xs
xsm
sm
md
lg

กห.สั่งติดตามสถานการณ์ทั้งใน-นอกประเทศ ย้ำสร้างความตระหนักรู้-บังคับใช้ กม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม (แฟ้มภาพ)
ประชุมสภากลาโหม “ประวิตร” สั่งเหล่าทัพติดตามสถานการณ์ความมั่นคงใน-ต่างประเทศ ย้ำ เกาะติดความตึงเครียดคาบสมุทรเกาหลีใกล้ชิด ชี้ไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ขณะที่ภายในประเทศสร้างความตระหนักรู้-บังคับใช้กฎหมาย

วันนี้ (24 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวผลการประชุมสภากลาโหมที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพและหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมเข้าร่วมว่า พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงสถานการณ์ภาพรวมในเรื่องความมั่นคง โดยให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจ โดยเฉพาะความมั่นคงของประเทศในภาพรวมที่เชื่อมโยงทุกมิติของสังคมทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดนเฉพาะอย่างยิ่งความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้เราไม่ได้คู่ขัดแย้งกับใคร

พล.ต.คงชีพกล่าวว่า ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ภายในประเทศหากบ้านเมืองไม่มีความสงบเรียบร้อยกลไกลต่างๆ ของประเทศเดินหน้าต่อไม่ได้ จึงจำเป็นต้องร่วมกันสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจการมีส่วนร่วมของประชาชนในงานด้านความมั่นคงให้มากขึ้น นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรยังพูดถึงความขัดแย้งทางการเมืองและความเหลื่อมล้ำทางสังคม ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามทำทุกเรื่องที่ทำได้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ มุ่งเน้นให้สังคมเกิดความสงบเรียบร้อย ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามวางรากฐานของประเทศและสามารถขับเคลื่อนบริหารบ้านเมืองไปได้มาก เพราะประเทศมีความสงบเรียบร้อย การที่จะมีความสงบเรียบร้อยได้ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมเพื่อให้สังคมและประชาชนส่วนใหญ่สามารถทำมาหากินได้อย่างปกติสุข

พล.ต.คงชีพกล่าวว่า พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงประเทศมีความขัดแย้งมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ความปรองดองของคนในชาติจึงมีความสำคัญยิ่ง เพราะจะช่วยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมให้การเดินหน้าปฏิรูปประเทศเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติที่กำหนด โดยการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดองมีความก้าวหน้าไปมาก มีการตอบรับและการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องเปิดใจกว้างรับฟังกันรอบด้าน ร่วมทบทวนเรียนรู้และทำความเข้าใจไปพร้อมกันด้วยเหตุผลที่จะต้องยึดเอาประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ ร่วมเดินหน้าสู่กระบวนการปรองดองที่มีประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของเพื่อประกาศเจตนารมณ์ของประชาชน และการกำหนดกรอบอนาคตการอยู่ร่วมกันอย่างสงบและสันติสุข คือผลจากเป้าหมายของการปรองดองที่เป็นความหวังร่วมกันของคนในชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น