“บุญยอด” ยกคำพิพากษาศาลอาญา “โอ๊ค” ยันครอบครัวทักษิณต้นปมขัดแย้ง

อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อประชาธิปัตย์ สับ “พานทองแท้” บิดเบือนคำพิพากษาศาลฎีกาคดียึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้าน ยันศาลอาญาฟันชัดปล่อยซื้อหุ้นชินคอร์ปไม่ต้องเสียภาษีทำรัฐเสียหาย ชี้ปมขัดแย้งเหตุแก๊ง “ทักษิณ” ไม่เคารพกฎหมาย สร้างความแตกแยก ใช้เป็นเครื่องมือบีบผู้มีอำนาจไม่ให้ดำเนินคดี

วันนี้ (17 มี.ค.) นายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตอบโต้รัฐบาลที่ให้กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปกว่า 1.6 หมื่นล้านบาทไม่สามารถทำได้เพราะเรื่องจบไปตั้งแต่ 8 ปีที่แล้วว่า เนื้อหามีการบิดเบือนคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มีการยึดทรัพย์ นายทักษิณ 4.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากร่ำรวยผิดปกติ โดยนายพานทองแท้อ้างว่ากรณีศาลฎีกาฯได้ยึดเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทไปแสดงให้เห็นว่า ในแนวทางการวินิจฉัยนั้น สรุปว่ามิได้มีการซื้อขาย ที่เป็นมูลเหตุให้ต้องเสียภาษีเลย ทรัพย์สินก็ถูกยึดไป ตามจำนวนที่ศาลได้พิจารณาว่าเหมาะสมในการเอาผิดแล้ว ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงการที่นายทักษิณขายหุ้นให้นายพานทองแท้ ตามที่กล่าวอ้างในปี 2542 นั้น เป็นการขายบริษัท แอมเพิลริช ให้แก่นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ซึ่งเป็นคนละประเด็นกับการเรียกเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปจากรายได้ที่นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ได้จากการซื้อหุ้นในราคา 1 บาทนอกตลาดหลักทรัพย์จากบริษัท แอมเพิลริช เพื่อนำไปขายให้กับกลุ่มทุนเทมาเส็คในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นการทำนิติกรรมอำพรางเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี

“ในคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับการทำนิติกรรมอำพรางเพื่อหลีกเลียงภาษีระหว่างนายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา กับบริษัท แอมเพิลริช แต่มีคำพิพากษาจากศาลอาญาเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2559 ที่นายพานทองแท้ ไม่ยอมพูดถึง โดยในคำพิพากษาดังกล่าวตัดสินชัดเจนว่า ธุรกรรมจากการที่นายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทาซื้อหุ้นราคา 1 บาทจากแอมเพิลริชไปขายเทมาเส็ก ราคา 49.25 บาท ในตลาดหลักทรัพย์จำนวนกว่า 329 ล้านหุ้นนั้น เป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร และพิพากษาจำคุกนางเบญจา หลุยเจริญ กับข้าราชการกรมสรรพากรอีก 3 คน เป็นเวลา 3 ปี ไม่รอลงอาญาฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ จากการวินิจฉัยว่าการซื้อหุ้นชินคอร์ป 1 บาทจากแอมเพิลริชของนายพานทองแท้ กับ น.ส.พินทองทา ไม่ต้องเสียภาษีทำให้รัฐเกิดความเสียหาย” นายบุญยอดกล่าว

นายบุญยอดกล่าวด้วยว่า หากคนในครอบครัวของนายทักษิณ ไม่ได้ทำผิดคงไม่มีใครไปเอาผิดได้ และที่นายพานทองแท้ ถามว่ารัฐบาลต้องการอะไรจากครอบครัวนายพานทองแท้อีกนั้น ตนขอตอบแทนในฐานคนไทยว่า สิ่งที่ต้องการคือนำเงินที่ถูกปล้นไปกลับมาเป็นของแผ่นดิน อีกทั้งเห็นว่าการที่นายพานทองแท้ นำเอาการกระทำผิดกฎหมายของคนในครอบครัวตัวเองมาเป็นเครื่องต่อรองกับการปรองดอง เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและยิ่งตอกย้ำถึงสาเหตุที่ทำให้ความขัดแย้งยังดำรงอยู่ว่าเกิดจากครอบครัวของนายพานทองแท้ ไม่เคารพกฎหมาย บิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความแตกแยกและใช้เป็นเครื่องมือเพื่อบีบผู้มีอำนาจไม่ให้ดำเนินคดีต่อตัวเอง