ข่าวปนคน คนปนข่าว
นับวัดอาณาบริเวณ"ลัทธิจานบิน" ชักจะเหมือนค่ายกลไปทุกขณะ หลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ตรวจพบร่องน้ำ และถังน้ำมัน 200 ลิตร คล้าย"หลุมเพลาะ-บังเกอร์" ใกล้โซนอาคารบุญรักษา แถมมีการขึงสแลนพรางตา พร้อมทั้งพระ-มวลชนบางส่วนก็สวมใส่หน้ากากอนามัย เดินป้วนเปี้ยนไปมาอยู่ตลอด ดูยังไง๊..ยังไงก็ "เจตนาไม่บริสุทธิ์"
น่าตลกที่ "วัดพระธรรมกาย"มาแถ..แถลงการณ์ปฏิเสธว่าการขึงสแลนเพียงเพื่อต้องการกันแดด กันฝุ่น และลมร้อนเท่านั้น แล้วไอ้ที่ขุดบ่อเพลาะอะไรนั่นก็เรื่องของลูกศิษย์ ทางวัดไม่เกี๊ยว..ไม่เกี่ยว ถือเป็นอีกครั้งที่มีคำอธิบายในทุกๆ เรื่อง แต่"ย้อนแย้ง"กับพฤติกรรม ที่พอเจ้าหน้าที่จะขอเข้าไปตรวจสอบ กลับไม่ยอมให้ไปซะอย่างนั้น
เหมือนกับกรณีของ“พระไชยบูลย์”อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ทางวัดยืนยันว่าไม่พบไม่เห็นมานานหลายเดือน แต่พอเจ้าหน้าที่หวังดีขอเข้าไปตามหาให้ในพื้นที่วัด กลับอิดออด ทำหูทวนลม ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นโดยดี "ตุกติก-ท่าเยอะ" เหมือนคนปิดบังซ่อนเร้นอะไรไว้ การกระทำกับคำพูดมันสวนทางกันไปหมดเสียทุกเรื่อง แล้วอย่างนี้ใครจะเชื่อลมปาก คำอธิบายเป็นเพียงคำแก้ตัว ประชาชนประชาชี ที่รับเสพข่าวยังดูออกเลยว่า ทาง"ลัทธิจานบิน" นับวันชักทำตัวเป็น “มหาแถ”เข้าไปทุกทีแล้ว
รายนี้ “พระปลัดเสกสรรค์”อัตตทโม พระลูกวัดเครือข่ายพระธรรมกาย แกนนำกลุ่มศิษย์ธรรมกาย ที่รับไม้ต่อจาก“หลวงพี่หนิด”พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ซึ่งหน้าที่ชี้แจงแถลงไข ต้องบอกว่า ฝีปากน้ำลายไม่แพ้คนก่อนหน้า ปะ ฉะ ดะ ไม่มีทีท่ายำเกรงต่อกฎหมาย ละม้ายคล้ายคลึงผู้ทำหน้าที่โทรโข่งคนก่อนๆ แทบทุกคน ตอนนี้เริ่มจะเห็นอนาคต“หลวงพี่เสก”ลางๆ แล้วว่า ตอนท้ายน่าจะจบรูปแบบเดียวกับคนก่อน เพราะโดนตำรวจออกหมายเรียกเหมือนกัน นับถอยหลังกันเถอะโยม
ใครจะไปเชื่อ“ดร.ซุป”ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD)คนที่เคยมีชื่อเป็นแคนดิเดต "นายกฯคนกลาง"เวลาเกิดความขัดแย้งทางการเมือง จะหยอดหวานใส่รัฐบาล"นายกฯตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ขนาดนี้ ขนาดวันก่อนมาประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ในฐานะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิวันแรกก็แจกน้ำผึ้งหยดเบ้อเร่อ โดยเฉพาะเมื่อถูกถามว่าคิดว่ารัฐบาลจะทำสำเร็จหรือไม่ ท่านบอกทันทีว่า “ไปได้แน่นอน ไม่มีไม่ได้”สงสัยจะยังไม่อยากให้มีเลือกตั้ง ... ส่วนรายนี้ถูกขุดมาร่วมทีม ป.ย.ป.ด้วย บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่โดน คสช. สั่งคว่ำร่างรัฐธรรมนูญกลางอากาศ จนต้อง"กลืนเลือด" กลับไปเลี้ยงหลานที่บ้าน วันก่อนเห็น "บิ๊กตู่" มานั่งประกบ"จารย์ปึ๊ด" ยิ้มแฉ่ง หน้าบาน แต่พอซูมใกล้ๆ เลือดยังซิบๆ ตรงมุมปากอยู่เลย
เวรกรรมไม่ต้องรอชาติหน้า ชาตินี้ก็พิสูจน์ไปแล้วหลายคน ดูง่ายๆ เมื่อวานนี้ ศาลฎีกาได้พิพากษายืนให้จำคุก ยศวริศ ชูกล่อม หรือ“เจ๋งดอกจิก” แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) 2 ปี ไม่รออาญา ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีขึ้นปราศรัย บนเวที นปช. ดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ เหตุเกิดที่แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. เมื่อตอนม็อบเสื้อแดงปี 53 พวกที่เหลือๆอยู่ โดยเฉพาะพวกที่มีชนักปักหลัง มีคดีเป็นกอบเป็นกำ ก็เตรียมตัวหนาวๆร้อนๆ ได้เลย กฎหมายไม่เคยละเว้นใคร เริ่มทยอยออกมาแล้วจ้า
รอดไม่รอด อีกไม่นานคงรู้ สำหรับชะตากรรมของ“อ้ายปึ้ง”สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ ในยุครัฐบาล "หนูปู" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เพิ่งถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด กรณีออกหนังสือเดินทาง หรือคืนหนังสือเดินทางให้ “นายใหญ่”ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะนักโทษหนีคดี โดยมิชอบ เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เตรียมนัดลับมีด ... เอ้ย! นัดประชุมในวันที่ 9 มีนาคมนี้ เพื่อให้ป.ป.ช. ซึ่งเป็นผู้กล่าวหามาแถลงเปิดคดี และ อ้ายปึ้ง จะมาแถลงแก้ข้อกล่าวหา
เรื่องนี้ “อ้ายปึ้ง”คงลุ้นหนักอยากให้รัฐธรรมนูญใหม่บังคับใช้เร็วๆ เพราะตัวเองจะได้อานิสงส์ให้การถอดถอนครั้งนี้โมฆะไป แต่ดูจาก "วัน ว. เวลา น." ที่ สนช.นัดประชุมฉับไวแบบนี้ บอกได้คำเดียว เงาหัวทางการเมืองค่อยๆ จางลงไปเรื่อยๆ ไม่งั้น "สภาฝักถั่ว" คงไม่รีบขนาดนี้จริงมั้ย
ช.ชฎา