รองโฆษกรัฐบาล เผย “ประยุทธ์” เยือนบาห์เรนอย่างเป็นทางการ 24-26 เม.ย.นี้ พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานลงนามความร่วมมือ 3 ฉบับ
วันนี้ (19 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะประกอบด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 24-26 เมษายน 2560 ซึ่งการเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนครั้งนี้นับเป็นประเทศแรกในภูมิภาคตะวันออกกลางที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางเยือน และถือเป็นโอกาสดี เนื่องจากปี 2560 เป็นปีครบรอบ 40 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและบาห์เรน
พล.ท.วีรชนกล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการเยือนครั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับบาห์เรนและเพิ่มพูนความร่วมมือในมิติที่สำคัญ การผลักดันความร่วมมือที่สำคัญให้มีความคืบหน้า เช่น ด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ด้านสาธารณสุข และด้านสังคม เป็นต้น โดยจะมีการหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ในภูมิภาคของทั้งสองประเทศด้วย โดยภารกิจสำคัญในการเยือนครั้งนี้ ได้แก่ การเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระราชาธิบดีฮามัด บิน อิซา อัล คอลิฟะห์ แห่งราชอาณาจักรบาห์เรน และหารือข้อราชการกับเจ้าชายคอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัล คอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ระหว่างการเยือนนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายจะร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามเอกสาร 3 ฉบับ ได้แก่ (1) บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงกิจการเทศบาลและผังเมืองแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร (2) พิธีสารแก้ไขอนุสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและการป้องกันการเลี่ยงรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ และ (3) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กับมหาวิทยาลัยบาห์เรน
พล.ท.วีรชนกล่าวว่า สำหรับกำหนดการเยือนราชอาณาจักรบาห์เรน มีกำหนดการโดยวันจันทร์ที่ 24 เมษายนเวลา 14.10 น. นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) เวลา 17.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงมานามา วันอังคารที่ 24 เมษายน เวลา 11.00 น. เดินทางถึงพระราชวัง Al Gudaibiya พิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าและหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีบาห์เรน ก่อนเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับ ก่อนเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนทรงเป็นเจ้าภาพเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีและคณะ และในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบาห์เรน ก่อนเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงค่ำ โดยจะถึงประเทศไทยในวันพุธที่ 26 เมษายน เวลา 08.20 น.