xs
xsm
sm
md
lg

เปิดประกาศ มส.ฉบับเต็ม สั่งวัดทั่วประเทศ ตั้งกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง ตามเกณฑ์รับเงินอุดหนุน อปท.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เปิดประกาศมหาเถรสมาคม (มส.) ฉบับเต็ม ให้วัดทั่วประเทศถือปฏิบัติ ตามกำหนดหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินอุดหนุนวัดในประเทศไทย ที่ได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สั่งปิดประกาศจัดซื้อจัดจ้างโดยละเอียด ตั้งคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง วิธีการตกลงราคา และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ - ตรวจการจ้าง ระบุโครงการเกิน 1 แสนบาท ต้องจัดทำหนังสือสัญญาหรือบันทึกข้อตกลง เป็นหลักฐานรายงาน อปท.ที่อุดหนุนภายใน 30 วัน

วันนี้ (6 เม.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้ส่งประกาศมหาเถรสมาคม (มส.) กำหนดหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินอุดหนุนวัด ที่ได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้วัดถือปฏิบัติ หลังจากได้เชิญตัวแทนจาก กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมการศาสนา เข้าร่วมหารือ โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานมหาเถรสมาคม ได้ลงพระนามในประกาศมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 1 /2560 วันที่ 26 ก.พ. 2560 เรื่องหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินอุดหนุนวัด ที่ได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)

ทั้งนี้ ตามประกาศ ระบุว่า เพื่อให้การใช้จ่ายเงินอุหนุนที่ได้รับจาก อปท. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล สอดคล้องกับระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนของ อปท. พ.ศ. 2559 ที่กำหนดให้ อปท. ผู้ให้เงินอุดหนุนต้องติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการของหน่วยงานที่ได้รับเงินอุดหนุน

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 ตรี แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 มหาเถรสมาคมจึงได้ออกประกาศหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินอุดหนุนที่วัดได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนี้

1. เมื่อวัดได้รับเงินอุดหนุนจาก อปท. แล้ว ก่อนดำเนินการจะต้องปิดประกาศเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ โดยประกาศอย่างน้อยต้องมีรายการดังนี้ 1.1 กิจกรรมหรือโครงการที่จะดำเนินการ 1.2 วงเงินที่จะดำเนินการ (ทั้งโครงการ ) 1) วงเงินที่ได้รับการสนับสนุนจาก อปท. (ระบุชื่อองค์กร/จำนวนเงิน) 2) วงเงินที่ได้รับจากการบริจาค 1.3 ระยะเวลาการดำเนินการ 1.4 สถานที่ดำเนินการ 1.5 ผู้รับผิดชอบโครงการ

2. กำหนดวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้ขาย หรือผู้จ้าง หรือผู้รับผิดชอบในการจัดทำกิจกรรม หรือโครงการให้ชัดเจน 2 วิธี ดังนี้ 1) วิธีที่ 1 ตกลงราคา ให้วัดติดต่อตกลงราคากับผู้ที่มีอาชีพโดยตรง 2) วิธีที่ 2 คัดเลือก ให้วัดเชิญผู้ที่มีอาชีพตามจำนวนที่เห็นสมควรให้มาเสนอราคา และคัดเลือกรายที่เสนอราคาต่ำสุด

3. ในการจัดซื้อ จัดจ้าง หรือการจัดหาพัสดุตามโครงการหรือกิจกรรม ให้วัดตั้งคณะกรรมการจัดหาพัสดุ หรือคณะกรรมการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำหน้าที่จัดหาผู้ขาย หรือผู้รับจ้าง หรือผู้รับผิดชอบในการจัดทำกิจกรรมหรือโครงการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์จนสิ้นสุดโครงการ รวมทั้งตรวจรับพัสดุหรือดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับองค์ประกอบ คุณสมบัติ และจำนวนกรรมการในแต่ละคณะให้เป็นไปตามที่วัดเห็นสมควร ได้แก่ 1) คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีการตกลงราคา หรือวิธีการคัดเลือก 2) คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ หรือคณะกรรมการตรวจการจ้าง

4. การใช้จ่ายเงินต้องมีหลักฐานที่จำเป็นไว้เพื่อตรวจสอบการใช้จ่ายเงิน เช่น ใบเสร็จรับเงินหรือใบสำคัญรับเงิน เป็นต้น

5. การจัดซื้อ จัดจ้าง หรือการจัดหาพัสดุตามโครงการหรือกิจกรรม ที่มีวงเงินตั้งแต่ 100,000 บาท ขึ้นไป วัดจะต้องจัดทำหนังสือสัญญาหรือบันทึกข้อตกลงไว้กับผู้ขาย/ผู้รับจ้างไว้เป็นหลักฐาน

6. เมื่อวัดดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของโครงการเสร็จเรียบร้อยแล้ว วัดต้องรายงานผลการดำเนินการพร้อมรายงานการใช้จ่ายเงินและสำเนาใบเสร็จรับเงินหรือเอกสารหลักฐานอื่น ให้ผู้ให้เงินอุดหนุนทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่โครงการแล้วเสร็จ และหากมีเงินเหลือจ่ายให้ส่งคืน (ชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น )

ประกาศ ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานมหาเถรสมาคม

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้มีข้อทักท้วงการดำเนินการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งกรณีตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนให้แก่วัด โดยเห็นว่าโครงการที่วัดขอรับเงินอุดหนุน ไม่ใช่ภารกิจที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และวัดยังไม่มีระเบียบหลักเกณฑ์ หรือข้อบังคับเกี่ยวกับระบบการจัดซื้อจัดจ้าง และการควบคุมการใช้จ่ายเงินอุดหนุนดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติซึ่งอาจนำไปสู่ช่องทางในการทุจริตได้

ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยจึงได้ขอความร่วมมือให้ชะลอการตั้งงบสนับสนุนวัดไว้ก่อน จนกระทั่งกระทรวงมหาดไทยได้ออกระเบียบว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2559 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา และเวียนแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการใช้จ่ายงบอุดหนุนของท้องถิ่นสนับสนุนวัดได้แล้วนั้น ประกอบกับเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2560 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้มีหนังสือแจ้งกระทรวงมหาดไทยว่า ขณะนี้มหาเถรสมาคมได้มีประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินอุดหนุนวัดที่ได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ นายสุทธิพงษ์ ระบุว่า เพื่อให้การดำเนินการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการสนับสนุนงบประมาณเพื่ออุดหนุนวัดในด้านต่างๆถูกต้องตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2559 และข้อสั่งการที่กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ถือปฏิบัติทั้งในด้านการจัดตั้งงบประมาณและการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุน และรวมถึงการดำเนินการตามประกาศของมหาเถรสมาคม กระทรวงมหาดไทยจึงแจ้งทุกจังหวัดให้เน้นย้ำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2559 และให้ประสานวัดในเขตพื้นที่ดำเนินการตามประกาศมหาเถรสมาคมในการใช้จ่ายเงินอุดหนุนวัดที่ได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยเคร่งครัดด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น