โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายกฯ ยินดี สภาการเดินทางและท่องเที่ยวโลก คาด ไทยจะเป็นตลาดส่งออกนักเดินทางรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ในปี 70 หวังทุกฝ่ายร่วมรักษามรดกธรรมชาติ ประเพณี วัฒนธรรม ยกระดับการบริการ สิ่งอำนวยความสะดวก ความซื่อสัตย์ ภาษา หวังเป็นปลายทางให้เร็วขึ้น กำชับคิดพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวท่องถิ่นให้เป็นทางเลือกใหม่ เชื่อมโยงสู่จังหวัดอื่น ปัดให้จัดโมโตจีพี เอื้อกลุ่มทุน อ้างมองเป็นประโยชน์ชาติ
วันนี้ (25 มี.ค.) พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รู้สึกยินดีที่สภาการเดินทางและท่องเที่ยวโลก (WTTC) คาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะเป็นตลาดส่งออกนักเดินทางรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก แทนประเทศสเปน ภายในปี 2570 ถัดจาก จีน และ อินเดีย แม้จะมีความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองเกิดขึ้นทั่วโลก
“ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวและเดินทางในประเทศไทยขยายตัวมากที่สุดในอาเซียนใกล้เคียงกับเวียดนาม คือ ร้อยละ 10.7 ตามด้วย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม ส่วนภาพรวมของการท่องเที่ยวและเดินทางโลกขยายตัวมากกว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจถึงร้อยละ 3.3 เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน สร้างรายได้ทั่วโลกราว 263.4 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.2 ของจีดีพีโลก” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอยากให้ภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ใช้โอกาสนี้ร่วมกันรักษามรดกด้านการท่องเที่ยว เช่น ทรัพยากรธรรมชาติ ประเพณีวัฒนธรรม อัธยาศัยไมตรี และการบริการที่ดี รวมทั้งยกระดับคุณภาพมาตรฐานของการให้บริการให้ดีขึ้นอีกเทียบเท่าระดับสากล ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก ที่พัก ห้องน้ำ โปรแกรมการท่องเที่ยว ความซื่อสัตย์ของผู้ให้บริการ การสื่อสารภาษาอังกฤษ ฯลฯ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับต้นๆ ของโลกเร็วขึ้น โดยไม่ต้องรอให้ถึง 10 ปี
“ท่านนายกฯ กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัด อำเภอ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ร่วมกันคิดและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่นเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ ให้แก่นักเดินทาง ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนไทยในแง่มุมที่แตกต่างกันและใช้เวลาท่องเที่ยวให้นานขึ้น ทั้งภาคเหนือ กลาง อีสาน ใต้ พร้อมทั้งสร้างกิจกรรมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากจังหวัดหนึ่งไปยังอีกจังหวัดหนึ่ง หรือชุมชนใกล้เคียง และเชื่อมต่อไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภูมิภาคอาเซียน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลเห็นชอบสนับสนุนงบประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก หรือ โมโตจีพี ระยะ 3 ปี ระหว่างปี 2561 - 2563 เป็นการเอื้อประโยชน์แก่คนบางกลุ่มนั้น ขอเรียนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คณะกรรมการด้านการท่องเที่ยวเป็นผู้เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยเป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชน ซึ่งรัฐบาลเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยรวม จึงให้ความเห็นชอบ โดยไม่ได้มองว่าเป็นของใคร หรือพวกใครทั้งสิ้น