สื่อรัฐสภาสวมเสื้อต้านร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสื่อ ด้านนายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ นำจี้ สปท.ถอนกฎหมาย “อลงกรณ์” ชี้ต้องฟังความเห็นตาม ม.77 ยันไม่มีเจตนาครอบงำ แต่ต้องปฏิรูป ให้ปลอดจากอำนาจรัฐและทุน แนะรอดูผลวันนี้ ด้านเลขาฯ สภาการ นสพ.โวยเอาชื่อองค์กรไปใส่นั่ง กก.สภาวิชาชีพฯ โดยไม่ถามก่อน
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่รัฐสภา ตั้งแต่ช่วงเช้าบรรดาสื่อมวลชนประจำรัฐสภาทุกแขนงได้พร้อมใจกันใส่เสื้อสัญลักษณ์คัดค้านร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. ... ภายหลังจากที่ คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้ผลักดันพิจารณาเข้าสู่วาระการพิจารณา สปท.ในวันนี้ (1 พ.ค.) โดยเป็นเสื้อสีขาว มีภาพชูมือสีดำกำโซ่ ปลดปล่อยนกพิราบ โดยมีข้อความใต้ภาพว่า “หยุดตีทะเบียนสื่อ ครอบงำประชาชน” เพื่อแสดงพลังคัดค้านไปถึง “รัฐ” และ สปท.เพื่อขอคัดค้านและให้ สปท.ถอนร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวออกไปก่อน พร้อมกับชูป้ายแสดงสัญญลักษณ์ดังกล่าวด้วย
ต่อมาเวลา 09.30 น. ที่บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา 1 ตัวแทนนักข่าว และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นำโดยนายปราเมศ เหล็กเพ็ชร์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสื่อมวลชน ได้ยื่นหนังสือคัดค้านและขอให้ยกเลิกร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว โดยผ่านนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท.คนที่ 1 ก่อนที่จะมีการประชุม สปท.
ด้านนายอลงกรณ์กล่าวภายหลังการรับหนังสือว่า การเสนอกฎหมายต้องรับฟังตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ ปี 60 คือต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ยืนยันว่าเราไม่มีเจตนาครอบงำ แทรกแซงสื่อมวลชน แต่การปฏิรูปสื่อเป็นหนึ่งในภารกิจการปฏิรูปเร่งด่วน โดยต้องให้สื่อปลอดจากการครอบงำจากอำนาจรัฐและอำนาจทุน และยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติและส่วนรวมเป็นหลัก อย่างไรก็ตามขอให้สื่อดูผลสรุปการประชุม สปท.ในวันนี้ ว่าจะออกมาอย่างไร
ด้านนายชาย ปถะคามินทร์ เลขาธิการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กล่าวว่า ตามเนื้อหาที่ปรากฏว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีการกำหนดให้ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติไปเป็นหนึ่งในคณะกรรมการเพื่อเตรียมการจัดตั้งสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาตินั้น สภาการหนังสือพิมพ์ฯ ขอแจ้งว่า การนำชื่อตำแหน่งและชื่อองค์กรสภาการหนังสือพิมพ์แห่งไปใส่ไว้ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว โดยไม่ได้มีการหารือหรือได้รับความยินยอมจากสภาการหนังสือพิมพ์ฯ อาจขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และเราขอยืนยันจุดยืนในการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เนื่องจากเป็นร่างกฎหมายที่มีเนื้อหาจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนและสื่อมวลชนซึ่งไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน