xs
xsm
sm
md
lg

“ศรีสุวรรณ” ร้องผู้ตรวจฯ ชงศาล ปค.วินิจฉัยลงนามซื้อเรือดำน้ำ ผิด พ.ร.บ.งบฯ-ขัด รธน.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ศรีสุวรรณ” นำคณะยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาลปกครองวินิจฉัยลงนามจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นโมฆะ ชี้ผิด พ.ร.บ.งบประมาณ-ขัด รธน. แจงที่ยื่น สตง.สอบก่อนหน้านี้คนละเรื่อง ขออย่าปนกัน ย้อนผลการพิจารณาเป็นเครื่องตรวจสอบการทำงานขององค์กรเหล่านั้น



วันนี้ (8 พ.ค.) สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำโดยนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายสงัด ปัถวี รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ใช้อำนาจรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (2) เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลปกครองวินิจฉัยว่าการดำเนินการลงนามในสัญญาจัดซื้อเรือดำน้ำ S-26T จากจีนของรัฐบาล หรือกระทรวงกลางโหม หรือกองทัพเรือ เป็นการกระทำของหน่วยงานรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบตามรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายหรือไม่

โดยนายศรีสุวรรณระบุว่า การจัดซื้อดังกล่าวว่า อาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.วิธีงบประมาณ พ.ศ. 2502 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2503 มาตรา 23 ที่ระบุว่าหน่วยงานของรัฐที่จะก่อหนี้ผู้พัน จะต้องเสนอเรื่องให้ ครม.อนุมัติให้ความเห็นชอบภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีนั้นใช้บังคับ ซึ่งในกรณีนี้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ถูกใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 59 ครม.สามารถอนุมัติก่อหนี้ผู้พันได้ไม่เกินวันที่ 30 พ.ย. 59 แต่กลับพบว่าเรื่องดังกล่าว กองทัพเรือมีการเสนอให้ ครม.พิจารณาในวันที่ 18 เม.ย. 60 ซึ่งถือว่าเกินระยะเวลา 60 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด

“หรือจะอ้างว่า ทร.เสนอตั้งแต่ช่วง 60 วัน แต่ก็เหมือนกับว่า ครม.ยังไม่เห็นรายละเอียดของการจัดซื้อจัดจ้าง เท่ากับว่า ครม.เซ็นต์เช็คเปล่าให้กับ ทร.หรือไม่” นายศรีสุวรรณกล่าว

นอกจากนี้ นายศรีสุวรรณยังเห็นว่า การลงนามซื้อเรือดำน้ำแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี น่าจะเข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคง การลงทุนของประเทศ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 178 ซึ่งกำหนดว่าต้องเสนอให้รัฐสภา หรือ สนช.ให้ความเห็นชอบก่อน แต่เมื่อวันที่ 5 พ.ค. พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำซึ่งเป็นผู้แทนของรัฐบาลไทย ได้ลงนามข้อตกลงจ้างสร้างเรือดำน้ำลำที่ 1 กับประธานกรรมการบริษัทของจีน ดังนั้นเพื่อให้กรณีดังกล่าวเกิดความชัดเจนว่าการกระทำเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.วิธีงบประมาณ และขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาและเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลปกครอง เพื่อให้วินิจฉัย ว่าการลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างเรือดำน้ำจากจีนลำที่ 1 เป็นโฆฆะ

นายศรีสุวรรณยังกล่าวถึงการยื่นเรื่องให้ สตง.ตรวจสอบเรื่องเรือดำน้ำในก่อนหน้านี้ ว่าเป็นคนละเรื่องกับการยื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน อย่าพยายามนำมาปนกัน ขณะนี้ สตง.ก็ยังไม่มีการชี้ชัดออกมาว่าการกระทำของ ทร.เข้าข่ายผิดวิธีงบประมาณหรือไม่ ซึ่งจะเฝ้าติดตามต่อไป ว่าผลการพิจารณาจะออกมาสอดคล้องกับข้อเท็จจริง และเป็นที่ยอมรับของสาธารณชนหรือไม่ โดยผลของการพิจารณาก็จะเป็นเครื่องตรวจสอบการทำงานขององค์กรเหล่านั้นเอง

ด้านนายสงัดกล่าวว่า คำร้องนี้เป็นคำร้องแรกของผู้ตรวจการแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญใหม่ ยืนยันว่าผู้ตรวจฯ มีอำนาจในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชนและคำร้องก็ชัดเจน ทางสำนักงานก็จะเร่งเสนอให้ผู้ตรวจฯพิจารณาโดยเร็ว ส่วนที่จะมีการจ่ายเงินงวดแรก 700 ล้านในวันที่ 24 พ.ค.นี้ ทางผู้ตรวจฯไม่มีอำนาจสั่งระงับการกระทำดังกล่าว เพราะไม่ใช่ศาลที่จะไปสั่งคุ้มครองชั่วคราวได้ แต่หากท้ายที่สุดศาลมีคำวินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ ศาลก็สามารถสั่งเพิกถอนการกระทำที่ผ่านไปแล้วได้ ส่วนความเสียหายก็สามารถเรียกร้องทางแพ่งได้


กำลังโหลดความคิดเห็น