“มาร์ค” จี้รัฐถกมาเลย์สกัดก่อการร้าย “ถาวร” ซัดเพื่อนบ้านควรคุยตรงๆ ดีกว่าปล่อยข่าว

หัวหน้าประชาธิปัตย์ จี้รัฐบาลจริงจังประสานมาเลเซียหาข้อมูลสกัดกั้นก่อการร้าย แต่รับยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ไฟใต้เอี่ยวรัฐอิสลาม ด้านอดีต มท.2 ยันไทยไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งไอเอส ไม่ได้ทำรุนแรงมุสลิม แนะเจ้าหน้าที่เพิ่มการเฝ้าระวัง ตั้งด่านตรวจจริงจัง มีตำรวจคุม สวนเพื่อนบ้านอ้างขนอาวุธจากไทยควรถกกับกรรมการชายแดนมากกว่าปล่อยข่าวลอยๆ ทำไทยเสีย จี้รัฐไปคุย

วันนี้ (4 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ทางการมาเลเซียเตือนพบกลุ่มไอเอสหนีเข้าไทย ประกอบกับเกิดเหตุการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ว่า ภัยจากการก่อการร้าย และไอเอสเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอยู่แล้ว ที่ผ่านมาทั้งในภูมิภาคของเราเอง หรือภูมิภาคอื่นต่างจับตาว่าการเคลื่อนไหวในภูมิภาคนี้ รวมถึงกรณีภาคใต้ของไทยด้วย ดังนั้น รัฐบาลต้องจริงจังในการประสานกับมาเลเซียเพื่อให้ได้ข้อมูลและหาทางที่จะป้องกันสกัดกั้นตามนั้นไป แต่ส่วนตัวยังไม่คิดว่ามีอะไรที่เป็นตัวบ่งชี้ว่า สถานการณ์ชายแดนภาคใต้รวมทั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นไปเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส หน่วยงานความมั่นคงก็ต้องติดตาม แล้วก็ต้องประสานงานกันกับประเทศเพื่อนบ้าน

ด้านนายถาวร เสนเนียม อดีต รมช.มหาดไทย และอดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องการรักษาความมั่นคง รักษาความสงบเรียบร้อยนั้นเป็นหน้าที่ของทหาร ตำรวจ และของรัฐบาล ตนคาดว่าประชาชนคงมีทั้งเชื่อและไม่เชื่อตามที่เจ้าหน้าที่ของรัฐได้แจ้ง เพราะคำอธิบายของรัฐจะมีแนวทางไม่ให้คนตื่นตกใจ แต่อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับกลุ่มไอเอส เพราะไม่ได้เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ในตะวันออกกลาง และไม่ได้กระทำอะไรรุนแรงต่อพี่น้องชาวมุสลิม ดังนั้นตนขอย้ำว่ามีความกังวลแน่นอนเพราะไม่อยากให้เกิดเหตุรุนแรงในประเทศไทย ปัญหาในพื้นที่เท่าที่มีอยู่ก็มากพอสมควรอยู่แล้ว

นายถาวรกล่าวต่อว่า ดังนั้นเจ้าหน้าที่ก็ควรที่จะเพิ่มการเฝ้าระวังในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา ที่จะเกิดเหตุอยู่บ้าง ในขณะนี้เรามีภาคประชาชนที่รียกว่ากลุ่มตาสับปะรดคอยทำหน้าที่ดูแลคนแปลกหน้าที่ และสิ่งแปลกปลอม ยานพาหนะแปลกปลอมที่เข้ามาในพื้นที่อยู่เป็นประจำ แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญตนขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่รัฐทำงานตั้งด่านตรวจอย่างจริงจัง ขอให้นายทหาร นายตำรวจกำกับดูแลประจำที่ตรงด่านตรวจอยู่ทุกด่าน มิฉะนั้นแล้วเจ้าหน้าที่ทหารหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าประจำด่านตรวจก็จะขาดประสบการณ์ ขาดการเรียนรู้ การสังเกตสิ่งผิดปกติต่างๆ ส่งผลให้การตรวจสอบไม่มีประสิทธิภาพ

เมื่อถามต่อว่า ในรายงานข่าวจากทางการมาเลเซียมีการระบุมีการลักลอบขนอาวุธจากภาคใต้ของไทย มาให้พวกผู้ก่อการร้ายไอเอสใช้ในมาเลเซีย นายถาวรกล่าวว่า การขนอาวุธข้ามแดนนั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมายอยู่แล้ว แต่ก็มีคณะกรรมการชายแดนไทย-มาเลเซีย มีผู้รับผิดชอบร่วมกันทั้งสองประเทศในด้านของการรักษาความสงบเรียบร้อยและด้านอื่นๆ อยู่แล้ว ดังนั้นหากทางการมาเลเซียจะออกมาแถลงข่าวเรื่องนี้ ตนคิดว่าควรจะพูดหารือกับคณะกรรมการที่มีอยู่แล้ว ดีกว่าจะออกมาพูดลอยๆ เพราะการออกมาพูดแบบนี้ทำให้ประเทศไทยเสียหายและถูกเข้าใจว่าสนับสนุนการก่อความไม่สงบได้ ถ้าหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงก็มีทั้งเวทีทวิภาคีที่ทั้งไทยและมาเลเซียสามารถพูดคุยกันได้ผ่านคณะกรรมการชายแดนและมีเวทีหารือพหุภาคีผ่านเวทีอาเซียน ซึ่งตนสนับสนุนให้ใช้เวทีเหล่านี้พูดคุยกันดีกว่าจะมากล่าวลอยๆ และขอเรียกร้องไปยังฝ่ายการทูตหรือ รมว.ต่างประเทศของไทยให้หยิบยกเรื่องนี้มาหารือกับทางมาเลเซียอย่างจริงจังด้วย