"ประยุทธ์" เล็งรวบคำสั่งม.44 เรื่องศึกษา พร้อมเร่งอำนวยความสะดวกทางธุรกิจลดความเข้าใจคลาดเคลื่อน วอน ขอให้เข้าใจไทยยังขาดแคลนครูวิชาเฉพาะ ระบุ มีขั้นตอนทดลองงานก่อนบรรจุจริง ชี้ต้องเตรียมคนให้พร้อมไม่งั้นต่างชาติแย่งงาน
วันนี้ (28 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ว่า ไม่ได้หารือถึงมาตรการใดเป็นพิเศษ เป็นการหารือในหลักการโดยเฉพาะเรื่องการศึกษาซึ่งที่ผ่านมาออกมาตรา 44 มาหลายฉบับจึงคิดว่าจะรวมเป็นฉบับเดียวกัน และยกเลิกฉบับเก่าที่มีหลายคำสั่งเกินไปอาจทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ เราจำเป็นต้องเร่งดำเนินการเพราะเราได้เสนอกฎหมายเข้าไปในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งใช้เวลานานพอสมควรจึงเกรงว่าจะออกมาช้าเกินไป รวมถึงต้องประเมินในเรื่องระยะเวลาด้วย การประเมินไม่ใช่ว่าจะไปออกกฎหมายหลอกเขา ยืนยันว่าที่ผ่านมาเราดำเนินการกฎหมายมาตลอด ทั้งเรื่องการอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ 10 ขั้นตอนตั้งแต่การจดทะเบียน การร้องขอเรื่องสาธารณูปโภค น้ำประปา โทรศัพท์ หรือขั้นตอนการรอเอกสารซึ่งเราลดขั้นตอนลงมาให้ใช้ระยะเวลาสั้นลง เพียงแต่ว่าเมื่อเขารอดูเรื่องกฎหมายเราจะมีให้เขาดูหรือไม่ เราก็ได้ชี้แจงไปว่ายังอยู่ในวาระพิจารณาในสภา แต่คำสั่งมาตรา 44 ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายที่เสนอไป แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ออกมาบังคับใช้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีการคัดค้านการสอบบรรจุครูผู้ช่วยจากหลายวิชาชีพ ว่า ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าเรามีการปรับปรุง การพัฒนา และปฏิรูประบบการศึกษา ซึ่งจะต้องเริ่มดูตั้งแต่ครู ว่ามีเพียงพอหรือไม่ มีคุณภาพหรือไม่ สาขาที่เป็นความต้องการของประเทศมีเพียงพอหรือไม่ ถ้าพูดถึงจำนวนคนที่จบครูออกมามีมากพอสมควร แต่บางวิชาสอนไม่ได้ เพราะไม่ได้จบด้านนั้นมา จึงต้องหาครูที่จบมาตรงกับวิชาเหล่านั้น ที่เราขาดอยู่ ในส่วนนั้นก็ดำเนินการไป แต่กระทรวงศึกษาธิการมีความเห็นเสนอมาว่าถ้าต้องการผลิตบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของประเทศ เช่นด้านเคมี วิทยาศาสตร์ ซึ่งคนที่จบด้านครูอาจไม่มีความชำนาญ ดังนั้นคนส่วนนี้ที่จะเข้ามาคงไม่มากมากอะไร ก็เฉพาะที่ขาดแคลนอยู่ อีกทั้งเมื่อเข้ามาแล้วก็ไม่ใช่ว่าบรรจุได้เลย ก็ต้องมีการทดลองงานก่อนประมาณ 2 ปี ระหว่างนี้ก็ต้องมีการประเมิน จึงต้องไปสอบให้ผ่านกฎเกณฑ์ถึงจะได้รับการบรรจุให้เป็นข้าราชการ ต้องเข้าใจนะว่ารัฐบาลจะไม่ทำอะไรให้ใครเสียหาย ไมว่าจะเป็นเรื่องครู เรื่องแพทย์ คือทุกคนต้องยอมรับว่าเรากำลังขาดแคลนบางสาขาวิชาอยู่ บางคนจบศิลปะไปสอนวิทยาศาสตร์มันก็ไม่ได้ เพราะมันเป็นวิชาการเฉพาะ ต้องเข้าใจกัน เราต้องเตรียมคนให้พร้อม ไม่เช่นนั้นก็จะถูกต่างชาติแย่งงานไปอีก ต้องคิดให้ไกล