ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โยนกรมสอบสวนคดีพิเศษตอบปมธรรมกาย มวยล้มต้มคนดูหรือไม่ คาด จ่อสรุปชงนายกฯ ยันทหารยังอยู่แถววัด แนะซักตรวจละเอียดหรือไม่ เผย ให้สำนักพุทธฯ มหาเถระ ถกคุมพระให้อยู่ในธรรมวินัย ด้าน “วินธัย” รับอาจปรับกำลังลง
วันนี้ (11 มี.ค.) พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมงานโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยุติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย พลังไม่พบตัว พระธัมมชโย กระทั่งถูกสังคมวิจารณ์อย่างหนักว่า เป็นมวยล้มต้มคนดู ว่า โดยหลักการแล้ว ดีเอสไอต้องสรุปรายงานผลการปฏิบัติเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ตามรายละเอียดคำสั่งที่ 5/2560 โดยต้องสรุปรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรหรือด้วยวาจาว่า ปฏิบัติการตลอด 23 วันที่ผ่านมา ผลดำเนินการเป็นอย่างไร และจะดำเนินการอย่างไรต่อไป รวมทั้งจำเป็นต้องยกเลิกคำสั่งตามมาตรา 44 หรือไม่ หรือปรับลดกำลังลง อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นกำลังทหารทั้ง 15 กองร้อย จำนวน 1,350 นาย จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามปกติ
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นมวยล้มต้มคนดูนั้น ทีมงานโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวต้องให้ดีเอสไอเป็นผู้ตอบ เพราะเป็นผู้ปฏิบัติและบูรณาการกำลังตามคำสั่ง รวมถึงวางแผนในการตรวจค้นติดตามจับกุม เนื่องจากพื้นที่ภายในวัดอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนทหารอยู่ในพื้นที่รอบนอก ทหารไม่เห็นอะไร ถ้าถามว่า มีการตรวจค้นครบทุกพื้นที่ มีความละเอียด รอบคอบ สมบูรณ์ตามที่ได้วางแผนหรือไม่ กรมสอบสวนคดีพิเศษต้องเป็นผู้ตอบ
ทีมงานโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการวัดพระธรรมกายต่อจากนี้ไป หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และมหาเถรสมาคม ทั้งสองหน่วยงานจะมีการประชุมและพิจารณาว่า หลังจากนี้ การดูแลทั้งผู้ปฏิบัติธรรมและพระที่ต้องอยู่ในวินัยของสงฆ์ กฎหมายของสงฆ์ หลักธรรมคำสั่งสอนที่ควรจะเป็นแนวทางที่เหมาะสมถูกต้อง ตามหลักพระพุทธศาสนาจะดำเนินการอย่างไร มีใครเข้ามาดูแลและสานต่องานเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้มีความเจริญก้าวหน้า ถูกต้องตรงตามหลักคำสอน
ขณะที่ พ.อ.วินธัน สุวารี โฆษก คสช. กล่าวว่า จะต้องมีการปรับลดกำลังทหาร เพื่อลดระดับออกจากพื้นที่รอบๆ วัดพระธรรมกาย แต่จะเป็นจำนวนเท่าไหร่ กี่กองร้อย ยังไม่ได้ระบุถึงตัวเลข ขึ้นอยู่กับดีเอสไอต้องประเมินสถานการณ์ว่า มีความจำเป็นต้องใช้กำลังทหารเท่าไหร่ เพื่อให้เหมาะสมกับปริมาณงาน