจของ “กระทรวงดีอี” หรือของทางตำรวจ ที่มีหน่วยงาน ป.อ.ท. อยู่แล้ว
สายข่าวจากซอยสายลม ฐานบัญชาการ กสทช. แจ้งถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังเกมนี้มาว่า เป็นความพยายามปั้นผลงานก่อนที่ กสทช. ชุดปัจจุบัน จะหมดวาระ ในวันที่ 7 ต.ค. นี้ ซึ่งกระบวนการสรรหา กสทช. ชุดใหม่ จะเริ่มเร็วๆ นี้ หลังกระบวนการแก้ กม. กสทช. ตามรัฐธรรมนูญ ม.274 แล้วเสร็จ โดยมีเก้าอี้ให้แย่งกันแค่ 7 ตัว จากเดิม 11 ตัว ที่ว่าเทอะทะเกินไป ซึ่งก็มี “บางคน”พยายามเสนอให้มีการใช้ ม.44 ตั้งบอร์ดรักษาการไปพลางก่อน
ว่ากันต่อว่า กระบวนการเสนอใช้ ม.44 ให้ตั้งบอร์ดรักษาการนั้น เป็นความพยายามของ 2 กลุ่มที่แย่งชิงกัน คือ กลุ่ม“ฐากร ตัณฑสิทธิ์” เลขา กสทช. กับ“พ.อ.นที ศุกลรัตน์” รองประธาน กสทช. ที่แม้จะเหมือนรับลูกกันเรื่อง OTT แต่จริงๆ แล้ว“งัดข้อ” กันตลอด โดยมีกลุ่มของ “พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี” ประธาน กสทช. คอยจับตาดูอยู่อย่างสุขุม จนภายใน กสทช. แตกออกเป็น“สามก๊ก” ขณะที่ก๊กของ “พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ”รองประธาน กสทช. อีกคน ก่อนหน้านี้ ก็เคยตั้งป้อมจะรบด้วย แต่ก็แผ่วไปสนับสนุนก๊วนของ “เลขาฯ ฐากร” แทน
โดยมีกระแสข่าวว่า แผนงานเรื่อง OTT ที่เสนอไปถึง “ผู้ใหญ่ในรัฐบาล” นั้นได้รับการรังสรรค์โดย “เลขาฯ ฐากร” ที่แม้จะมีอายุงานยาวๆ ไปอีก 5 ปี แต่คงเบื่อตำแหน่งแม่บ้านองค์กรที่ตัวเองชักเข้าชักออกมา 3 - 4 รอบเต็มที เลยเขียนแผนอัปเกรดตัวเองให้เป็นรักษาการประธานบอร์ด กสทช. พร้อมโพยรายชื่อบอร์ดอีก 6 คน ขณะที่ “เสธ.น้ำ” พ.อ.นที ผู้ตั้งตนเป็น “หนึ่งในใต้หล้า” เรื่องสื่อสารโทรคมนาคม ก็รู้ตัวว่าจะตกงานหมดหน้าที่ภายใน 5 เดือนข้างหน้า ก็สู้สุดตัว - เทหมดหน้าตัก กะคว้าที่นั่งประธานรักษาการ เช่นกัน โดยหวังพึ่ง “อภินิหารกฎหมาย” อย่าง ม.44 ล้มกระดานสรรหา กสทช. ชุดใหม่
ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวหนาหูอีกว่า ด้วยอารมณ์หมั่นไส้ บอร์ดชุดปัจจุบันที่เป็นชุดแรกในประวัติศาสตร์ ที่ปู้ยี้ปู้ยำอำนาจจนเละเทะ อาจสั่งปิดตำนาน กสทช. โดยแก้ไขกฎหมายให้กลายสภาพเป็นแค่หน่วยงานระดับ“กรม” สังกัดกระทรวงดีอี พร้อมโยก “ขุมทรัพย์” อย่างเงินกองทุน กสทช. ไปด้วย
ช.ชฎา