“วัส” ไม่หวั่น กสม.ถูกรีเซต ชี้หากเห็นว่าตัวเองไม่เหมาะสมพร้อมไปทำงานอื่น แต่เหน็บจะใช้ดุลพินิจต้องมีเหตุผล หากใช้ตามอำเภอใจผลดีไม่เกิด
วันนี้ (25 เม.ย.) นายวัส ติงสมิตร ประธาน กสม. กล่าวถึงร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่า กสม.ได้เสนอไปที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญแล้วตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. ตอนนี้ขึ้นอยู่กับทาง กรธ. เราไม่สามารถตอบอะไรได้จนกว่าจะเห็นร่างฉบับสุดท้าย แต่สิ่งที่เราจะต้องแก้ไขคือบทบาทหน้าที่และอำนาจของกสม. ตอนนี้เนื้อหาในรัฐธรรมนูญเมื่อประกาศใช้แล้วไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ส่วนที่สามารถแก้ไขได้คือกฎหมายลูกที่ กรธ.ยกร่างใกล้จะแล้วเสร็จ และเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หลังจากนั้นก็จะพิจารณา ถ้ายังเห็นพ้องไม่ตรงกันจึงต้องคณะกรรมาธิการร่วม
“เนื้อหาบางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ดี เช่น กรรมการในองค์กรอิสระ หรือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถเป็นต่อไปได้ในวาระหน้า เมื่อเป็นครบหนึ่งวาระก็ไม่สามารถเป็นกรรมการองค์กรอื่นๆ ในองค์กรอิสระได้ ทำให้กรรมการสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ได้”
ส่วนข่าวการรีเซต กสม.นั้น ที่ประชุม กสม.ยังไม่มีการพูด หรือมี กสม.ลาออกอีก มีเพียงกรรมการเพียงคนเดียวที่แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ต้องไปถามเจ้าตัวเอง โดยกรรมการที่เหลือก็จะทำหน้าที่ต่อไป
“หากผู้ที่มีหน้าที่ในการออกกฎหมายเห็นว่าควรจะเซตซีโร่ ภายใต้เหตุผลที่สมควรที่สุด ผมก็จะไปทำงานอื่น ซึ่งผมไม่ได้ยอมแพ้ แต่หากเห็นว่าผมไม่เหมาะสมก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้ เพราะไม่ใช่องค์กรที่ออกกฎหมาย เพราะนั้นอยู่ที่ดุลพินิจของผู้ออกกฎหมาย แต่ดุลยพินิจต้องใช้อย่างมีเหตุผล ถ้าใช้ตามอำเภอใจแล้วผลดีก็เกิดขึ้นไม่ได้”
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าคุณสมบัติของกรรมการ กสม.ที่ทำหน้าที่อยู่ขณะนี้ เรื่องความรู้ความสามารถไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่บางคนอาจจะเป็นปัญหาตามตามรัฐธรรมนูญ เช่น เคยทำงานที่ไหนมาก่อนที่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ คณะกรรมการสรรหากรรมการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญจะต้องพิจารณาว่าเข้าข่ายต้องห้ามหรือไม่ ซึ่งไม่เกี่ยวกับประเด็นถอดถอน แต่ขณะนี้ยังไม่มี ทั้งนี้ หากคณะกรรมการสรรหาวินิจฉัยแล้วทำให้ กสม.เหลือน้อยก็อาจจะมีปัญหา ส่วนเรื่องของความเห็นต่างของการทำงานระหว่างกรรมสิทธิ์นั้นเป็นเรื่องปกติ ไม่มีองค์กรไหนที่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์
“ที่ออกคำแถลงเป็นหนึ่งในคำกล่าวจากเฟซบุ๊กของผู้ที่ทำงานทางภาคองค์การสาธารณะ บอกว่าโดยเนื้องานของ กสม.เป็นประโยชน์ของสังคม แต่ถ้าคำนึงถึงประโยชน์ของต่างชาติมากกว่ามันก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งผมก็เห็นด้วย อย่างน้อยคนอื่นก็เชื่อมั่นผมได้ว่าผมไม่ขายชาติอย่างแน่นอน เพราะว่าผมทำงานกับทางภาครัฐมาโดยตลอด รวมทั้งไม่ใช่กรรมการ กสม.ที่ผมรู้จัก แต่เรื่องนี้หมายถึงใครก็ต้องไปถามกันเอาเอง”
ทั้งนี้ นายวัสยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ที่ประชุม กสม.ได้มีการพิจารณาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแก้ไขปัญหาการดำเนินการตามนโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐบาล โดย กสม.ชุดที่ผ่านมาได้เสนอไปที่รัฐบาลแล้ว แต่เมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็จะปรับเนื้อหาให้สอดคล้อง ซึ่งปัญหานโยบายทวงคืนผืนป่า กสม.เห็นว่าควรมีการปรับแก้ไขที่โครงสร้าง คำร้องของประชาชนที่ร้องมา กสม.เป็นส่วนหนึ่งในปัญหาของโครงสร้าง คาดว่าข้อเสนอจะพิจารณาแล้วเสร็จและสามารถส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ภายในวันศุกร์นี้