โฆษก รบ. แจง ไม่มีเจตนาสร้างความลำบาก ปชช. แต่จำเป็นต้องมีมาตรการลดอุบัติเหตุ ถ้าไม่พร้อมจะให้เวลาปรับตัว อนุโลมตักเตือนเบาะหลังไม่คาดเข็มขัด แต่รถประจำทางต้องคาดทุกที่นั่ง กระบะนั่งแค็บ หรือท้ายได้ไม่เกิน 6 คน ชี้ พบ จนท. เรียกรับผลประโยชน์ให้ถ่ายคลิปแจ้งมา ขอร่วมมือหาทางออกลดอุบัติเหตุ
วันนี้ (6 เม.ย.) พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลอยากสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับพี่น้องประชาชน กรณีการบังคับใช้กฎหมายและการผ่อนปรนเป็นบางกรณี สำหรับการใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุ ดังนี้
1. รัฐบาลไม่มีเจตนาสร้างความลำบากแก่ประชาชน แต่จำเป็นต้องมีมาตรการลดอุบัติเหตุ แต่เมื่อประชาชนยังไม่พร้อม รัฐบาลจะเร่งรณรงค์สร้างความเข้าใจ และให้เวลาปรับตัวอีกระยะหนึ่ง
2. เจ้าหน้าที่จะยังคงบังคับใช้กฎหมายด้วยการจับปรับ ในกรณีของรถยนต์ส่วนบุคคลที่ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารที่นั่งเบาะหน้าที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย แต่จะอนุโลม ตักเตือน ผู้ที่นั่งเบาะหลังที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างถูกต้อง
3. รถโดยสารสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ รถตู้ รถโดยสารประจำทาง ต้องคาดเข็มขัดทุกที่นั่ง
4. สำหรับรถกระบะ อนุโลมให้นั่งในแค็บ และในท้ายกระบะได้ไม่เกิน 6 คน แต่ห้ามนั่งบนขอบกระบะหรือฝาปิดท้ายรถ
5. เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดกวดขันผู้ขับขี่ที่ดื่มสุรา หรือใช้ความเร็วเกินกำหนด ขับรถหวาดเสียว หรือแซงในที่คับขัน ที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย โดยจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุอีกทางหนึ่ง
6. นายกฯ สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่เรียกรับผลประโยชน์ใดๆ จากประชาชน หากผู้ใดพบเห็น ขอให้ถ่ายคลิปและแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน และฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในการปฏิบัติงาน โดยขอความร่วมมือให้คนไทยช่วยกันหาทางออกที่เหมาะสม มุ่งเน้นที่การสร้างจิตสำนึก และความรับผิดชอบของทุกคน เพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน จากอุบัติเหตุในการใช้รถใช้ถนน ที่ติดอันดับต้นๆ ของโลก