xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.แถลงเปิดสำนวนฉะ "ปึ้ง" ลุ่อำนาจ เจ้าตัวโวยถูกยัดความผิดเพราะมีนายชื่อ "แม้ว"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุภา” แถลงเปิดสำนวนเชือด ”สุรพงษ์” แฉใช้อำนาจตามอำเภอใจบีบบัวแก้วคืนพาสปอร์ต “ทักษิณ” ภายใน 1 วัน ผิดม.157 เปิดทางนายใหญ่เผ่นออกไทย ด้านเจ้าตัวดราม่าขอใช้เก้าอี้พิเศษอ้างกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ยืนร่ายยาวแก้ตัวกว่า 4 ชม.ลั่นไม่ผิด ขอความเห็นใจเพราะรู้ชะตากรรม แขวะสนช.มีใบสั่งให้ผิดเพราะมีเจ้านายชื่อ "ทักษิณ" โยนกลองเป็นหน้าที่ปลัดคืนพาสปอร์ต

วันนี้ (16มี.ค.) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณากระบวนการถอดถอนนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ กรณีออกหนังสือเดินทางธรรมดาให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมิชอบ ตามที่คณะ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ส่งเรื่องให้สนช.ดำเนินการ

ตัวแทนฝ่ายป.ป.ช. โดยน.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช. ได้แถลงเปิดสำนวน โดยกล่าวถึงที่มาจากการที่นายทักษิณถูกฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีที่ดินรัชดา และถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ต่อมานายทักษิณขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศชั่วคราวระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-10 ส.ค.2551 แต่นายทักษิณไม่เดินทางกลับเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ทำให้นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ขณะนั้นเพิกถอนหนังสือเดินทางนายทักษิณ 2 ฉบับคือ หนังสือเดินทางการทูตในวันที่ 12ธ.ค.2551 และหนังสือเดินทางธรรมดาในวันที่ 12 เม.ย.2551

น.ส.สุภากล่าวว่า ต่อมาสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีนายสุรพงษ์ดำรงตำแหน่งเป็นรมว.ต่างประเทศ นายทักษิณได้ยื่นคำร้องขอหนังสือเดินทางธรรมดาต่อสถานทูตไทยที่เมืองดูไบ เมื่อวันที่ 25ต.ค.2554 ซึ่งในวันเดียวกันสถานทูตไทยเมืองดูไบ ได้เสนอเรื่องมายังกระทรวงต่างประเทศ และนายสุรพงษ์ได้สั่งท้ายหนังสือถึงกรมการกงสุลว่า นโยบายรัฐบาลปัจจุบันเห็นว่า การคงอยู่ต่างประเทศต่อไปของนายทักษิณไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทย ขอให้ยกเลิกคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางของนายทักษิณในสมัยรัฐบาลที่แล้ว และให้ออกหนังสือเดินทางธรรมดาคืนแก่นายทักษิณ ในที่สุดกรมการกงสุลจึงคืนหนังสือเดินทางให้นายทักษิณ เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2554 โดยใช้เวลาดำเนินการวันเดียวจบ

“ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง ที่ไม่ตรวจสอบความถูกต้องและสถานะผู้ร้องขอหนังสือเดินทาง เพราะนายทักษิณถูกออกหมายจับหลายคดีอาทิ คดีที่ดินรัชดา คดีหวยบนดิน คดีเอ็กซิมแบงก์ คดีแปลงสัญญาณสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต คดีก่อการร้าย และจากการตรวจสอบนโยบายรัฐบาลสมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่พบว่า ในคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภามีเรื่องการคืนหนังสือเดินทางแก่นายทักษิณอยู่ในนโยบายรัฐบาล และไม่มีหน่วยงานใดแจ้งต่อรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า การที่นายทักษิณอยู่ต่างประเทศจะไม่เป็นอันตรายต่อประเทศไทย ขณะเดียวกันนายทักษิณมีชื่ออยู่ในบัญชีบุคคลที่ต้องตรวจสอบการออกหนังสือเดินทาง ซึ่งเป็นหน้าที่กระทรวงต่างประเทศต้องตรวจสอบให้เรียบร้อยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่นายสุรพงษ์ กลับออกหนังสือเดินทางให้ภายในวันเดียว จึงขัดต่อระเบียบตามระเบียบข้อบังคับของกระทรวงต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง ถือเป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจ และปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ทำให้เกิดความเสียหายต่อกระทรวงต่างประเทศและกระบวนการยุติธรรมไทย เป็นการช่วยให้นายทักษิณไม่ยอมเดินทางกลับมาเมืองไทยเพื่อฟังคำพิพากษาคดีต่างๆ” น.ส.สุภาระบุ

ต่อมาเวลานายสุรพงษ์ ได้แถลงเปิดสำนวนว่า โดยชี้แจงใน 5 ประเด็นอาทิ คำร้องของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่เข้าชื่อส.ส.139 คนถอดถอนตน ถือว่าไม่ครบถ้วนตามกฎหมาย เพราะไม่มีการลงลายมือชื่อแนบสำเนาบัตรประชาชนของผู้เข้าชื่อ เอกสารจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งนายภักดีโพธิศิริ อดีตกรรมการป.ป.ช. ถือว่าขาดคุณสมบัติเป็นกรรมการป.ป.ช. เนื่องจากไม่ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการในองค์การเภสัชกรรมเมอริเออร์ชีววัตถุ จำกัด ภายในเวลาที่กำหนด จึงถือว่าไม่มีคุณสมบัติเป็นกรรมการป.ป.ช.ตั้งแต่ต้น

ส่วนที่ป.ป.ช.ระบุว่า ตนใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบคืนหนังสือเดินทางให้นายทักษิณ ขอชี้แจงว่า ตามระเบียบกระทรวงต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 48 ระบุว่า ปลัดกระทรวงต่างประเทศเป็นผู้มีหน้าที่โดยตรงในการออกหนังสือเดินทาง มิได้เป็นอำนาจของรมว.ต่างประเทศดำเนินการ แม้รมว.ต่างประเทศจะให้นโยบายเช่นใด แต่ถือเพียงเป็นข้อพิจารณาเพื่อประกอบการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ในการออกหนังสือเดินทางให้ผู้ร้องเท่านั้น

ทั้งนี้บันทึกความเห็นที่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในการออกหนังสือเดินทางอาทิ ปลัดกระทรวงต่างประเทศ อธิบดีกรมการกงสุล อธิบดีกรมสนธิสัญญา ที่ได้พิจารณาคำร้องขอหนังสือเดินทางของนายทักษิณ ส่งมาให้ตนระบุว่า เหตุผลที่นายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.ต่างประเทศ ยกเลิกหนังสือเดินทางของนายทักษิณใช้อำนาจตามข้อ 23(7)ระเบียบกระทรวงต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง ระบุว่า หากผู้ถือหนังสือเดินทางอยู่ในต่างประเทศอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทย ซึ่งเหตุผลดังกล่าวไม่ใช่ข้อวินิจฉัยทางกฎหมาย แต่เป็นข้อวินิจฉัยด้านข้อเท็จจริงและการตัดสินใจด้านนโยบายที่อาจเห็นแตกต่างกันได้ หากผู้วินิจฉัยมีความเห็นเป็นอย่างอื่น ตนจึงแสดงความเห็นโดยบริสุทธิ์ใจว่า การอยู่ต่างประเทศของนายทักษิณไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทย ให้คืนหนังสือเดินทางแก่นายทักษิณ

“ผมไม่ขอความเห็นใจจากทุกคน เพราะทราบว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ที่มาชี้แจงเพื่อให้จบตามพิธีกรรมของสนช. แต่ยืนยันว่า ตลอดชีวิตการทำงานยึดมั่นกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ ไม่เคยก้าวก่ายแทรกแซง สั่งการข้าราชการทำสิ่งผิด และการบรรจุวาระถอดถอนผมใช้เวลา 1 เดือน เป็นการเร่งรีบจัดการ จะปฏิเสธว่าไม่มีใบสั่งคงไม่ได้ ทุกคนรู้แก่ใจกันดี อย่ายัดเยียดความผิดให้กับผมเพราะอยู่พรรคเพื่อไทย หรือมีเจ้านายชื่อทักษิณ ทำให้ลืมตัวบทกฎหมาย หวังจำกัดผมอย่างไม่เป็นธรรม”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการ นายสุรพงษ์ได้ขออนุญาตนำเก้าอี้ส่วนตัวมานั่งในห้องประชุม โดยอ้างว่ามีอาการกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงต้องใช้เก้าอี้พิเศษช่วยเป็นการเฉพาะ ซึ่งก็ได้รับการอนุญาตจากนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุม แต่ปรากฎว่านายสุรพงษ์ได้ยืนแถลงเปิดคดียาวนานถึง 4 ชั่วโมงเต็มก็ไม่ได้นั่งเก้าอี้ดังกล่าว

ทั้งนี้หลังจากทั้งสองฝ่ายแถลงเปิดสำนวนเสร็จสิ้น ที่ประชุมสนช.ได้ตั้งคณะกรรมาธิการซักถาม จำนวน 7 คน ทำหน้าที่ซักถามคู่กรณีทั้งสองฝ่ายให้มาตอบข้อสงสัยจากสมาชิกสนช.ในวันที่ 23 มี.ค.ต่อไป












กำลังโหลดความคิดเห็น