ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกำหนดวันที่ 28 ก.ค. และ 13 ต.ค. เป็นวันหยุดราชการประจำปี พร้อมให้วันที่ 5 พ.ค. ไม่ได้เป็นวันหยุด มีผลตั้งแต่วันนี้ ส่วน 5 ธ.ค. ยังหยุดเช่นเดิม
วันนี้ (11 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. มีมติเห็นชอบกำหนดวันหยุดราชการประจำปี 2 วัน โดยกำหนดให้วันที่ 28 ก.ค. เป็นวันหยุดราชการ เนื่องจากเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และวันที่ 13 ต.ค. เป็นวันหยุดราชการเนื่องจากเป็นวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อให้ประชาชนน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ จึงกำหนดให้ 2 วันดังกล่าว เป็นวันหยุดเพิ่มเติม และให้ยกเลิกมติ ครม. เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2500 เรื่อง ประกาศวันเวลาและวันหยุดราชการฉบับที่ 11 ที่กำหนดให้วันที่ 5 พ.ค. ของทุกปีเป็นวันหยุดราชการ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนวันที่ 5 ธ.ค. ยังเป็นวันหยุดเช่นเดิม
พ.อ.หญิง ทักษดา กล่าวอีกว่า ส่วนวันที่ 11 พ.ค. ซึ่งเป็นช่องว่างระหว่างวันหยุดวันที่ 10 พ.ค.(วันวิสาขบูชา) และ วันที่ 12 พ.ค.(วันพืชมงคล) ที่ประชุมมีความเห็นว่า วันที่ 11 พ.ค. ไม่เป็นวันหยุดราชการ ขอให้เอกชนและรัฐวิสาหกิจทำงานตามปกติ
ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 5 พ.ค. คือ วันฉัตรมงคล ซึ่งเป็นวันขึ้นครองราชย์จะต้องเป็นวันฉัตรมงคลของแต่ละรัชกาล ฉะนั้น วันฉัตรมงคลของแต่ละรัชกาลจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ