รองนายกรัฐมนตรี ยันคณะรัฐมนตรีใหญ่กว่ากรรมการยุทธศาสตร์ชาติ มีอำนาจเสนอเปลี่ยนแปลงได้ แต่ต้องผ่านขั้นตอน แต่หาก ครม. ฝ่าฝืน จึงมีอำนาจแจ้ง ป.ป.ช. เอาผิดได้ แถมนายกฯ ยังสามารถเปลี่ยนตัว กก. ได้ด้วย แต่ไม่ใช่ตามใจชอบ ยันยุทธศาสตร์มีแค่เป้าส่วนวิธีไปหาเอาเอง
วันนี้ (29 เม.ย.) ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงถึงอำนาจรัฐบาลกับของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติที่จะมีขึ้นตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยุทธศาสตร์ชาติ ว่า ถ้าถามว่าใครใหญ่กว่ากัน ก็เป็นเหมือนที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) พูด คือ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องใหญ่กว่า เนื่องจาก ครม. มีอำนาจเสนอเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ได้ แต่การจะเปลี่ยนแปลงนั้น จะต้องผ่านขั้นตอนเช่นเกียวกับการยกร่างยุทธศาสตร์ เช่น ต้องมีการรับฟังความคิดเห็นประชาชน การนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯและวุฒิสภา ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ โดย ครม. เป็นผู้ตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ จะมีอำนาจน้อยกว่ากรรมการยุทธศาสตร์ชาติไม่ได้
นายวิษณุ กล่าวว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ จะมีอำนาจเฉพาะตัวและเมื่อจะดำเนินการเรื่องใดก็จะต้องรายงาน ครม. แต่หาก ครม. ฝ่าฝืนยุทธศาสตร์ชาติ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ ก็สามารถรายงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิด ครม. ได้ ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์นี้ ไม่ว่าใครเป็นนายกฯ ก็จะเป็นประธาน โดยประธานสามารถเปลี่ยนตัวคณะกรรมการยุทธศาสตร์ได้ ดังนั้น เมื่อมีรัฐบาลใหม่จึงสามารถเปลี่ยนตัวคณะกรรมการได้ เพราะเมื่อมีรัฐบาลใหม่ก็จะมีการปรับเปลี่ยน เช่น ตัวประธาน คือ นายกฯ รองประธาน คือ รองนายกฯ และรัฐมนตรีในคณะกรรมการ นอกจากนี้ ยังมีประธานสภา และ ประธานวุฒิสภา ก็จะเปลี่ยน ทั้งยังมีปลัดกระทรวงและข้าราชการประจำ เข้ามาด้วย ดังนั้น จึงเห็นว่า โครงสร้างของคณะกรรมการยังมีอยู่ แต่บุคลากรสามารถเปลี่ยนแปลงได้
“แต่ไม่ใช่เปลี่ยนตามใจชอบ เพราะต้องมีหลักประกันเช่นเดียวกับหลักประกันของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนตามใจชอบ แม้แต่ตัวยุทธศาสตร์ชาติทั้งแผนก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ในทุก 5 ปี และในระหว่าง 5 ปี รัฐบาลใหม่ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้เมื่อเห็นว่าสมควร ซึ่งวิธีการนั้นไม่ยากถ้าทำเป็น และยุทธศาสตร์ชาติจะไม่พูดถึงวิธีการ แต่พูดถึงเป้าหมาย เพราะจะเว้นวิธีการไว้ให้รัฐบาลได้คิดหาวิธีการด้วยตัวเอง” นายวิษณุ กล่าว