“อุเทน” ฝาก “บิ๊กช้าง” นำความเห็นปรองดองไปต่อยอด ไม่เชื่อแนวทางนิรโทษฯ

หัวหน้าพรรคคนไทยฝาก “บิ๊กช้าง” คัดคอมเมนต์สร้างสรรค์ไปต่อยอดงานปรองดอง ไม่เชื่อนิรโทษฯ สร้างปรองดองได้ ชี้ต้องบังคับใช้ กม.ให้ศักดิ์สิทธิ์มากกว่า ชู “reset กฎหมาย” เป็นจุดเริ่มต้นปฏิรูปประเทศ ฝาก “นายกฯ ตู่” ใช้ กม.จริงจังด้วยเมตตาธรรม

วันนี้ (19 มี.ค.) นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงกระบวนการเชิญตัวแทนพรรคการเมือง และกลุ่มการเมืองเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อสร้างความปรองดอง โดยคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีในคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปว่า เท่าที่ได้ติดตามข่าวเห็นว่าภาพรวมของความคิดเห็นที่แต่ละพรรคและกลุ่มการเมืองเสนอไปนั้นค่อนข้างมีความหลากหลาย จึงขอฝาก พล.อ.ชาญชัย ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นฯ ซึ่งมีหน้าที่รวบรวมและสรุปข้อมูลที่ได้รับส่งต่อให้คณะกรรมการชุดใหญ่ โปรดพิจารณาชั่งน้ำหนักความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เพื่อนำไปต่อยอด ในการสร้างความสุขให้แก่ประชาชน สร้างความสงบสุขให้บ้านเมือง ตลอดจนเข้ากับแนวทางยุทธศาสตร์ชาติ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อไปได้

“ตัวผมเองก็ได้เคยเสนอแง่คิดมุมมองไว้หลายกรรมหลายวาระ ที่ตรงไปตรงมา และคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ก็เชื่อว่าจะได้รับการผนวกรวมกับข้อเสนอที่สร้างสรรค์ของฝ่ายต่างๆ” นายอุเทนระบุ

นายอุเทนกล่าวต่อว่า ยืนยันว่าส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับแนวทางนิรโทษกรรม ยกโทษหรือลดโทษให้ผู้กระทำผิดจะเป็นวิธีการสร้างความปรองดองได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะคดีความที่ยังไม่เข้ากระบวนการยุติธรรม หรือยังไม่สิ้นสุดการไต่สวน เนื่องจากเห็นว่า การสร้างความปรองดองนั้นต้องเริ่มจากการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามครรลอง ตรงไปตรงมา ใครมีความผิดก็ต้องรับการลงโทษ ซึ่งก็ตรงกับผลสำรวจของกรุงเทพโพลที่บอกว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 47.3 ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการสร้างความปรองดอง โดยการลดหย่อนโทษในคดีทางการเมือง เพราะเกรงว่าจะเป็นบรรทัดฐานในอนาคต ตนเห็นว่าในส่วนของคดีที่อยู่ในกระบวนการก็ต้องให้เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา 193 ของรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ระบุว่า “การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีเป็นอำนาจของศาลซึ่งต้องดำเนินการให้เป็นไปโดยยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมาย และในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์” ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมเองก็ต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพื่อคงความศรัทธาในกระบวนการ รวมทั้งไม่ทำให้เกิดข้อตะขิดตะขวงใจหรือคลางแคลงใจขึ้นอีกในสังคม อย่างที่ผ่านมามักมีการพูดถึงเรื่องสองมาตรฐาน หรือกฎหมายต่อรองลดหย่อนได้ ดังนั้นจึงขอเสนอกรอบแนวคิดของพรรคคนไทยเรื่อง “Reset กฎหมาย” ที่ต้องทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ต่อรองไม่ได้ เป็นหนึ่งในวาระแห่งชาติในยามที่เราต้องการปฏิรูปประเทศ

“แม้ผมจะคิดว่าการสร้างความปรองดองเกิดขึ้นยาก แต่ก็อยากฝากไปถึงนายกฯ ประยุทธ์ ในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังด้วยเมตตาธรรม สิ่งต่างๆ ที่หวังไว้จะตามมาเอง” นายอุเทนกล่าว