ประธาน กรธ.มองฝ่ายออกกฎหมายปฏิรูปสื่อควรอธิบายความจำเป็นเรื่องใบอนุญาต แนะสื่อรวมตัวแจงเหตุผลคัดค้าน พร้อมเสนอวิธีการดูแลกันเอง หากไม่เอาสภาวิชาชีพ
วันนี้ (27 เม.ย.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. ... ที่ให้สภาวิชาชีพสื่อสารมวลชนสามารถออกใบประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนว่าทางผู้ที่ผลักดันกฎหมายจะต้องอธิบายให้ได้ว่าทำไมถึงต้องมีการออกใบอนุญาต ทั้งนี้ตนไม่คิดว่าจะเป็นการครอบงำสื่อเพราะว่าในประเทศไทยก็มีใบอนุญาตตั้งมากมาย เหตุผลของการมีใบอนุญาตก็เพื่อดูว่าจะการปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องตามหลักวิชาชีพหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้มีการมาตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้ประกอบอาชีพนั้นโดยตลอด แค่มาตรวจสอบอีกทีหนึ่งตอนที่ผู้ประกอบวิชาชีพเขามาต่อใบอนุญาต ส่วนต้นสังกัดอยู่ที่ไหน เป็นอย่างไร ก็ไม่มีใครไปดูไปตรวจสอบ ดังนั้นในรัฐธรรมนูญจึงเขียนว่าถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรมีใบอนุญาต
เมื่อถามว่าคิดว่าอาชีพสื่อสารมวลชนควรมีใบอนุญาตหรือไม่ นายมีชัยกล่าวว่า ตนตอบไม่ได้เพราะยังไม่เห็นรายละเอียดของร่างกฎหมาย แค่พูดตามหลักการเท่านั้น ตนเห็นว่าสื่อสารมวลชนก็มีสมาคม ดังนั้นสื่อมวลชนก็ควรรวมตัวกันเพื่อชี้แจงเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ควรมีใบอนุญาต
นายมีชัยกล่าวต่อถึงองค์ประกอบของกรรมการในสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติว่า ตนคิดว่าการให้มีสัดส่วนจากภาครัฐแค่ 2 คน คือ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จากจำนวนกรรมการทั้งหมด 15 คนนั้นคงไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอะไรสำหรับสื่อมวลชน เพราะตัวแทนของภาครัฐถือว่าเป็นเสียงข้างน้อยในสภาวิชาชีพสื่อสารมวลชน ถ้าหากสื่อจับมือรวมเสียงกันก็คงโหวตชนะอยู่แล้ว เพราะเมื่อขึ้นชื่อว่าสภาวิชาชีพก็คงจะต้องมีคนของรัฐเข้ามาอยู่ด้วยเพื่อจะไม่ให้คนในวิชาชีพกีดกันกันเอง ไม่ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบอาชีพรุ่นน้อง แต่ก็ต้องมาดูว่ามีความจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมีสภาวิชาชีพขึ้นมา
“หากคิดว่าไม่ควรมีสภาวิชาชีพ สื่อมวลชนก็ต้องมาหาเหตุผลโต้แย้ง ถ้าไม่เห็นด้วยก็ควรจะเสนอแนวทางของสื่อที่จะกำกับดูแลกันเองโดยที่คนนอกไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยว” นายมีชัยกล่าว