ข่าวปนคน คนปนข่าว
"สวนดุสิตโพล"ทำคลอดออกมา 2 โพล ท่าจะเอา"คนบนตึกไทยคู่ฟ้า" ต้องทุบโต๊ะ ปัดโธ่ๆไม่เลิกแน่ อันแรกตรงหัวๆ ยังดูคล้ายจะเป็น“โพลอวย" บอกเหตุผลที่ประชาชนชื่นชอบรัฐบาลอยู่ดีๆ พอไล่ลงมา"หักมุม" ซะงั้น จัดหนัก“รัฐบาล คสช.”แบบไม่เกรงใจ โดยเฉพาะหัวข้อ“สิ่งใด? หรือเรื่องใด? ที่จะทำให้ประชาชนนิยมชมชอบรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ลดลง” อันดับ 1-3 แต้มไล่ๆ กัน เหตุผลตรงใจหลายคน ทั้งอันดับ 1 เศรษฐกิจย่ำแย่ ประชาชนมีความเป็นอยู่ลำบาก 76.50% อันดับ 2 การบังคับใช้กฎหมาย ทำให้ประชาชนต้องลำบาก เช่น เก็บภาษี กฎหมายจราจร 73.46% และอันดับ 3 เผด็จการ ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น 68.36%
สงกะสัย“นายกฯลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงได้เดือดปุดๆ ควันออกหูกับ “สวนดุสิตโพล”อีก ก่อนหน้าโพลล่าสุด ก็ปล่อยผลสำรวจ“5ปัญหารุมเร้ารัฐบาล”จัดทอปไฟว์ เรียงลำดับปัญหาที่ประชาชนเป็นห่วงมา ตั้งแต่“เศรษฐกิจ”87.92% “คอร์รัปชัน”76.61% “ความขัดแย้งทางการเมือง”70.45% “การบังคับใช้กฎหมาย”64.78% “การเลือกตั้ง”61.18%
เรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ คงไม่มีใครเถียง แต่ข้อ 2 เรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ที่มีคำบรรยายประกอบว่า“เพราะยังพบการทุจริตจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ไม่มีการตรวจสอบที่จริงจัง และเข้มงวด มีข่าวออกมาเป็นระยะๆ มีการใช้งบประมาณจำนวนมาก ฯลฯ”นี่สิ ที่มันขัดแย้งกับสิ่งที่“คนในรัฐบาล”ภูมิอกภูมิใจว่า โปร่งใส ใจซื่อ มือสะอาด
ทวงถามต่อเนื่องกับท่าทีของรัฐบาลคสช.ต่อ “บ่อนสายตะกู”ใกล้จุดผ่อนปรนการค้าชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่มีหลักฐานอันน่าเชื่อว่า สร้างอยู่บน“พื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน”ของไทย-กัมพูชา หรือเป็นพื้นที่ที่ไม่สมควรเข้าไปก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงสภาพ หรือหาประโยชน์ทางการพาณิชย์ แต่รัฐบาลไทยโดยคสช.ก็บื้อใบ้ ไร้ท่าทีประท้วง-คัดค้าน จนถึงตอนนี้ ที่สำคัญยังมี “ท่าทางพิรุธ”เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยไม่อนุญาตให้“คนนอกพื้นที่”ข้ามเขตแดนที่จุดผ่อนปรนสายตะกูได้ จนทุกวันนี้พ่อค้าแม่ขายที่บ้านกรวด ก็ยังตอบข้อสงสัยคนต่างอำเภอ-เพื่อนต่างจังหวัดไม่ได้ ซึ่งก็น่าจะเป็นทางรัฐบาลที่ให้คำตอบว่า ที่จำกัดสิทธิ์คนไทยแบบนี้ เพื่อหวังเอาใจใคร หรือกลัวจะถูกจับได้ไล่ทันเรื่องอะไรหรือเปล่า แล้วถ้าบ่อนนี้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ไม่ควรมาแบ่งแยกคนไทยแบบนี้
หากยังไม่มีความชัดเจนเรื่อง“กาสิโนสายตะกู”ก็ยิ่งจะทำให้ชาวบ้านสับสนว่า เรื่องไหนถูก เรื่องไหนผิด กลายเป็นความอึมครึม ที่รัฐบาลนิ่งเฉย ปล่อยให้ชาวบ้านคิด-วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา เมื่อรัฐไม่ทำความจริงให้ปรากฏ ปล่อยให้คิดเอง เออเอง ก็เท่ากับรัฐบาลบผูกปมความขัดแย้งเสียเอง และอย่าลืมว่า“อธิปไตย-เขตแดน”ไม่ใช่ เรื่องเล่นๆ ต้องมีความชัดเจนไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง หากรัฐบาลคสช.คิดว่า บ่อนสร้างถูกต้อง ไม่รุกล้ำเขตแดนไทย ก็ต้องประกาศออกมาเลย แล้วก็อนุญาตให้คนไทย-คนต่างถิ่นผ่านเข้าออกด่านผ่อนผรนฯด้วยมาตรฐานเดียวกัน แต่หากมีข้อสงสัยเพียงน้อยนิดว่า ไม่ถูกต้อง อาจจะล้ำเขตแดน หรือพื้นที่ทับซ้อน ก็ต้องเร่งประท้วงไปโดยเร็ว แม้จะไม่ทันการณ์แล้ว แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
ทำยังกะเล่นขายของ.. คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 24/2560 ที่ใช้อำนาจ ม.44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ผ่านอำนาจตาม“มาตรา 265”ของรัฐธรรมนูญใหม่ ในการยกเลิกคำสั่ง ที่ 23/2560 ที่เพิ่งออกมาเมื่อวันที่ 5 เม.ย. สาระสำคัญคือ การงดเว้นกระบวนการสรรหา“ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ”ที่เคยออกคำสั่ง ที่ 23/2560 เปิดช่องไว้ ก่อน หน้าที่รัฐธรรมนูญ 2560 จะมีผลบังคับใช้เพียงวันเดียว โดยให้รอดำเนินการตามกฎหมายลูก หรือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ที่กำลังอยู่ร่างอยู่ในตอนนี้ ถือเป็นอีกครั้งที่ คสช. ต้องออกคำสั่งมาแก้คำสั่งตัวเอง ... “ชักเข้า ชักออก”จน ม.44 เสื่อมมนต์ขลัง เหมือนมีอำนาจล้นมือ แต่ใช้ไม่เป็น
ผลที่ตามมาคือ 5 ตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่จะครบวาระ 9 ปีในเดือนหน้าพ.ค.นี้ ได้แก่ “นุรักษ์ มาประณีต”ประธาน “จรัญ ภักดีธนากุล - ชัช ชลวร - อุดมศักดิ์ นิติมนตรี - บุญส่ง กุลบุปผา”จะได้รักษาการไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่ากฎหมายลูก-กระบวนการสรรหา จะเสร็จสิ้น …ใครจะอยู่จะไปไม่รู้ แต่มีปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ เมื่อ“ขาประจำ คสช.”จาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ค้านการใช้ ม. 44 มาตลอด บอกว่า “เพิ่งจะเห็นด้วย”ก็คราวนี้ เพราะคำสั่ง คสช. ที่ 23/2560 มันขัดต่อรัฐธรรมนูญใหม่ ชัดเจน
หากจำกันได้ เมื่อตอนที่คำสั่ง คสช. ที่ 23/2560 ออกมา “เสี่ยไก่”วัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ถึงขนาดโพสต์ข้อความจั่วหัวว่า "18 มงกุฎเรียกพี่” โจมตีการออกคำสั่งที่ 23/2560 ที่ “รีบชิงออกมา”ทั้งที่อีกเพียงวันเดียวรัฐธรรมนูญก็จะมีผลบังคับ ที่สุดต้องมายกเลิกคำสั่งตัวเอง ก็เหมือนการยอมรับว่า เป็นอย่างที่“เขาว่า” จริงๆ ยิ่งฟังยิ่งทะแม่ง วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ บอกว่า ที่ยกเลิกคำสั่ง 23/2560 ในส่วนการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากตอนนี้ “แคนดิเดต”จากที่ประชุมใหญ่ศาลปกครอง-ศาลฎีกา ในขณะนี้ มีบุคลากรน้อย ตุลาการใน 2 ศาล มีตำแหน่งว่างอยู่ …ทำงานใหญ่ แต่ไม่รอบคอบ แบบนี้ก็ได้หรือ ??.
ช.ชฎา