เลขาฯ คณะพูดคุยสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เผยจ่อตั้ง 5 จุดเซฟตี้โซน กำลังดูอยู่พื้นที่ไหนเหมาะสมสุด ก่อนชงที่ประชุมเห็นชอบ ใช้เวลา 6 เดือนทำ พร้อมผุดคณะบริหารพื้นที่ปลอดภัยกำหนดโซน หวังดูลดความรุนแรงลงหรือไม่ เมื่อมีเหตุต้องพิสูจน์ให้ได้ฝีมือใครทำ ถ้าไม่ได้ก็เลิก
วันนี้ (16 มี.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 14.00 น.พล.ต.สิทธิ ตระกูลวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการที่ 5 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักร (ศปป.5 กอ.รมน.)ในฐานะเลขานุการคณะพูดคุยสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วย นายฉัตรชัย บางชวด ผู้อำนวยการ ยุทธศาสตร์ความมั่นคงภายในประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายธนชาต บุนนาค ที่ปรึกษาทนายพูดคุย นายธวัชชัย ฤทธากรณ์ รอง ผขช. ด้านการข่าวกรองและต่อต้านข่าวกรองต่างประเทศ นอ.จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผอ.สนผ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ร่วมกันแถลง
โดย พล.ต.สิทธิ กล่าวว่า การกำหนดพื้นที่เซฟตี้โซน หรือ พื้นที่ปลอดภัย ใช้ตัววัดคือ 1.เป็นพื้นที่มีเหตุการถี่ 2.เป็นพื้นที่ที่ผู้เห็นต่างควบคุมกลุ่มปฏิบัติการในพื้นที่ได้ โดยขณะนี้ตั้งไว้ 5 พื้นที่ และจะจัดตั้งชุดประเมินในพื้นที่ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้คนต่าง คนในพื้นที่ เพื่อลงประเมินว่าพื้นที่ไหนเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นพื้นที่ปลอดภัย และเสนอคณะพูดคุยเพื่อให้เห็นชอบ สำหรับกรอบเวลาในการเลือกพื้นที่นั้นได้กำหนดเอาไว้ 1 เดือน เพื่อสร้างความมั่นใจ เพราะเป็นก้าวแรกในการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐผู้เห็นต่างและประชาชนในพื้นที่
พล.ต.สิทธิ กล่าวว่า จากนั้นก็จะนำไปสู่การปฏิบัติ ใช้เวลา 6 เดือนแบ่งเป็น 2 เฟส โดนเฟสแรกเป็นการเตรียมพื้นที่ 3 เดือนและในเฟสที่ 2 จะมีการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัยอีกสามเดือนรวมทั้งการประเมินผลและการทำรูปแบบ จากนั้นคณะกรรมการร่วม จะเปลี่ยนเป็นคณะบริหารพื้นที่ปลอดภัย พร้อมทั้งกำหนด ว่าพื้นที่นั้นจะปลอดภัยอย่างไร และมีการพัฒนาแบบไหนทั้งหมดนี้เป็นการดำเนินการในระยะสั้น ส่วนระยะยาวก็ว่ากันไป
“การกำหนดพื้นที่ปลอดภัย เป็นการทดสอบความไว้วางใจ ซึ่งกันและกัน ในส่วนของเรา จะทดสอบว่า เขาสามารถ ควบคุมกำลังในพื้นที่ ลดเหตุความรุนแรงได้จริงหรือไม่ ในขณะที่ผู้เห็นต่าง ก็ทดสอบว่าเรามีความจริงใจแค่ไหน ทั้งนี้พื้นที่ปลอดภัย จะไม่ปลอดภัย 100 % เนื่องจากยังมีปัจจัย เรื่องภัยแทรกซ้อน เป็นเรื่องที่ทั้งฝ่ายเรา และฝ่ายผู้เห็นต่าง ยังมีความแครงใจ จึงกำหนดร่วมกัน ว่าสามารถเกิดเหตุได้ 3 ครั้ง และต้องพิสูจน์ ว่าใครเป็นผู้กระทำ หากไม่สามารถพิสูจน์ไม่ได้ก็ให้ยกเลิกไปเลย ทั้งนี้ผมไม่สามารถที่เผย อำเภอที่เป็นเป้าหมายที่ตั้งเป็นพื้นที่ปลอดภัย เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอให้รอชุดประเมิน ได้ลงไปสำรวจ พื้นที่”พล.ต.สิทธิ กล่าว
ด้านนายพรชาต กล่าวว่า การพูดคุย 2 ปี ที่ผ่านมา ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี แสดงให้เห็นว่ารัฐบาล ยึดถือแนวทาง สันติในการแก้ปัญหาและการพูดคุยยังเปิดช่องทาง ให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วม รวมถึงการกำหนดพื้นที่ปลอดภัย ตลอดจนถึงการที่ให้ผู้ที่ก่อความรุนแรง ได้เข้ามามีส่วนร่วม ในการกำหนดพื้นที่ที่จะทำให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย เพื่อก้าวไปสู่สันติสุข ตนก็ยังไม่ทราบว่าต้องใช้เวลานานเท่าไร แต่ถือเป็นย่างก้าวที่สำคัญ ที่จะทำให้ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ปลอดภัย
ขณะที่นายธวัชชัย กล่าวเสริมว่า การพูดคุยไม่ได้เป็นปัจจัยในการก่อเหตุรายวันในพื้นที่ 3 จชต. หน่วยงานในพื้นที่ ต้องควบคุมเหตุการณ์ในพื้นที่อย่างเข้มงวดเพื่อสร้างความปลอดภัยในพื้นที่ โดยเฉพาะการปิดช่องโหว่ เพื่อลดการก่อเหตุของผู้เห็นต่าง และหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น จะต้องจับผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้
น.อ.จักรพงษ์ กล่าวว่า การก่อเหตุของกลุ่มผู้เห็นต่าง จะไม่เจาะจง ว่าจะก่อเหตุเวลาใดช่วงใด แต่จะดำเนินการเมื่อมีโอกาส นอกจากนี้เหตุการณ์ในพื้นที่ ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับเหตุการณ์ไม่สงบเสมอไป อาทิ การลอบยิงนายกอบต. การยิงผช.ผู้ใหญ่บ้าน จากการตรวจสอบเป็นเรื่องความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น