คสช.หนุนโครงการ รบ.แก้ปัญหา ปชช. แจงทุกปมที่อาจนำสู่ความเข้าใจคลาดเคลื่อน

“บิ๊กเจี๊ยบ” เป็นประธานประชุม คสช. ย้ำสานต่อดูแลความสงบเรียบร้อย เดินหน้าเต็มที่หนุนโครงการของรัฐที่แก้ปัญหาให้ประชาชน ย้ำ จนท. ตรวจสอบและชี้แจงทุกประเด็นที่อาจจะนำไปสู่ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของสังคม

วันนี้ (24 เม.ย.) กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยเน้นย้ำให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ได้สานต่อภารกิจหลักในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย รวมทั้งสนับสนุนการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลในเรื่องเร่งด่วนที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ คือ การสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของประชาชนในโครงการปรับภูมิทัศน์ชุมชนป้อมมหากาฬ, การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่บุกรุกพื้นที่สาธารณะ บริเวณภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ และการพัฒนาชุมชนบริเวณเขื่อนคลองลาดพร้าว เป็นต้น เพื่อให้การใช้พื้นที่สาธารณะเป็นไปตามกฎหมาย และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง โดยทุกขั้นตอนของการปฏิบัติงานอยู่ภายใต้การชี้แจงสร้างความเข้าใจกับประชาชนเป็นหลัก

นอกจากนี้ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ยาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยได้ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองอย่างใกล้ชิด เป็นผลให้เกิดการจับกุมขบวนการยาเสพติดอย่างต่อเนื่องและมีปริมาณการจับกุมที่มากขึ้น ล่าสุดจับยาบ้าได้ 2 ล้านเม็ด ที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา และที่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ จับยาบ้าได้ 858,000 เม็ด และไอซ์ 36 กิโลกรัม ซึ่งเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นห่วงในปริมาณที่จับกุมได้มากขึ้นนั้น อาจเกิดจาก 2 ปัจจัย คือ การปฏิบัติงานที่เข้มข้นของเจ้าหน้าที่และอาจมีการผลิตยาเสพติดเพิ่มขึ้น เน้นย้ำให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ประสานงานด้านการข่าวร่วมกับตำรวจ ฝ่ายปกครองอย่างใกล้ชิด
เพื่อเป็นข้อมูลในการป้องกันและปราบปรามร่วมกันต่อไป

นอกจากนี้ จากการที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 4 เดินหน้าแก้ไขปัญหาผู้มีอิทธิพล รวมทั้งการตรวจสอบอาวุธผิดกฎหมายในพื้นที่ภาคใต้ ล่าสุด ร่วมกับตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าจับกุมอาวุธปืนผิดกฎหมาย ๑๘ กระบอก พร้อมผู้กระทำผิด 16 ราย ที่บุกรุกเข้าครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปสวนปาล์มน้ำมัน อ.เมือง จ.กระบี่ ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐยิ่งขึ้น เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญกับผลการปฏิบัติในเรื่องดังกล่าวพร้อมกำชับให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ในทุกพื้นที่ได้เข้มงวดในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและอาวุธผิดกฎหมาย เน้นย้ำให้ดำเนินการในลักษณะป้องกันไม่ให้มีการครอบครองหรือสะสมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนที่ผิดกฎหมาย อันจะส่งผลต่อความสงบเรียบร้อยโดยรวม และความปลอดภัยของประชาชน

และจากการที่องค์การคลังสินค้าขอรับการสนับสนุนจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการขอให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำพื้นที่ เข้าช่วยควบคุมการขนย้ายข้าวสารในสต็อกของรัฐ เข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนครั้งที่ 1/2560 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการบริหารจัดการข้าวในสต๊อกของรัฐบาลนั้น เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มอบหมายให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 1-3 สนับสนุนตามการร้องขอดังกล่าว โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือนพฤษภาคมนี้ และให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบ ทำงานตามภาระหน้าที่ ดูแลให้กระบวนการดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนด้วยความเรียบร้อย เพื่อให้การระบายข้าวของรัฐเป็นไปตามวัตถุประสงค์ เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม

การประชุมในวันนี้ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้แสดงความเชื่อมั่นในเจตนารมณ์ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และความตั้งใจทุ่มเททำงานของรัฐบาลในการบริหาราชการแผ่นดินเพื่อประโยชน์ต่อประชาชน โดยย้ำว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พร้อมสนับสนุนและดำเนินตามแนวนโยบายแห่งรัฐในทุกด้าน ในขณะเดียวกันจะดูแลสถานการณ์โดยรวมของประเทศให้มีความมั่นคงสงบเรียบร้อย พร้อมช่วยเผยแพร่ความคืบหน้าในโครงการหรือนโยบายในด้านต่างๆ ของรัฐ ซึ่งที่ผ่านมามีผลการดำเนินงานที่ประชาชนได้รับประโยชน์เป็นจำนวนมาก และเป็นเรื่องที่ประชาชนควรจะต้องมีส่วนร่วมและรับทราบ นอกจากนี้ สิ่งใดที่อาจจะนำไปสู่ความเข้าใจที่คาดเคลื่อน เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนช่วยกันตรวจสอบและรีบชี้แจงข้อเท็จจริงโดยเร็ว เพื่อมิให้ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จถูกนำไปบิดเบือนสร้างความสับสนให้กับประชาชน และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ