ข่าวปนคน คนปนข่าว
อึกทึกครึกโครมแทรกฉากปรองดองที่ "รัฐบาลทหาร" กำลังปั้นอยู่ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร เปิดปฏิบัติการรับอรุณวันหยุดสุดสัปดาห์ ปูพรมค้นพื้นที่เป้าหมาย 9 จุด ที่เชื่อมโยง“โกตี๋”วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ หรือเสื้อแดงปทุมฯคนดัง ซึ่งชิ่งไปจัดรายการวิทยุอยู่ในประเทศลาว ในนาม“สหายหมาน้อย”ตั้งแต่รัฐประหารใหม่ๆ แล้ว ปรากฏว่า ไม่คว้าน้ำเหลวเหมือนตอนบุกวัดพระธรรมกาย แต่เจออาวุธสงครามจำนวนมากแทบทุกจุด บางจุดกลางเมืองปทุมฯนี่ “คลังแสง” ย่อมๆ ยังไม่รวมตู้คอนเทนเนอร์เป็นพันๆตู้ แถวบางพลี จ.สมุทรปราการ ที่กำลังตรวจค้นไม่เสร็จดี ตามสคริปต์.. เอ้ย..ตามข่าวบอกว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้พร้อมอาวุธสงคราม สารภาพสิ้นไส้ว่า อาวุธทั้งหมดที่ยึดได้ เป็นของ“โกตี๋”ที่ฝากไว้ตั้งแต่เสร็จภารกิจชุมนุมแยกราชประสงค์ เมื่อปี 2553 รวมทั้งเมื่อปี 2557 ด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สรุปว่า“คลังแสงโกตี๋”เชื่อมโยงกับทั้งการเตรียมการสร้างสถานการณ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจค้นวัดพระธรรมกาย และ แผนปองร้ายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ด้วย ... น่ากลัวจริงๆ แต่คำถามมีว่า ต้องใจเหี้ยมหาญแค่ไหน ถึงซุกของพรรค์นี้ไว้ในบ้านตั้งนานหลายปี ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่อยู่เสียด้วย
+++++++++++++++
เห็นว่าเป็นนโยบาย ข้อสั่งการของ“นายกฯลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่อยากให้เด็กไทยพัฒนาด้านการคิดคำนวณ “หมอธี”นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เลย“จัดให้” เตรียมจับเครื่องบินไปแดนภารตะ ประเทศอินเดีย บุกไปถึงเมืองเชนไน ที่เห็นว่าเป็น“เมกกะแห่งเวทคณิต”เพื่อนำหลักสูตรกลับมาบรรจุสอนเด็กไทยอย่างเต็มรูปแบบ หากใครติดตามข่าวแวดวงการศึกษา คงเคยได้ยินเรื่อง“เวทคณิต”มาสักระยะ ที่ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ได้นำร่องจัดการเรียนการสอน “เวทคณิต”ไปบ้างแล้ว แล้วก็เคยนำเด็กนักเรียนมาคิดเลขโชว์ จนนายกฯชมเปาะไม่ขาดปาก
เห็นว่า“เวทคณิต”ที่ตอนนี้มีการเผยแพร่“สูตร”ผ่านเว็บไซต์ สพฐ. พร้อมระบุว่าเป็น“เทคนิคการคิดเลขเร็วแบบอินเดีย”ก็คิดเลขเร็วไม่ต่างจาก“จินตคณิต” ของประเทศญี่ปุ่น ที่โด่งดังมาก่อน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีข้อถกเถียงว่า การคำนวณทั้ง 2 ศาสตร์นี้ ไม่ตรงหลักวิชาการเท่าไร แต่อาศัย“ท่องจำ”มากกว่า หาใช่การใช้หลักคณิตศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับกัน จนถูกขนานนามจากนักคณิตศาสตร์ว่าเป็นเพียง“การเล่นกลทางคณิตศาสตร์” ที่ทำให้คิดเลขในใจได้รวดเร็วจนน่าทึ่งเท่านั้น หากหลงไหลได้ปลื้มในความเร็ว ก็อาจจะทำให้อ่อนด้อย“หลักทฤษฎี” โดยเฉพาะหลักคณิตศาสตร์ ที่ไม่ได้มีแค่บวก-ลบ-คูณ-หาร แต่ยังมีเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเลข ตรรกะ หรือความมีเหตุมีผล ยิ่งเป็นห่วงไปใหญ่ เมื่อค้นไปค้นมาพบว่า ผู้คิดค้น“เวทคณิต”นามว่า Swami Bharati Krishna Tirthaji โยคีฮินดูชาวอินเดียคนดัง จะกลายเป็นว่าเอาการศึกษาไทยที่อ่อนด้อยอยู่แล้วไปแขวนไว้กับ“ความเชื่อฤษีชีไพร”อีก ถือเป็นอันตราย ที่จะซ้ำเติมความเสียหายให้แก่ระบบการศึกษาไทยเป็นอย่างยิ่ง
+++++++++++++++++
น่าติดตามทีเดียวสำหรับ นิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) ที่อนาคตต้องดับลง หลังถูกปลดออกจากตำแหน่งเซ่นความเสียหาย 2 หมื่นล้านบาท ของโครงการพัฒนาธุรกิจน้ำมันปาล์มที่ประเทศอินโดนีเซีย ที่“นิพิฐ”เคยไปดูแลอยู่ พร้อมเรื่องร้องเรียนที่คาอยู่ในป.ป.ช. และโดนยื่นฟ้องแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหาย วันก่อนเห็นข่าว“นิพิฐ”เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลใหม่ป้ายแดง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อเอาผิด“บิ๊ก ปตท.”หลายราย ฐานทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ-ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งศาลก็ประทับรับฟ้อง นัดหมายไต่สวนไปแล้ว ตรงนี้อาจจะเป็นการยื่นฟ้องเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง
แต่ที่ต้องจับตาก็ตัว“นิพิฐ”เคยประกาศไว้ สมัยถูกปลดใหม่ๆว่า จะลาก“ใครบางคน”มารับผิดชอบ “มหากาพย์ปาล์มอินโดฯ”ด้วย ซึ่งก็สอดรับกับกระแสสังคมที่เชื่อว่า โครงการนี้มีการทุจริตเกิดขึ้นจริง แต่ก็ไม่เชื่อว่า ผลประโยชน์มหาศาล 2 หมื่นล้านบาท จะเกิดจากการตัดสินใจของ“นิพิฐ”คนเดียว โครงการไม่ใช่ทำกันสัวสองวัน แต่ลากยาวถึง 8 ปี ก่อนจะมีการยกเลิกไปเฉยๆ ถ้าวันนั้น “นิพิฐ”ในฐานะผู้ดูแลโครงการทำอะไรผิดเพื้ยน ส่อให้เกิดความเสียหาย ก็น่าจะมีเสียงทักเสียงท้วงจากบรรดาบิ๊กๆ บ้าง แต่นี่ไม่ ปล่อยไว้จนเจ๊งสนั่นลั่นทุ่ง ค่อยมาไล่เบี้ยเอาเรื่องกับคนดูแลเพียงคนเดียว ... งานนี้บอกเลยว่า“มันพะย่ะค่ะ”ที่โผล่ๆ มามันแค่ “ยอดภูเขาน้ำแข็ง”ถ้าจังหวะดีๆลาก “ไอ้โม่ง”ที่ตอนนั้นเป็นถึง “รัฐมนตรีสั่งการ”ขาใหญ่ประจำกระทรวงพลังงานมาเข้าเกมได้ละก็ สนุกแน่ !!.
ช.ชฎา