อดีต ส.ส.ปชป.ยื่นหนังสือ “ประยุทธ์” สอบรอง ผบก.ภ.เลย แทรกแซงการสอบสวนกลั่นแกล้งลูกน้อง เหตุขู่ตั้ง กก.สอบหลังไม่สอบช่วยตำรวจด้วยกัน จี้เอาผิดวินัย คุ้มครอง ขรก. ปฏิรูปงานสอบสวน พร้อมขอให้ยกเลิกเก็บค่าจอดรถสนามบินสุราษฎร์ธานี ชี้กระทบสิทธิ เพิ่มภาระ ปชช.
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่ศูนย์บริการประชาชน (สำนักงานก.พ.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลยปฏิบัติหน้าที่มิชอบแทรกแซงการสอบสวนและข่มขู่พนักงานสอบสวนผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และขอให้เร่งปฏิรูประบบงานสอบสวน
โดยนายวัชระกล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจาก พ.ต.ท.สุพัฒน์ นันทะแสง รองผู้กำกับสอบสวน สภ.ภูกระดึง จังหวัดเลย ที่อ้างว่า ขณะทำหน้าที่พนักงานสอบสวนรับผิดชอบคดีนายศราวุฒิ ชนะศุภชัย ที่ถูกตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.ภูกระดึง ตรวจค้นจับกุมข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองฯ พร้อมของกลาง 33 เม็ดที่บ้านพัก เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 59 เวลา 16.00 น. โดย พ.ต.ท.สุพัฒน์ได้สอบสวนบันทึกปากคำนายศราวุธ ผู้ต้องหาให้การรับว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเพียง 3 เม็ด ส่วนอีก 30 เม็ดนั้นได้ถูกชุดจับกุมนำมาเพิ่มภายหลังทำให้ถูกแจ้งข้อหาเป็นการครอบครองเพื่อจำหน่าย และเงินสด 1 แสนบาทในบ้านก็หายไปด้วย ทั้งนี้ การสอบสวนและบันทึกปากคำนายศราวุธตามข้อเท็จจริงของการให้การดังกล่าว กลับถูก พ.ต.อ.ศรีพงษ์ เตียประพงษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดเลย ผู้ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบงานสอบสวน มีหนังสือลงวันที่ 14 มี.ค. 60 ถึงผู้กำกับสถานี สั่งให้ พ.ต.ท.สุพัฒน์ นำสำนวนการสอบสวนไปพบในวันที่ 16 มี.ค. 60 และพูดว่า “มึงไปสอบสวนช่วยผู้ต้องหามันทำไม ทำไมไม่สอบช่วยตำรวจด้วยกัน เดี๋ยวจะตั้งกรรมการสอบสวน” ตนจึงเห็นว่า การกระทำของ พ.ต.อ.ศรีพงษ์ เป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบแทรกแซงการสอบสวนที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการและกระบวนการยุติธรรม
นายวัชระกล่าวด้วยว่า จึงอยากให้มีการดำเนินการ ดังนี้ 1. สั่งให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีอาญาและวินัยต่อ พ.ต.อ.ศรีพงษ์โดยเร็ว เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อตำรวจคนอื่นให้เข้าไปแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน 2. คุ้มครอง พ.ต.อ.สุพัฒน์ มิให้ถูกผู้บังคับบัญชากลั่นแกล้งรังแกในการปฏิบัติราชการทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมและการตั้งกรรมการสอบสวนลงโทษทางวินัย 3. เร่งปฏิรูปรูประบบงานสอบสวน โดยมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ดำเนินการกำหนดให้มีระบบบันทึกภาพและเสียงในห้องสอบสวนเก็บรักษาเป็นหลักฐานไว้ให้อัยการและศาลตรวจสอบได้ อีกทั้งขอให้แยกงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรม
ขณะเดียวกัน นายวัชระยังยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ยกเลิกการเก็บค่าบริการที่จอดรถยนต์ภายในท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี โดยล่าวว่า การที่สนามบินสุราษฎร์ธานีเปิดโอกาสให้บริษัทเอกชนเข้ามาเก็บค่าบริการจอดรถยนต์ ตั้งแต่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ค่าบริการชั่วโมงละ 30-300 บาทต่อวัน โดยอ้างว่าไม่รับผิดชอบในความสูญหายต่อรถยนต์และทรัพย์ต่างๆ ทั้งนี้ ประชาชนในพื้นที่ไม่เห็นด้วย เพราะการกระทำดังกล่าวกระทบสิทธิและรอนสิทธิของประชาชนที่ใช้สนามบิน จึงขอเรียกร้องต่อนายกฯ 3 ประการ คือ 1. ให้เปิดเผยเอกสารสัญญาให้ประชาชนรับทราบภายในเวลา 15 วัน 2. ให้ยกเลิกสัญญาการเก็บค่าจอดรถภายในสนามบินสุราษฎร์ธานี และคืนเงินที่เก็บจากประชาชนไปแล้ว และ 3. ให้ยกเลิกนโยบายให้บริษัทเอกชนไปเก็บค่าจอดรถในสนามบินต่างๆ เพราะถือเป็นสิทธิของประชาชนที่จะใช้พื้นที่ ทั้งยังเป็นการเพิ่มภาระอีกด้วย