โฆษกคณะ กมธ.วิสามัญฯ เผย สนช.ผ่านกฎหมายพรรคการเมือง 15 มาตรา ยังไม่มีข้อสรุปค่าสมาชิก 100 บาท หลังเสียงแตก ดันตั้งจริยธรรม กก.บห.เท่าศาลรัฐธรรมนูญ ยันไม่เซตซีโร่พรรคการเมือง เผยยื่นส่งร่าง กม.ให้ สนช.เห็นชอบ 15 มิ.ย.
วันนี้ (25 เม.ย.) นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงผลการประชุมคณะกมธ.วิสามัญฯ ว่าที่ประชุมได้ตกลงกันแล้วว่าจะมีการประชุมวันละ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ได้แก่ วันจันทร์ วันอังคาร และวันพุธ ล่าสุดคณะ กมธ.วิสามัญฯ ได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้วจำนวน 15 มาตรา โดยมีการรอการพิจารณาหรือแขวนไว้จำนวน 3 มาตรา
นายวัลลภกล่าวว่า ได้แก่ 1. ที่ประชุมกำหนดให้ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปยกร่างคำนิยามความหมายของพรรคการเมือง เนื่องจากที่ประชุมเห็นว่าในร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฉบับเดิมไม่เคยมีการกำหนดนิยามดังกล่าวมาก่อน ดังนั้น หากมีการกำหนดนิยามพรรคการเมืองจะทำให้ร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมืองมีความสมบูรณ์มากขึ้น 2. เรื่องทุนประเดิมการจัดตั้งพรรคการเมืองที่ในร่างกฎหมายกำหนดให้ต้องมีอย่างน้อย 1 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าทำไมต้องมีการกำหนดทุนประเดิม จึงขอให้รอการพิจารณาไว้ก่อน และ 3. มาตรา 15 ซึ่งหลายประเด็น อาทิ การกำหนดมาตรฐานจริยธรรม โดยที่ประชุมเห็นว่าควรมีการกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการบริหารพรรคการเมือง โดยยึดโยงกับมาตรฐานจริยธรรมของศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ และ ส.ส. ส.ว. รวมไปถึงคณะรัฐมนตรีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เพราะกรรมการบริหารพรรคการเมืองถือเป็นส่วนสำคัญของการเข้ามาสู่ตำแหน่งทางการเมืองที่สูงขึ้น จึงควรมีจริยธรรมและบทลงโทษที่เข้มงวดกว่าสมาชิกพรรคการเมืองและบุคคลทั่วไป
นายวัลลภกล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังไม่สรุปว่าจะกำหนดให้สมาชิกพรรคจ่ายเงินค่าบำรุงพรรคปีละ 100 บาทและกำหนดให้จ่ายค่าสมาชิกแบบตลอดชีพไม่น้อยกว่า 2,000 บาทหรือไม่ เนื่องจากที่ประชุมมีความคิดเห็นแตกออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเห็นว่าไม่ควรจะเก็บ แต่อีกส่วนเห็นว่าจำนวนเงิน 100 บาทไม่ได้เป็นเงินจำนวนมากแต่อย่างใด เช่นเดียวกับในเรื่องการคัดเลือกสมาชิกพรรคเพื่อเข้าสมัครเป็น ส.ส. การคัดเลือกบุคคลดำรงตำแหน่งทางการเมือง และการจัดทำบัญชีพรรคการเมือง ซึ่งร่าง พ.ร.บ.กำหนดให้พรรคการเมืองต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมนั้นที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะเห็นว่ามีรายละเอียดที่ต้องพิจารณาต่อไป
โฆษกคณะ กมธ.วิสามัญฯ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมวางกรอบการทำงานไว้ว่าร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่มี 142 มาตรา จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จพร้อมกับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนนำไปหารือกับสมาชิก สนช.ในการสัมมนานอกสถานที่ของ สนช.ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 20-21 พ.ค.ที่ จ.จันทบุรี เพื่อที่คณะ กมธ.วิสามัญฯจะได้ตอบข้อสงสัยของสมาชิก สนช.ในบางประเด็นได้ จากนั้นที่ประชุม สนช.จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.ในวาระที่ 2 และ 3 วันที่ 8 มิ.ย. ส่วนร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองจะพิจารณาวาระที่ 2 และ 3 ในที่ประชุม สนช.วันที่ 15 มิ.ย. อย่างไรก็ตาม ในประเด็นที่คณะ กมธ.วิสามัญฯ พิจารณาผ่านไปแล้ว หากสมาชิก สนช.ยังมีข้อสงสัยก็สามารถนำกลับมาพิจารณาใหม่ได้ แต่ยืนยันจะไม่มีการแก้ไขเนื้อหาเพื่อเซตซีโร่พรรคการเมืองอย่างแน่นอน