รบ.ปัดปกปิดซื้อเรือดำน้ำ แจง กห.-ทร.กำหนดเป็นเรื่องลับ สื่อไม่ถามเอง ย้ำโปร่งใส

โฆษกรัฐบาลชี้แจง ครม.อนุมัติซื้อเรือดำน้ำ ปัดปกปิด อ้างกลาโหม-ทัพเรือกำหนดเป็นเรื่องลับ รวมถึงสื่อไม่ถามถึงไม่แถลง พร้อมบอกอย่ากลัวรัฐบาลใช้ภาษีประชาชนไม่โปร่งใส ยันตรวจสอบได้

วันนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชี้แจงกรณีที่ไม่มีการแถลงมติที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 18 เม.ย.อนุมัติโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจากสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า เนื่องจากการประชุม ครม.แต่ละครั้งจะมีเรื่องเพื่อพิจารณาเรื่องเพื่อทราบ ซึ่งเรื่องเพื่อทราบหากไม่มีข้อทักท้วงก็ถือเป็นมติ ครม. และการประชุมแต่ละครั้งมีเรื่องต้องพิจารณา 40-70 เรื่อง จะให้แถลงทุกเรื่องคงไม่ได้ จึงหยิบเรื่องที่น่าสนใจมาแถลงเท่านั้น และบังเอิญวันที่ 18 เม.ย.ไม่มีสื่อสอบถามเรื่องเรือดำน้ำด้วย รวมถึงกระทรวงกลาโหมและกองทัพเรือกำหนดให้เรื่องเรือดำน้ำเป็นชั้นความลับ หรือมุมแดง ที่เมื่อแจกให้ ครม.พิจารณาในที่ประชุม ครม.แล้วจะมีการเก็บเอกสารคืนจึงทำให้ไม่มีการนำเรื่องมาแถลง จึงไม่ใช่เรื่องปกปิด ปิดบัง ซ่อนเร้น หมกเม็ด

พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า เรื่องลักษณะนี้ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องเรือดำน้ำเท่านั้น มีหลายเรื่องที่เป็นเรื่องลับ แต่ก็ไม่ได้ลับตลอดไป ลับในช่วงเวลาหนึ่งเมื่อผ่านไปก็จะไม่ลับ เพราะเรื่องเหล่านี้ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการขั้นตอน เช่น กฎหมายเกี่ยวกับการขึ้นภาษี แม้ผ่านมติเห็นชอบ ครม.ก็จะเก็บกลับคืน จนกว่าจะประกาศใช้ออกมา เพราะหากมีประกาศก่อนมีผลบังคับใช้จะทำให้มีการกักตุนสินค้าไว้เก็งกำไร เรื่องเรือดำน้ำเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นเรื่องลับในวันนั้น แต่วันข้างหน้าก็ไม่ลับอยู่ดี และการจัดซื้อจัดจ้างที่อนุมัติก็เป็นการดำเนินการแบบจีทูจีกับประเทศจีน ซึ่ง ครม.อนุมัติจัดซื้อ 1 ลำ จำนวน 13,000 ล้านบาท และที่สำคัญเป็นการจ่ายเงินแบบผูกพันงบประมาณ โดยใช้งบฯ กองทัพเรือ ในส่วนของการสั่งต่อเรือก็ไม่ได้หมายความว่าสั่งไปแล้วจะได้เรือภายในเดือนหน้า แต่ต้องใช้เวลาหลายปี

“การจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ต้องกลัวว่ารัฐบาลจะมีการปิดบังซ่อนเร้น เพราะเป็นเงินภาษีประชาชน และเป็นการจัดซื้อเรือดำน้ำตามแผนยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศของกองทัพเรือ โดยพิจารณาจากภัยคุกคามทั้งในอนาคตและรูปแบบใหม่ๆ และเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางทะเล ที่วางแผนมาเป็นลำดับ ส่วนรายละเอียดการจัดซื้อจัดจ้างเรือดำน้ำให้สอบถามทางกองทัพเรือ” พล.ท.สรรเสริญกล่าว

พล.ท.สรรเสริญกล่าวต่อว่า อย่างการประชุม ครม.วันนี้ มีเอกสารมุมแดงเช่นกัน แต่ ครม.มีมติถอนออกจากเป็นเรื่องลับที่สุด หรือมุมแดง คือ เรื่องร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาว่าด้วยการให้อำนาจในการเข้าถึงพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนสอบสวนคดีอาญา ที่หมายถึงการดักฟังข้อมูลด้วย ซึ่งเหตุที่ต้องให้ถอนจากมุมแดง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงในที่ประชุม ครม.ว่า เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กำหนดกฎหมายทุกฉบับที่ต้องมีผลบังคับใช้และต้องผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน รับฟังข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงจำเป็นต้องถอนออกจากมุมแดงเพื่อให้สามารถดำเนินการรับฟังความคิดเห็นได้