“ประยุทธ์” พบผู้บริหารเอกชนชั้นนำ ขอบคุณเชื่อมั่นศักยภาพประเทศ ย้ำรัฐบาลมุ่งให้พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกเป็นการสร้างอนาคตของชาติ เชื่อเป็นประโยชน์อย่างสูง ด้านเอกชนขานรับลงทุน
วันนี้ (5 เม.ย.) เวลา 09.15 น. ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชนชั้นนำต่างชาติที่สนใจลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องรับรอง ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารหลังใหม่ การท่าอากาศยานอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ได้พบกับคณะภาคเอกชนในวันนี้ พร้อมแสดงความขอบคุณในความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของประเทศไทย และขอบคุณในความร่วมมือที่มีให้กับประเทศไทยมาโดยตลอด
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้แนะนำคณะรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เข้าร่วมการหารือ อาทิ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น
นายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลมีเจตนารมณ์อย่างมุ่งมั่น ที่จะทำให้พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเป็นการสร้างอนาคตของประเทศไทย ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน โดยรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน ทั้งทางด้านกฎหมาย และสิทธิประโยชน์ต่างๆ
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาต้องเป็นไปอย่างสมดุลกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกจะเป็นประโยชน์อย่างสูงกับประเทศไทย ภูมิภาค CLMV รวมถึงประชาชนในพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลจะดูแลประชาชนโดยรอบให้ได้รับประโยชน์สูงสุด มีการเติบโตอย่างเข้มแข็ง มีรายได้ที่เพียงพอ นอกจากนี้รัฐบาลยังได้จัดหาบุคลากร พัฒนาด้านการศึกษา การผลิตคน เพื่อให้รองรับการเติบโตของ EEC ในอนาคต
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในวันนี้จะเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งจะมีการหารือถึงแผน EEC การสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รถไฟรางคู่เชื่อม 3 ท่าเรือ เขตนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและดิจิตอล และการสร้างเมืองใหม่ ในจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นต้น
โอกาสนี้ภาคเอกชนได้แสดงความคิดเห็นและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก อาทิ BMW แสดงความขอบคุณรัฐบาลที่ให้การสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในไทยมาโดยตลอด โดยเห็นว่า EEC จะเป็นประโยชน์ด้านการขนส่งสินค้าแก่บริษัทฯ และยืนยันความพร้อมในการทำงานร่วมกับรัฐบาลอย่างใกล้ชิด
LAZADA กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจในไทยกว่า 5 ปี ในด้าน E-commerce โดยหวังให้รัฐบาลพัฒนาด้านบุคลากรเพื่อรองรับด้านดิจิตอลในอนาคต
Toyota กล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนการลงทุนในไทยอย่างเต็มที่ โดยมีพื้นที่การผลิตหลักอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ดี ขอให้รัฐบาลดูแลเรื่องถนนหนทางที่ขาดแสงสว่าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
PPT GC กล่าวว่า พร้อมให้การสนับสนุน EEC อย่างเต็มที่ โดยเห็นว่าการพัฒนาด้านการศึกษา เทคโนโลยีระดับสูง นวัตกรรม และการให้ข้อมูลแก่นักลงทุนเป็นสิ่งที่สำคัญ
Google และ Microsoft ได้แสดงความคิดเห็นด้านนวัตกรรม และความสำคัญของการพัฒนาบุคลากร การลงทุนด้านการศึกษา โดยเฉพาะในด้านดิจิตอล
ก่อนจบการหารือนายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณภาคเอกชนที่ร่วมหารือในวันนี้ และขอบคุณในข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะในด้านการศึกษานั้นขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลกำลังพัฒนาบุคลากรอย่างเต็มที่ เพื่อให้รองรับต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียินดีหากทุกท่านจะมีส่วนร่วมในการสร้างประวัติศาสตร์ให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง โดยขอให้ภาคเอกชนมั่นใจว่า EEC จะเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีความต่อเนื่องและยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง นายกรัฐมนตรีขอให้ภาคเอกชนมีความไว้เนื้อเชื่อใจ สร้างประโยชน์ร่วมกัน และลดความหวาดระแวง พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลยินดีเปิดรับภาคเอกชนทุกราย