กรมการปกครอง สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ซักซ้อมทำความเข้าใจยุทธศาสตร์ “ไลน์ 3 ชั้น” แนวทางและวิธีปฏิบัติการจัดส่งและรายงานประเด็นสำคัญที่ทันต่อสถานการณ์ของรัฐบาล เผยห้ามคัดลอกนำไปเผยแพร่ ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือส่งต่อผ่านไลน์ อื่นๆ หวั่นถูกนำไปขยายผล อาจเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ระบุข้อมูลลับให้จำกัดขอบเขตการรับรู้เฉพาะผู้บริหารหน่วยงานของรัฐ
วันนี้ (2 เม.ย.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และกรมประชมสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ที่มี พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กำกับดูแลอยู่ทั้ง 2 หน่วยงาน ได้ออกระเบียบแนวทางและวิธีปฏิบัติการจัดส่งและรายงานประเด็นสำคัญที่ทันต่อสถานการณ์ โดยมี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) และ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ได้เสนอให้มีการจัดสร้าง ระบบ Line Group เพื่อใช้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารและดำเนินการในเรื่องดังกล่าวไปพลางก่อน โดยได้กำหนดช่องทางการสื่อสาร ผ่านการจัดตั้งกลุ่มไลน์ จำนวน 3 กลุ่ม
ทั้งนี้ เป็นกลุ่มไลน์ของ “คณะทำงานกำหนดประเด็นการชี้แจงข่าวทันเหตุการณ์” คณะทำงานฯ ประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักโฆษก ทำหน้าที่ติดตามข้อมูลประเด็นข่าวสำคัญทุกวันจากหนังสือพิมพ์ และ Social Media และกรมประชาสัมพันธ์ ทำหน้าที่ติดตามข้อมูลประเด็น ข่าวสำคัญทางสื่อโทรทัศน์และวิทยุ และร่วมกันประมวลวิเคราะห์และกำหนดประเด็นข่าวสำคัญที่ เผยแพร่ผ่านสื่อ โดยกรอบการกำหนดประเด็นข่าวจะพิจารณาจากประเด็นสถานการณ์ปัจจุบัน ประเด็นข่าวที่สื่อมวลชนให้ความสนใจตามระดับ นโยบายสำคัญของรัฐบาล มติคณะรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ ประเด็นข่าวที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง ประเด็นข่าวที่สาธารณชนให้ความสนใจ
สำหรับกลุ่มไลน์ของ “คณะทำงานกำหนดประเด็นการชี้แจงข่าวทันเหตุการณ์” ประกอบไปด้วย กลุ่มไลน์ 1 ID - Chat : Issue Discussion Chat “คณะทำงานกำหนดประเด็นการชี้แจงข่าวทันเหตุการณ์” กลุ่มไลน์ 2 IA - Chat : Issue Assignment Chat การจัดส่งประเด็นข่าวให้แก่ส่วนราชการ องค์การมหาชน และรัฐวิสาหกิจ และส่วนราชการ องค์การมหาชน และรัฐวิสาหกิจ ตอบรับ และ กลุ่มไลน์ 3 IR - Chat : Issue Report Chat ส่วนราชการ องค์การมหาชน และรัฐวิสาหกิจ รายงานการชี้แจงประเด็นสำคัญ ที่ทันต่อสถานการณ์
อ่านข่าว เปิดยุทธศาสตร์ “ไลน์ 3 ชั้น” ชิงพื้นที่สื่อ “ไก่อู” สนองนายกฯ แก้ปัญหาราชการไม่ทันสถานการณ์http://www.manager.co.th/qol/ViewNews.aspx?NewsID=9600000019013
กรมการปกครอง สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ซักซ้อมทำความเข้าใจ ยุทธศาสตร์ “ไลน์ 3 ชั้น”
ล่าสุดมีรายงานจากกระทรวงมหาดไทยว่า กรมการปกครองได้ทำหนังสือที่ มท 0301.1/ว 6359 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการและซักซ้อมทำความเข้าใจกับวิธีการปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าว เนื่องจากแนวทางดังกล่าวจะเป็นไปตามกรอบการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 เกี่ยวกับการดำเนินการการตามตัวชี้วัดการสร้างความรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ให้มีประสิทธิภาพและผ่านเกณฑ์การประเมินของ ก.พ.ร.
หนังสือฉบับดังกล่าวขอให้จังหวัดและอำเภอ ดำเนินการชี้แจงสถานการณ์ข่าวของจังหวัดนั้นๆ ต่อคณะทำงานกำหนดประเด็นการชี้แจงข่าวทันเหตุการณ์ ของกรมการปกครอง ให้แล้วเสร็จภายในเวลา 15.00 น. ของวันที่ได้รับแจ้งประเด็นข่าว และให้ดำเนินการชี้แจงรายละเอียดประเด็นข่าวรวมถึงส่งผ่านระบบจดหมายข่าวอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) ของกรมการปกครอง โดยต้องชี้จงให้ครบถ้วน ความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าฯ หรือปลัดจังหวัด เป็นผู้รับรองรายงานข่าวประจำวัน รวมทั้งต้องมีเอกสารข้อมูลรายงานต่อกรมการปกครองภายใน 2 วัน
มีรายงานว่า การดำเนินการดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับการคณะทำงาน ที่มีผู้แทนสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ติดตามข้อมูลประเด็นข่าวสำคัญทุกวันจากหน้าหนังสือพิมพ์ Social Media สื่อโทรทัศน์ วิทยุ และจะส่งประเด็นข่าวผ่านแอปพลิเคชั่น ไลน์ 3 ระดับ มายังอธิบดีกรมการปกครอง ในเวลา 10.30 น.ของทุกวัน (เฉพาะประเด็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับกรมการปกครอง จังหวัด อำเภอ) ในวันปฏิบัติราชการและวันหยุดราชการ
ขณะที่สำนักงานเลขานุการกรมการปกครอง จะเป็นหน่วยงานนำประเด็นข่าวจากอธิบดีกรมการปกครอง มาวิเคราะห์ เพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ชี้แจงประเด็นข่าวว่าเป็นของหน่วยงานใด ก่อนจะส่งประเด็นข่าวผ่านระบบไลน์ของผู้บริหารโดยตรง ของ ผู้แทนสำนัก กอง จังหวัด หรืออำเภอ ที่รับผิดชอบข่าวนั้นๆ ภายใน 1 ชั่วโมง
“ผู้แทนสำนักนายกรัฐมนตรีจะประชุม 10.30 น.ของทุกวัน เพื่อส่งข้อมูลข่าวที่สื่อนำเสนอมายัง อธิบดีกรมการปกครอง เพื่อวิเคราะห์ก่อนส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบภายใน 1 ชั่วโมง และจะต้องรายงานผ่านอีเมลล์ ตรงมายังอธิบดีกรมการปกครอง ภายในเวลา 15.00 น. ก่อนรายงานตรงไปยังคณะทำงานกำหนดประเด็นการชี้แจงข่าวทันเหตุการณ์ สังกัดกรมประชาสัมพันธ์ต่อไป” รายงานข่าวระบุ
เรื่องความลับ ไม่ควรนำมาเปิดเผย ในการรายงานผ่านห้องกลุ่มไลน์
มีรายงานว่า หนังสือฉบับดังกล่าว มีการกำหนดแนวทางที่จังหวัดจะต้องดำเนินการ ประกอบด้วย การสรุปสาระสำคัญเหตุการณ์/ข้อเท็จจริงของเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร (โดยสังเขปไม่ควรเกิน 1 หน้ากระดาษ) หน่วยงานได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วหรือไม่ ดำเนินการเรื่องใดไปแล้วบ้าง และดำเนินการอย่างไร หากยังไม่เคยดำเนินการฯ จะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในประเด็นใดบ้าง และจะดำเนินการอย่างไร หากได้ดำเนินการแก้ไขปัญหา/เรื่องที่เกิดขึ้น ตามแนวทาง/แผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้ คาดว่าจะช่วยทำให้เหตุการณ์/เรื่องที่เกิดขึ้น คลี่คลาย/ลดลง/หมดไป ได้แค่ไหนเพียงใด
สำหรับ ช่องทางการเผยแพร่ ขอให้ระบุประเภท/ชื่อของสื่อ ที่จะใช้ในการเผยแพร่ให้ชัดเจน เช่น หนังสือพิมพ์อะไร ทีวีช่องไหน สถานีวิทยุแห่งใด หรือสื่อสังคมออนไลน์ใด ฯลฯ ทั้งนี้ การสรุปสาระสำคัญที่หน่วยงานได้มีการรายงาน/ชี้แจง ผ่านห้องกลุ่มไลน์ของผู้บริหาร (IR-Chat ของอธิบดีกรมการปกครอง) จะต้องเป็นข้อมูล/ข้อเท็จจริง ที่หน่วยงานพิจารณาแล้วเห็นว่า สามารถนำไปใช้ในการเผยแพร่ สื่อสาร และเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนได้ทั้งหมด ตามช่องทางการเผยแพร่ที่หน่วยงานได้ระบุไว้ในการตอบรายงานประเด็นสำคัญ โดยไม่มีเงื่อนไขในชั้นความลับของข้อมูล/ข้อเท็จจริง
มีการระบุว่า หากหน่วยงานพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อมูล/ข้อเท็จจริงใด เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน/อ่อนไหวในเชิงสถานการณ์/เป็นเรื่องความลับ ที่ไม่ควรนำมาเปิดเผยในการรายงานผ่านห้องกลุ่มไลน์ ผู้บริหาร (IR-Chat ของ อปค. ) แต่เป็นข้อมูล/ข้อเท็จจริงที่สำคัญและมีประโยชน์อย่างยิ่ง เพื่อใช้ประกอบการรายงาน/การชี้แจง/การตอบคำถามในประเด็นข่าวสำคัญที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน ขอให้หน่วยงานจัดส่งเอกสาร/ข้อมูล/ข้อเท็จจริง เพิ่มเติมผ่านทาง e-mail ที่กำหนด
ห้ามคัดลอก/เผยแพร่ ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือส่งต่อผ่านไลน์อื่น หวั่นนำขยายผล
มีรายงานงานว่า หนังสือยัง ระบุถึงการดำเนินการอื่นใดที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจ เข้าใจคลาดเคลื่อน จากแนวทางการดำเนินการตามมาตรการการสร้างความรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนได้ ซึ่งประเด็นข่าวสำคัญทุกประเด็น ถือว่าเป็นเรื่องของทางราชการ ที่ควรจำกัดขอบเขตการรับรู้เฉพาะผู้บริหารหน่วยงานของรัฐ
ส่วน ข้อกำหนดการชี้แจงประเด็นข่าว มีดังนี้ 1. วัตถุประสงค์การดำเนินการเรื่องนี้ เพื่อให้ผู้บริหารหน่วยงานของรัฐ เป็นผู้ทำหน้าที่ในการรับประเด็นข่าวสำคัญ และรายงาน/ชี้แจงตามประเด็นข่าวที่ได้รับและเกี่ยวข้องกับหน่วยงานด้วยตนเอง เนื่องจากทุกประเด็นข่าวสำคัญที่กำหนดเป็นเรื่องเชิงนโยบายของแต่ละหน่วยงานและระบบการบริหารราชการแผ่นดินโดยรวม
2. เนื่องจากประเด็นข่าวสำคัญที่ทันต่อสถานการณ์เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ละเอียดอ่อน และมีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์ในหลายเรื่อง จึงขอความร่วมมือมิให้คัดลอกข้อความประเด็นสำคัญทั้งหมด หรือข้อความหนึ่งส่วนใดเพื่อนำไปเผยแพร่ แจ้งข่าวให้กับผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือส่งต่อผ่านไลน์ต่างๆ ที่อาจนำไปขยายผลหรือดำเนินการอื่นใดที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจ เข้าใจคลาดเคลื่อน จากแนวทางการดำเนินการตามมาตรการการสร้างความรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนได้ ซึ่งประเด็นข่าวสำคัญทุกประเด็น ถือว่าเป็นเรื่องของทางราชการที่ควรจำกัดขอบเขตการรับรู้เฉพาะผู้บริหารหน่วยงานของรัฐเท่านั้น
มีรายงานว่า สำหรับการดำเนินการตัวชี้วัดการสร้างความรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน เป็นการดำเนินการตาม มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของ คสช. ได้ออกคำสั่ง คสช.ที่ 5/2559 เรื่อง มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูประบบการบริหารราชการแผ่นดิน มีบังคับใช้ ณ วันที่ 1 ก.พ. 2559 และตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2559 เห็นชอบการประเมินโดยแบบประเมินข้าราชการพลเรือนในความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารและแบบประเมินส่วนราชการ ตามคำสั่ง คสช. ที่ 5/2559 และให้นำแบบประเมินฯ นี้ไปใช้ในการประเมินข้าราชการและการประเมินส่วนราชการในรอบการปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2558
โดยสำนักงาน ก.พ.ร.ได้กำหนดกรอบการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 เป็น 5 องค์ประกอบการประเมิน และได้กำหนดให้ตัวชี้วัดการสร้างความรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินผลการปฏิบัติราชการของหัวหน้าส่วนราชการทุกแห่ง