xs
xsm
sm
md
lg

“อลงกรณ์” ชี้ ปฏิรูปแก้เหลื่อมล้ำ ศก.- สังคม คืบ จ่อพิจารณาโมเดล ศก.ใหม่ประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนปฎิรูปประเทศ  (แฟ้มภาพ)
รอง ปธ. สปท. แจง ปฏิรูปแก้ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม คืบหน้า หลัง สนช. และ ครม. เห็นชอบ 2 กฎหมายสำคัญ เผย สปท. เตรียมพิจารณาโมเดลเศรษฐกิจใหม่วางอนาคตให้ประเทศ หวังการเมืองช่วยทำให้คลื่นลมสงบ

วันนี้ (26 มี.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คนที่หนึ่ง ในฐานะคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูป และ คณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองของ ป.ย.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าการปฏิรูป ว่า การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างและเป็น 1 ใน 6 ของเป้าหมายการปฏิรูปประเทศครั้งนี้กำลังคืบหน้าอย่างมีนัยสำสำคัญ ภายใต้ ป.ย.ป. โมเดล ได้แก่ กรณีที่ สนช. เห็นชอบเป็นเอกฉันท์ร่างพ.ร.บ. แข่งขันทางการค้าฉบับใหม่ เพื่อสร้างระบบการค้าที่เสรีเป็นธรรมและป้องกันการผูกขาด ตัดตอนทางเศรษฐกิจ และกรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เป็นการปฏิรูประบบภาษีและการคลังภายใต้ 27 วาระเร่งด่วนของ ป.ย.ป. เพื่อกระจายการถือครองที่ดินและสร้างฐานรายได้ของการปกครองท้องถิ่นให้เข้มแข็ง เนื่องจากกลุ่มประชากรชั้นบนร้อยละ 30 ถือครองที่ดินเกินร้อยละ 90 ขณะที่ประชากรที่เหลือร้อยละ 70 มีที่ดินรวมกันเพียงร้อยละ 9 เท่านั้นโดยเฉพาะเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีกรณี สปท. ได้ผ่านการพิจารณา 3 วาระปฏิรูปเร่งด่วนในด้านการปฏิรูปเครื่องมือพัฒนาฐานรากเพื่อส่งต่อ ป.ย.ป. ขับเคลื่อนให้เสร็จภายในปีนี้ ได้แก่ ธนาคารที่ดิน สถาบันการเงินชุมชนและวิสาหกิจเพื่อสังคมพร้อม พ.ร.บ. 3 ฉบับ และในวันจันทร์ที่ 27 มี.ค. นี้ สปท. จะพิจารณาอีก 1 รายงานปฏิรูปพลังงาน และ 2 วาระเร่งด่วนด้านการปฏิรูปเศรษฐกิจอนาคต ได้แก่ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และวาระการปฏิรูปการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อวางรากฐานโมเดลเศรษฐกิจใหม่ให้กับประเทศสู่การยกระดับอัปเกรดเป็นประเทศรายได้สูง หลังจากติดกับประเทศรายได้ปานกลางมา 20 ปี

นายอลงกรณ์ ยังกล่าวต่อว่า การขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศเพื่อคนไทยทุกคนทั้งในวันนี้ และวันหน้าโดยต้องทำอย่างต่อเนื่องตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ดังนั้น จะต้องช่วยกันประคับประคองประเทศช่วยกันเสริมสร้างบรรยากาศของความร่วมมือและต้องแยกการเมืองและปัญหารายวันออกจากการเดินหน้าปฏิรูปประเทศและการสร้างความสามัคคีปรองดอง

“ยิ่งคลื่นลมสงบมากเท่าใด เรายิ่งนำรัฐนาวาไทยปฏิรูปไปได้เร็วขึ้นเท่านั้น จึงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของทุกคน โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองที่จะทำให้คลื่นลมสงบมากน้อยแค่ไหน ส่วน ป.ย.ป. มีหน้าที่ขับเคลื่อนปฏิรูปต่อไป ไม่ว่าจะมีคลื่นสูงลมแรงแค่ไหนก็ต้องนำประเทศเดินไปข้างหน้า จะไม่ยอมให้ประเทศถอยหลังหรือกลับไปสู่ปัญหาเก่าๆ” นายอลงกรณ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น