มท. ออกระเบียบ 6 ข้อ สั่ง อปท. คุมงบอุดหนุน “วัดทั่วประเทศ” ป้องทุจริตใช้จ่าย ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบควบคุมงบ อปท. ฉบับใหม่ และตามประกาศมหาเถรสมาคม ย้ำยังไฟเขียวให้ท้องถิ่น อุดหนุน โครงการ “บ-ว-ร” ต่อเนื่อง เผย ปีที่ผ่านมา เคยเสนอ มส. ระงับชั่วคราว เหตุวัดไม่มีระเบียบเบิกจ่าย หวั่นมิจฉาชีพแสวงหาผลประโยชน์ เผย ระเบียบฉบับใหม่ ให้รายงานตามเอกสารให้ชัดเจน
วันนี้ (3 เม.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้ชี้แจง องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ ภายหลังได้ออกระเบียบเพื่อควบคุมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการสนับสนุนงบประมาณเพื่ออุดหนุนวัดในด้านต่างๆ จำนวน 6 ข้อ ให้ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่า ด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2559 และข้อสั่งการที่กระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ถือปฏิบัติ ทั้งในด้านการจัดทำงบประมาณ และการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุน โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. ให้วัดที่ได้รับเงินอุดหนุน ก่อนดำเนินการจะต้องปิดประกาศเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ
2. มีการกำหนดวิธีการให้ได้มาซึ่งผู้ขาย หรือผู้รับจ้าง หรือผู้รับผิดชอบกิจกรรมอย่างชัดเจน โดยวิธีตกลงราคาหรือวิธีคัดเลือก
3. ให้วัดตั้งคณะกรรมการจัดหาพัสดุ หรือคณะกรรมการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
4. การใช้จ่ายต้องมีหลักฐานเพื่อตรวจสอบ เช่น ใบเสร็จรับเงินหรือใบสำคัญรับเงิน เป็นต้น
5. การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการจัดหาพัสดุตามโครงการหรือกิจกรรมที่มีวงเงินตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไป วัดจะต้องทำหนังสือสัญญาหรือบันทึกข้อตกลงไว้กับผู้ขาย/ผู้รับจ้างไว้เป็นหลักฐาน
6. วัดต้องรายงานผลการดำเนินการ พร้อมรายงานการใช้จ่ายเงิน และพร้อมส่งคืนหากมีเงินเหลือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ระเบียบดังกล่าวยังรวมถึงการดำเนินงานตามประกาศของ มหาเถรสมาคม (มส.) ที่ กระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งทุกจังหวัดให้เน้นย้ำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2559 และให้ประสานวัดในเขตพื้นที่ดำเนินการตามประกาศของ มส. ในการใช้จ่ายเงินอุดหนุนวัดที่ได้รับเงินจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยเคร่งครัดด้วย
ให้ อปท. ตรวจสอบหน่วยงานขอรับเงินอุดหนุน โครงการ “บ-ว-ร”
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า แนวทางปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยนี้ กำหนดให้ อปท. จะต้องตรวจสอบว่าหน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนมีระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์ หรือวิธีปฏิบัติเพียงพอที่จะนำเงินอุดหนุนที่ได้รับจาก อปท. ไปใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ หากหน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุนไม่มีหลักฐานแสดงในเรื่องดังกล่าว อปท. สามารถพิจารณาไม่จัดตั้งงบอุดหนุนให้แก่หน่วยงานดังกล่าวได้ รวมทั้งให้ประชาสัมพันธ์หลักเกณฑ์ ระเบียบ ให้ทราบโดยทั่วกัน
“กระทรวงมหาดไทยพร้อมให้การสนับสนุนกิจกรรมของชุมชน ภายใต้แนวคิด “บ-ว-ร” มุ่งพัฒนา “บ้าน-วัด-โรงเรียน” เพื่อร่วมพัฒนาสังคมและชุมชนให้เกิดความรักสามัคคี และสร้างโอกาส สร้างความสุข ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
มีรายงานว่า สำหรับ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2559 ที่ลงนามโดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2559 ใน ข้อ 9 วรรคสอง ระบุว่า “การเบิกเงินอุดหนุนสำหรับองค์ประชาชน และองค์กรสาธารณกุศล ให้จัดทำบันทึกข้อตกลงกับผู้แทนที่ขอรับเงินอุดหนุนดังกล่าวไม่น้อยกว่าสามคน ทั้งนี้ ตามแบบที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยกำหนด”
ออกระเบียบคุมการใช้จ่ายงบ อปท.ให้โปร่งใส-เคยสั่งหยุดอุดหนุนชั่วคราว
มีรายงานว่า การเร่งให้ อปท. ดำเนินการตามระเบียบดังกล่าว เนื่อจากกรณีที่กระทรวงมหาดไทย เคยมีหนังสือแจ้งให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกแห่งทราบ เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการตั้งงบประมาณรายจ่ายหมวดเงินอุดหนุนของ อปท. เพื่อสนับสนุนวัด โดยที่ผ่านมา มีการตีความว่า ให้ อปท. ระงับการเบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนให้แก่วัดไว้ก่อนจนกว่า กระทรวงมหาดไทยจะได้ออกระเบียบ กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้รับหนังสือทักท้วงจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบการใช้งบประมาณ โดยได้มีข้อทักท้วงถึงการตั้งงบประมาณอุดหนุนให้แก่วัด ของ อปท. ว่า เป็นโครงการที่ไม่ใช่ภารกิจที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ และวัดยังไม่มีระเบียบหลักเกณฑ์ หรือข้อบังคับเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการควบคุมการใช้จ่ายเงินอุดหนุนที่ได้รับจาก อปท. อย่างมีประสิทธิภาพ
มีรายงานว่า กระทรวงมหาดไทย ได้ชี้แจงถึงเจตนารมณ์ของหนังสือฉบับดังกล่าวนั้น ไม่ได้ห้าม อปท. สนับสนุนกิจกรรมของวัด แต่เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบพบว่ากระบวนการใช้จ่ายเงินยังมีปัญหาในทางปฏิบัติ เช่น ไม่สามารถควบคุมการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบได้ จึงมีความจำเป็นต้องระงับการใช้จ่ายเงินของ อปท. ไว้เป็นการชั่วคราว
เคยแจ้ง มส.เหตุวัดไม่มีระเบียบเบิกจ่าย หวั่นมิจฉาชีพแสวงหาผลประโยชน์
มีรายงานว่า ที่ผ่านมา มส. รับทราบกรณีกระทรวงมหาดไทย (มท.) ส่งหนังสือด่วนที่สุดที่ มท 0808.2/6610 ลงวันที่ 25 เมษายน 2559 แจ้งว่า มท. ได้กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการตั้งงบประมาณเพื่ออุดหนุนหน่วยงานอื่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตามหนังสือที่มท.0808.2/ว 74 ลงวันที่ 8 มกราคม 2553 เรื่อง การตั้งงบประมาณหมวดเงินอุดหนุนส่วนท้องถิ่น และหนังสือ มท. ด่วนที่สุดที่ มท 0808.2/ว 2087 ลงวันที่ 12 เมษายน 2559 เรื่อง การตั้งงบประมาณรายจ่ายหมวดเงินอุดหนุนของ อปท. เพื่อสนับสนุนวัด
มท. ขอแจ้งว่า มิได้เป็นการห้าม อปท. ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมของวัด แต่ข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบของหน่วยงานตรวจสอบพบว่ากระบวนการในการสนับสนุนงบยังมีปัญหาในทางปฏิบัติ เช่น อปท. นำเงินไปอุดหนุนวัดในกิจกรรมหรือโครงการที่ไม่ได้อยู่ตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายกำหนด หรือวัดไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของโครงการได้ ซึ่งสาเหตุมาจากวัดยังไม่มีระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการเบิกจ่าย ทำให้ไม่สามารถควบคุมการใช้จ่ายเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจเป็นช่องทางให้บุคคลไม่หวังดีใช้เป็นช่องทางในการแสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบ
ดังนั้น เพื่อป้องกันผลเสียที่อาจเกิดขึ้น มท. จึงจำเป็นต้องระงับการใช้จ่ายเงินของอปท.ในเรื่องดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราว และได้ยกร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ…. กำหนดหลักเกณฑ์การตั้งงบประมาณการเบิกจ่าย การตรวจสอบและติดตามผลการใช้จ่ายเงินอุดหนุนของ อปท.
วัด-ศาสนสถาน ยังรับงบสนับสนุนจาก อปท.ทั่วประเทศได้
สำหรับระเบียบดังกล่าวเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การตั้งงบประมาณ การเบิกจ่าย การตรวจสอบและติดตามผลการใช้จ่ายเงินอุดหนุนของ อปท. เพื่อให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และที่ผ่านมา ได้มีหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด ทำความเข้าใจแก่อปท.ทราบและถือปฏิบัติ และเคยมีหนังสือถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อให้นำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมกรรมการมหาเถรสมาคมทราบแล้ว
ขณะที่ นายสุทธิพงษ์ เคยระบุว่า หลังระเบียบมีผลบังคับใช้ การใช้จ่ายงบของ อปท. จะมีความโปร่งใสมากขึ้น แต่ข้อเท็จจริง ปรากฏว่า มีผู้ไม่หวังดี นำเรื่องนี้มาโจมตีพยายามชี้นำผ่านสื่อออนไลน์ว่า วัดจะไม่ได้งบสนับสนุนจาก อปท. อีก และมีความพยายามทำให้เป็นความขัดแย้งทางศาสนา จึงขอให้ผู้ไม่หวังดีหยุดการกระทำอันนำมาสู่ความแตกแยกในสังคม และขอให้ผู้รับฟังข่าวสารใช้สติตรึกตรองก่อนเสพข่าวที่ไม่เป็นความจริง