เปิดสเปกกิจการ 8 ประเภท เข้าเกณฑ์ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ “ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” 3 จังหวัด ตามประกาศบอร์ดบีโอไอ 4/2560 ให้ได้รับสิทธิและประโยชน์ รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากการลงทุนในอัตราร้อยละ 50 ของอัตราปกติ เป็นระยะเวลา 5 ปี
วันนี้ (20 เม.ย.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ลงนามในประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 4/2560 เรื่องมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก มีใจความว่า เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการพัฒนาพื้นที่เชิงอุตสาหกรรม และการพัฒนาเมือง เพื่อสนับสนุนให้เกิดการยกระดับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16 วรรคสอง มาตรา 18 มาตรา 31 มาตรา 31/1 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนจึงออกประกาศ ดังนี้
กำหนดให้พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง เป็นเขตส่งเสริมการลงทุน โดยให้ได้รับสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมจากการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกิจการที่ตั้งในพื้นที่ 3 จังหวัด โดยจะให้ได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิที่ได้จากการลงทุนในอัตราร้อยละ 50 ของอัตราปกติ เป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่กำหนดระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นสุดลง
ทั้งนี้จะต้องยื่นคำขอรับการส่งเสริมภายในวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2560 โดยกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต (New Growth Engine) ที่ได้รับสิทธิและประโยชน์ตามประกาศฉบับนี้ ได้แก่ ยานยนต์สมัยใหม่ (Next - Generation Automotive) อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (Smart Electronics) การท่องเที่ยว กลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Affluent, Medical and Wellness Tourism) การแปรรูปอาหาร (Food for the Future) เครื่องจักรอัตโนมัติและหุ่นยนต์ (Automation and Robotics) การบิน (Aviation) เคมีชีวภาพและปิโตรเคมีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Biochemicals and Eco - friendly Petrochemical) ดิจิตอล (Digital) และการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub)
รวมถึงกิจการสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ได้แก่ กิจการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานและลอจิสติกส์ กิจการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว กิจการวิจัยพัฒนา และบริการสนับสนุนด้านเทคโนโลยี โดยมีรายละเอียดประเภทกิจการตามบัญชีท้ายของประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 2/2557 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2557 เรื่องนโยบายและหลักเกณฑ์การส่งเสริมการลงทุน
มีรายงานว่า ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 4/2560 ได้กำหนดธุรกิจอุตสาหกรรม จำนวน 8 หมวด ประกอบด้วย หมวด 1 เกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตร หมวด 2 แร่ เซรามิก และโลหะขั้นมูลฐาน หมวด 3 อุตสาหกรรมเบา หมวด 4 ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง หมวด 5 อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หมวด 6 เคมีภัณฑ์ พลาสติก และกระดาษ หมวด 7 กิจการบริการและสาธารณูปโภค และหมวด 8 การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม
เปิดสเปกประเภทกิจการ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
มีรายงานว่า สำหรับรายละเอียดประเภทกิจการตามบัญชีท้ายของประกาศ เช่น การลงทุนในหมวดกิจการสาธารณูปโภคและบริการพื้นฐาน เปิดให้ลงทุนกิจการผลิตพลังงานไฟฟ้า หรือพลังงานไฟฟ้าและไอน้ำจากขยะ หรือเชื้อเพลิงจากขยะ (Refuse Derived Fuel) กิจการผลิตพลังงานไฟฟ้า หรือพลังงานไฟฟ้าและไอน้ำจากพลังงานหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ เป็นต้น ยกเว้นขยะ หรือเชื้อเพลิงจากขยะ
กิจการนิคม หรือเขตอุตสาหกรรม เช่น กิจการนิคมหรือเขตอุตสาหกรรมอัญมณี และเครื่องประดับ กิจการนิคมหรือเขตอุตสาหกรรมลอจิสติกส์ (Logistics Park) กิจการนิคมหรือเขตอุตสาหกรรมภาพยนตร์ (Movie Town) กิจการนิคมหรือเขตอุตสาหกรรมเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กิจการนิคมหรือเขตอุตสาหกรรมยาง กิจการนิคมหรือเขตอุตสาหกรรมอากาศยาน หรืออวกาศ
ในส่วนของกิจการเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น กิจการเรือเฟอร์รี หรือเดินเรือท่องเที่ยว หรือให้เช่าเรือท่องเที่ยว กิจการบริการที่จอดเรือท่องเที่ยว กิจการสวนสนุก กิจการศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมหรือศูนย์ศิลปหัตถกรรม กิจการสวนสัตว์เปิด กิจการพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ กิจการสนามแข่งขันยานยนต์ กิจการกระเช้าไฟฟ้า กิจการเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว กิจการหอประชุมขนาดใหญ่ และกิจการศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีการเปิดให้ลงทุนในกิจการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น กิจการพัฒนา Biotechnology กิจการพัฒนา Nanotechnology กิจการพัฒนา Advanced Material Technology และ กิจการพัฒนา Digital Technology เป็นต้น
อ่านรายละเอียด ตามประกาศบีโอไอ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/109/9.PDF