ประธาน ป.ป.ช.ยันไม่ยอมให้คดีตำรวจสั่งฟ้อง “ทายาทกระทิงแดง” ไม่ทัน หมดอายุความแน่ หวั่นตอบสังคมไม่ได้ ขอดูประเด็น “อดีตบิ๊ก ปตท.” ยื่นหลักฐานเพิ่มเติม ปมซื้อที่ดินสูงเกินจริงโครงการปลูกปาล์มอินโดฯ
วันนี้ (2 เม.ย.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีมีผู้กล่าวหา พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว อดีตผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กับพวก กระทำความผิดทุจริตต่อหน้าที่ กรณีไม่นำตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทกระทิงแดง สั่งฟ้องข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเป็นเหตุให้คดีขาดอายุความว่า ตนขอสอบถามความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่เจ้าของเรื่องก่อน แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในกระบวนการยุติธรรมและการทำงานของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เรื่องอายุความของคดีเป็นเรื่องสำคัญสุด จะไม่ปล่อยให้คดีขาดอายุความ เราตระหนักเรื่องนี้ดี ไม่เช่นนั้นจะตอบสังคมไม่ได้ ต้องมีเหตุผลที่จะตอบต่อสังคม และเจ้าหน้าที่เองหากคดีนั้นๆ ขาดอายุความเขาเองต้องตอบสังคมให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะโดนลงโทษฐานบกพร่องในหน้าที่ ซึ่งมีโทษขั้นรุนแรง อย่างเมื่อก่อนถ้าเป็นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โทษวินัยร้ายแรงถึงขั้นให้ออกจากราชการ โดยคดีดังกล่าวนี้ตนยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้ขาดอายุความแน่นอน รวมถึงทุกๆ คดี ทุกเรื่องที่เราทำงานอยู่ เราต้องตอบสังคมให้ได้
พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวถึงกรณีนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.กรีน เอ็นเนอร์ยี จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาในคดีซื้อที่ดินสูงเกินจริงสำหรับการปลูกปาล์มในประเทศอินโดนีเซีย นำคำประทับรับฟ้องของศาลอาญาคดีทุจริตที่ตนเองเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 3 คน ร่วมกันทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ แจ้งความเท็จเป็นเหตุให้ถูกไล่ออกมายื่นให้ ป.ป.ช.ไต่สวนเพิ่มเติมว่า ต้องขอดูที่ประเด็นก่อน เพราะที่จริงแล้ว แม้ ป.ป.ช.ไต่สวนเรื่องที่มีการกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหาก็สามารถใช้สิทธิในการฟ้องของเขาเองได้ว่าเขาถูกกลั่นแกล้ง โดยเป็นเรื่องของเขา แต่ ป.ป.ช.เองจะพิจารณาไปตามครรลอง