“บิ๊กปุย” ตอบแทน ผบ.ทร.ปมซื้อเรือดดำน้ำ ยันเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยมีการชี้แจงอย่างชัดเจน ย้ำเป็นข้อมูลลับ เชื่อมีความจำเป็นต่อกองทัพระยะยาว อุบไต๋แถมขีปนาวุธด้วยหรือไม่ คาดไม่นานเซ็นสัญญา “ณะ” ตอบสั้นๆ กำลังประสานงานกับจีน พร้อมงดให้สัมภาษณ์
วันนี้ (26 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองทัพอากาศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้แถลงข่าวโดยผู้บัญชาการเหล่าทัพรวมถึง พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มายืนด้านหลังเหมือนเช่นการประชุมทุกครั้ง โดยระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้บัญชาการทหารเรือถึงโครงการจัดหาเรือดำน้ำที่ผ่านคณะรัฐมนตรีไปเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา แต่ พล.อ.สุรพงษ์ได้ตอบคำถามแทนว่า ทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่ก็คงได้รับทราบกันไปแล้ว อยากจะเรียนว่าขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการ ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และคิดว่าเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วทางกองทัพเรือจะแถลงข่าวชี้แจงอย่างเป็นทางการเมื่อถึงเวลาอันควรเนื่องจากมีรายละเอียดเป็นจำนวนมาก
พล.อ.สุรพงษ์ เพื่อนเตรียมทหารรุ่นที่ 15 ของ ผบ.ทร.ยังกล่าวอีกว่า ข้อมูลในลักษณะนี้หากเป็นมาตรฐานในหลายประเทศที่เป็นสากลถือเป็นข้อมูลที่ต้องรักษาเป็นความลับ ไม่เอามาเผยแพร่มากนัก ยกเว้นเรื่องกว้างๆ ในส่วนของเราเองหากถึงเวลาอันควร คิดว่ากองทัพเรือจะนำมาเสนอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบเพราะกระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศของไทยซึ่งมีความจำเป็นเพราะว่ากระบวนการเหล่านี้ เมื่อเราตกลงใจในวันนี้กว่าเรือดำน้ำจะมาต้องใช้เวลาเกือบ 10 ปี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ชี้แจงถึงภาพความกว้างของโครงการการจัดซื้อเรือดำน้ำได้หรือไม่ พล.อ.สุรพงษ์กล่าวว่า กองทัพเรือจะชี้แจงในภาพรวม ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เรื่องเหล่านี้ต้องใช้ความเข้าใจ หากอธิบายให้ดี ให้รู้ถึงความเป็นมาและเหตุผลความจำเป็น จะสามารถเข้าใจและมีความเชื่อมั่น ในส่วนของตนที่ดูแลกองทัพไทยและดูแลในภาพรวมของเรื่องนี้ เชื่อมั่นว่าเรือดำน้ำเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและมีความจำเป็นต่อกองทัพไทยในระยะยาว
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรออกมาระบุว่าซื้อเรือดำน้ำแถมขีปนาวุธ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.สุรพงษ์กล่าวว่า ปกติทั่วประเทศจะไม่พูดเรื่องพวกนี้ เพราะเครื่องมือเหล่านี้หากเราเปิดเผยไปว่ามีอะไรบ้างก็จะมีการนำระบบอื่นที่สามารถเอาชนะได้เข้ามาทดแทน ถือเป็นเรื่องที่เป็นสากลอยู่แล้วก็จะไม่เปิดเผย หากมีความจำเป็นก็จะพูดในวงเล็กๆ เพื่อให้เข้าใจได้
เมื่อถามย้ำว่า มีการแถมขีปนาวุธใช่หรือไม่ พล.อ.สุรพงษ์กล่าวว่า กองทัพเรือจะเป็นผู้ชี้แจงเองเนื่องจาก ทุกอย่างอยู่ระหว่างกระบวนการ ยังไม่ถึงเวลาอันควรที่จะเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด เมื่อถามว่าจะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายกันเมื่อไหร่ พล.อ.สุรพงษ์กล่าวว่า การเซ็นสัญญาคงอยู่ในระหว่างการนัดหมาย คิดว่าคงไม่นานจะมีการดำเนินการ ส่วนจะเป็นการเซ็นสัญญาซื้อขายเรือดำน้ำลำเดียว และอีก 2 ลำค่อยดำเนินการต่อหรือไม่นั้น ขอให้รอทางกองทัพเรือเป็นผู้ชี้แจง
“เมื่อถึงเวลา ถามผู้บัญชาการทหารเรือก็จะชี้แจง ต้องเข้าใจว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและอยู่ในความสนใจสื่อมานาน หลายคนอาจจะไม่เข้าใจ เพราะว่าหากอธิบายทีละช่วงจะไม่เห็นภาพรวม แต่หากให้เวลากับกองทัพเรือเพื่อชี้แจงในรายละเอียด ความเป็นมาต่างๆ ก็สามารถตอบทุกอย่างได้หมด ขอให้มีความมั่นใจว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นทางยุทธศาสตร์ เพราะพัฒนาการเหล่านี้จะเห็นได้ว่าสถานการณ์ของโลกในปัจจุบัน สามารถพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ในเวลาสั้นๆ เพราะฉะนั้นทุกประเทศมีหลักคิดที่คล้ายกัน คือ ความสมดุลแห่งอำนาจกำลังรบซึ่งจะต้องมีในระดับหนึ่ง ไม่ให้ตกเป็นรองมากเกินไปหรือช่องว่างมากเกินไปซึ่งอยู่ในกระบวนการคิด ทั้งนี้ คิดว่าวันที่กองทัพเรือจัดแถลงอย่างเป็นทางการจะสามารถอธิบายได้ชัดเจน” พล.อ.สุรพงษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าวผู้สื่อข่าวได้พยายามสัมภาษณ์ผู้บัญชาการทหารเรือถึงกำหนดการลงนามในสัญญากับจีน โดยผู้บัญชาการทหารเรือบอกสั้นๆ ว่า “อยู่ระหว่างการประสานงานกับจีน” จากนั้นได้ขึ้นไปรับประทานอาหารกลางวันกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ก่อนที่จะเดินทางกลับทางบันไดหลังกองบัญชาการโดยไม่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่อแต่อย่างใด