กรรมการการเลือกตั้ง ถก รมช.ศึกษาธิการ คุยทิศทางกิจกรรมสร้างพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย ชู 7 แนวทางขับเคลื่อน ร่วมศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย รณรงค์หมู่บ้านไม่ขายเสียง ปลูกฝังผ่านโรงเรียน ใช้ลูกเสืออาสา รด.จิตอาสาช่วย สร้างความรู้แก่อุดมศึกษา ดึงครูเรียนรู้ประชาธิปไตย เตรียมถก อสม.ต่อ
วันนี้ (24 เม.ย.) ที่กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อเวลา 14.00 น. นายประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เดินทางมาพบและร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อกำหนดทิศทางและแนวทางการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสร้างพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย ด้วยการให้ความรู้และการศึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง ผ่านสถานศึกษาและบุคลากรในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
นายประวิชกล่าวว่า ภารกิจสำคัญของสำนักงาน กกต.ขณะนี้ คือ การเตรียมการให้เกิดการเลือกตั้งคุณภาพ โดยพลเมืองคุณภาพ จึงเล็งเห็นว่ากระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพ มีความพร้อมด้านบุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถและมีหน่วยงานในสังกัดที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล จึงถือเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการสร้างพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตยให้ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี เพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อนกิจกรรม 7 ประเด็น ประกอบด้วย 1. กิจกรรมศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ศส.ปชต.) โดยขอความร่วมมือให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมของ ศส.ปชต. โดยการร่วมลงพื้นที่ ติดตาม และสนับสนุน การปฏิบัติงานของ ศส.ปชต. 7,428 แห่ง กับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด โดยมีครู กศน.ตำบลเป็นผู้ประสานงานในระดับตำบล
2. กิจกรรมรณรงค์หมู่บ้านไม่ขายเสียง โดยขอความร่วมมือสนับสนุนการคัดเลือกหมู่บ้านไม่ขายเสียงต้นแบบ อำเภอละ 1 หมู่บ้าน รวม 928 หมู่บ้าน โดยมีเกณฑ์การคัดเลือก อาทิ เป็นหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีความรัก ความสามัคคี มีความตื่นตัวในการพัฒนาประชาธิปไตย เคยทำกิจกรรมการณรงค์ส่งเสริมประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง หรือรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง หรือมีสถิติผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งอยู่ในระดับเกณฑ์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 เป็นต้น
3. กิจกรรม 6 สัปดาห์ ประชาธิปไตย โดยขอความร่วมมือดำเนินกิจกรรม 6 สัปดาห์ ประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง ในชั่วโมง “ลดเวลาเรียน-เพิ่มเวลารู้” ทุกสถานศึกษา กว่า 37,000 แห่ง เพื่อปลูกฝังความเป็นพลเมืองดีผ่านกิจกรรมและเปิดโอกาสให้นักเรียน ผู้ปกครอง ครู ผู้บริหารสถานศึกษาและชุมชนได้เรียนรู้ประชาธิปไตยจากประสบการณ์จริง 4. กิจกรรมลูกเสืออาสา กกต. เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย โดยขอความร่วมมือผลักดันให้สำนักงานลูกเสือแห่งชาติได้ประกาศใช้ข้อบังคับหลักสูตรวิชาพิเศษลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ลูกเสืออาสา กกต. และแจ้งให้สถานศึกษาสนับสนุนให้มีการจัดการเรียนการสอนพร้อมจัดตั้งหน่วยลูกเสืออาสา กกต. เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย ในสถานศึกษาๆ ละ 1 กองๆ ละ 40 คน
5. กิจกรรม รด.จิตอาสา ขอความร่วมมือให้สถานศึกษาให้การสนับสนุน โดยให้นักศึกษาวิชาทหาร 3 แสนกว่าคนสมัครเข้าร่วมโครงการ รด.จิตอาสา ของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน และสนับสนุนการจัดกิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย และความเป็นพลเมืองของนักศึกษาวิชาทหารภายในสถานศึกษาหรือชุมชนใกล้เคียง 6. กิจกรรมเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตยและการเลือกตั้งแก่เครือข่ายสถาบันอุดมศึกษา ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยขอความร่วมมือ ให้ทุกสถาบันภายใต้สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาร่วมเป็นเครือข่ายดำเนินกิจกรรมเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตยและการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้ามามีส่วนร่วม ในการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งในอนาคต
และ 7.กิจกรรมการเรียนรู้ประชาธิปไตย สำหรับครูผู้สอนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา โดยขอความร่วมมือผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการระดับประถมและมัธยมศึกษาของจังหวัด ศึกษานิเทศก์หรือผู้แทนครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน 77 จังหวัด นำคู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประชาธิปไตย (คู่มือ 4 ช่วงชั้น) ไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้แก่เด็ก และเยาวชน
นายประวิชให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า สิ่งที่ได้หารือกับทางกระทรวงศึกษาธิการไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นการเตรียมคนจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากเดินมาได้ถูกทางแล้ว และพร้อมเดินหน้าหลังมีรัฐธรรมนูญแล้ว เพื่อเตรียมคนให้พร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ทั้ง 7 โครงการเดินหน้าต่อไปได้ทันที รวมทั้งโครงการอื่นๆ ที่ กกต.ได้ร่วมมือกับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ จากนี้จะไปพบกับ อสม.ของกระทรวงสาธารณสุข