“โอ๊ค” โชว์แชตไลน์ “ทักษิณ” เผยกลยุทธ์ดันราคายางพุ่ง ด้วยการรวมกลุ่ม 3 ประเทศผู้ผลิตยางรายใหญ่ของอาเซียน “ไทย - อินโด - มาเลเซีย” จัดตั้งบริษัทรับซื้อยางโดยกำหนดราคาขั้นต่ำที่ 1 USD ทำราคาตลาดโลกกระโดดทันที โวพ่อมีวิศัยทัศน์ แค่วิธีง่ายๆ ก็แก้ไขกลไกตลาดที่ถูกบิดเบือนได้ ไม่เหมือน “ประยุทธ์” ไล่ชาวสวนยางให้ไปขายที่ดาวอังคาร
วันนี้ (30 เม.ย.) นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Oak Panthongtae Shinawatra” ถึงการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ ว่า ... วันอาทิตย์เบาๆ ผมขอนำ Capture หน้าจอ ที่ผมคุยกับคุณพ่อเรื่องราคายาง มาอธิบายตอนที่คุณพ่อผมทำราคายางให้ขึ้นไปแบบง่ายๆ มาให้ดูนะครับ
ทำความเข้าใจสั้นๆ ง่ายๆ คือ เดิมราคายางบ้านเรา ถูกบิดเบือนกลไกตลาดโลกจากพ่อค้าคนกลาง ที่กดราคารับซื้อยางจนต่ำติดดิน และผู้ผลิตยางแต่ละประเทศก็แย่งกันขายโดยตัดราคากัน ทำให้ราคายางอยู่ที่ประมาณ 20 ±บาท มาโดยตลอด
คุณพ่อผมซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เห็นว่า ประเทศผู้ผลิตยางสามประเทศในอาเซียน ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย สามารถผลิตยางรวมกันได้มากที่สุดในโลก เหตุใดจึงต้องให้พ่อค้าคนกลางมากำหนดราคาด้วย จึงได้เชิญชวนผู้นำอีกสองประเทศมาพูดคุย และในที่สุดก็มีการร่วมมือกันจัดตั้งบริษัทยางของทั้ง 3 ประเทศขึ้น
หลักการง่ายๆ คือ บริษัทนี้รับซื้อยางที่ราคากิโลกรัมละ 1 USD (ประมาณ 35 บาท) ในขณะที่ราคายางในตลาดโลกโดนพ่อค้าคนกลางกดไว้ที่ 20 บาท ถ้าใครขายได้แพงกว่า 1 USD ก็ขายไปเลย แต่อย่าไปขายถูกกว่า เพราะบริษัทนี้รับซื้อที่ 1 USD อยู่แล้ว ปรากฏว่า ราคายางในตลาดโลกกระโดดขึ้นไปทันที เมื่อราคาน้ำมันแพงขึ้น ราคายางสังเคราะห์ก็เพิ่มขึ้น ราคายางดิบก็ขึ้นต่อเนื่องไปอีก อย่างที่เราเห็นๆ กัน
ง่ายดีไหมครับ สำหรับนายกรัฐมนตรีที่เข้าใจกลไกทางการค้า และมีวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจ เพียงแค่ดำเนินกลยุทธ์ง่ายๆ ก็สามารถแก้ไขกลไกตลาดที่ถูกบิดเบือนได้ ไม่ต้องเก็บสต๊อก (ลม) ยาง แล้วมีมือมืดแอบมาเผาโกดัง เหมือนที่รัฐบาลเก่าในอดีตนิยมทำกัน... และก็ไม่ต้องไล่ชาวสวนยางไปขายที่ดาวอังคาร แบบรัฐบาลปัจจุบัน ด้วยครัชช...!!