สนช.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีและสิ่งปลูกสร้าง วาระ 1 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แจงแบ่งเก็บ 4 ประเภท ที่ดินเกษตรกรรม-บ้านพักอาศัย-พาณิชย์ และที่รกร้าง โดนเพดานสูงสุด 5% ด้าน สนช.แนะเว้นให้เกษตรกร ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นวิเคราะห์ผลกระทบก่อนกำหนดอัตราภาษี ถามคนได้บ้านเป็นมรดกในที่ราคาแพง มอบที่ให้สาธารณะต้องเว้นหรือไม่ หนุนเก็บพวกมีเกิน 500 ไร่ ก่อนมีมติ 190 ต่อ 1 งดออกเสียง 4 ไม่ลงคะแนน 2 เห็นชอบรับหลักการ ตั้ง กมธ.วิสามัญ 26 คน แปรญัตติใน 21 วัน “พรเพชร” ขอฟังความเห็นประชาชนด้วย
วันนี้ (31 มี.ค.) ที่รัฐสภา ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ... วาระ 1 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยมีสาระสำคัญเพื่อปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดินและกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ ที่บังคับใช้มาเป็นเวลานาน ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้รับผิดชอบการจัดเก็บภาษี
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงหลักการของร่างกฎหมาย โดยแบ่งการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 4 ประเภท ได้แก่ ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างเพื่อการประกอบเกษตรกรรม กำหนดอัตราภาษีไม่เกิน 0.2 เปอร์เซ็นต์ ของฐานภาษี, ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบ้านที่พักอาศัย กำหนดอัตราภาษีไม่เกิน 0.5 เปอร์เซ็นต์ ของฐานภาษี, ที่ดินเพื่อการพาณิชย์ กำหนดอัตราภาษีไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ของฐานภาษี และที่ดินรกร้างว่างเปล่า กำหนดฐานภาษีที่ 2 เปอร์เซ็นต์ และจะเพิ่ม 0.5 เปอร์เซ็นต์ทุกๆ 3 ปี โดยมีเพดานภาษีสำหรับพื้นที่รกร้างว่างเปล่าสูงสุด 5 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่สมาชิก สนช.ได้อภิปรายในที่ประชุมโดยสมาชิกบางส่วนไม่ขัดข้องกับการจัดเก็บภาษีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นอาคารพาณิชย์ แต่ขอให้มีข้อยกเว้นบางประการให้กับเกษตรกรที่ใช้ที่ดินทำกิน เนื่องจากบางคนต้องเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร แต่อาจถูกผู้เช่าผลักภาระการเสียภาษีให้แก่เกษตรกร จึงฝากกรรมาธิการพิจารณาอย่างครอบคลุมด้วย ขณะเดียวกัน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรประเมินและวิเคราะห์ผลกระทบของประชาชนก่อนกำหนดอัตราภาษีที่ชัดเจน เพื่อดูแลผลประโยชน์ของประชาชนที่ได้รับบ้านพักเพียงหลังเดียวเป็นมรดกแต่กลับอยู่ในพื้นที่ที่มีราคาแพง รวมถึงการมอบที่ดินให้กับโรงพยาบาล หรือสถานที่ที่สร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชน ซึ่งขอให้ระบุให้ชัดว่ากรณีเหล่านี้จะได้รับการยกเว้นภาษีหรือไม่ ส่วนกรณีที่มีที่ดินทำกินมากกว่า 500 ไร่ เห็นว่า ควรเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า เพื่อลดช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจน เพื่อกระจายการถือครองที่ดิน
โดยที่ประชุมมีมติ 190 ต่อ 1 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 2 เสียง เห็นชอบรับหลักการในวาระที่ 1 พร้อมจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายจำนวน 26 คน โดยกำหนดเวลาแปรญัตติภายใน 21 วัน และกำหนดเวลาการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการฯ ภายใน 60 วัน โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.กล่าวในที่ประชุมว่า การพิจารณาร่างกฎหมายนี้มีข้อสังเกตหลากหลายจึงตั้งกรรมาธิการจำนวนมาก และไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะมีการบังคับใช้ระหว่างการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้หรือไม่ ก็ขอให้คณะกรรมาธิการฯ ดำเนินการรับฟังความเห็นประชาชนด้วย