xs
xsm
sm
md
lg

ละครธรรมกายแสดงนานยิ่งน่าเบื่อใกล้ลาโรง-ฉากหรูแต่บทไม่โดน !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา



ผ่านมากว่าสองสัปดาห์แล้ว ที่บรรดาสาวกของ “ธัมมชโย” ในวัดพระธรรมกายพยายามขัดขวางทุกวิถีทางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นภายในวัด แม้ว่าทางฝ่ายรัฐจะใช้มาตรา 44 ออกประกาศหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้วัดพระธรรมกาย และพื้นที่โดยรอบเป็น “พื้นที่ควบคุมพิเศษ” พร้อมทั้งกำหนดมาตรการเข้มงวดสำหรับเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ที่นำโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าไปตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับหลายคดี ซึ่งก็คือ “ธัมมชโย” นั่นแหละ เนื่องจากเชื่อว่ายังคงกบดานอยู่ภายในวัด

ก่อนหน้านี้ ไม่แน่ใจว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่รัฐซึ่งมีการสนธิกำลังกันระหว่างฝ่ายทหาร ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่มีอยู่หลายร้อยนาย ทำไมถึงไม่เข้าไปตรวจค้นกันแบบปูพรมอย่างละเอียด เพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหา อาจเป็นเพราะใช้ยุทธวิธีปิดล้อม สกัดกั้นให้ฝ่ายตรงข้ามเกิด “อาการล้า” หรือทำให้ลดความกระเหี้ยนกระหือรือลงไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน อีกทางหนึ่งก็มีการลิดรอนกิ่งก้านสาขาลงไปเรื่อยๆ เท่าที่ทำได้ เช่น ที่เห็นภาพชัดก็คือ การปลดผู้อำนวยการพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) คนเดิมจาก นายพนม ศรศิลป์ มาเป็น พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้บัญชาการสํานักคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ มาดำรงตำแหน่งแทน

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้มีความเคลื่อนไหวที่มีความคืบหน้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะภายในองค์กรปกครองสงฆ์ ที่เข้ามาร่วม “จัดการ” กับผู้ต้องหารายนี้มากขึ้นกว่าเดิม ที่เห็นในตอนนี้ก็คือ คำสั่งของ พระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต และ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ได้สั่งการเมื่อวันที่ 1 มีนาคม โดยมีหนังสือจากเจ้าคณะจังหวัดไปยังรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จำนวน 4 ประเด็น ประกอบด้วย

1. ให้ทางรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย นิมนต์เชิญพระวัดพระธรรมกายที่ออกไปปฏิบัติกิจอยู่นอกพื้นที่วัดพระธรรมกาย โดยเฉพาะบริเวณตลาดกลางคลองหลวง ให้กลับเข้าวัดพระธรรมกาย

2. มีหนังสือให้ รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย นิมนต์พระที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดวัดพระธรรมกาย โดยอยู่ภายในวัดพระธรรมกายขณะนี้ ให้ออกจากพื้นที่วัดพระธรรมกาย และกลับไปยังวัดต้นสังกัด

3. จะทวงถามหนังสือที่ทางสำนักงานของเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี มีถึง รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เลขที่ 35/2560 ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งเป็นหนังสือที่ทางเจ้าคณะจังหวัด ขอทราบจำนวนพระที่สังกัดวัดพระธรรมกายทั้งหมด ปัจจุบันยังไม่มีผลตอบรับจากทางวัดพระธรรมกายกลับมา เนื่องจากเจ้าคณะจังหวัดจะได้จัดให้เจ้าหน้าที่ประสานเรื่องภัตตาหารเข้าไปให้เพียงพอกับพระ และสามเณรภายในวัดพระธรรมกาย ซึ่งปัจจุบันการแจ้งข้อมูลอย่างเป็นทางการจากวัดมายังผู้ปกครองสงฆ์ยังไม่มีเลย

4. ทางเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีได้แจ้งไปยัง รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่า กรณีที่ต้องมีการเจรจากับเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือหน่วยงานปฏิบัติการต่างๆ ในครั้งนี้ ขอให้ พระวินยาธิการ หรือตำรวจพระ เจ้าคณะอำเภอ ผู้แทนสำนักพระพุทธศาสนา เข้าร่วมในการดำเนินการด้วย เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างเรียบร้อย มีทั้งฝ่ายพระและฝ่ายฆราวาส เพื่อเป็นที่ยอมรับทั้งสองฝ่าย

สำหรับพระที่ฝ่าฝืนไม่ดำเนินการตามคำสั่งเจ้าคณะปทุมฯ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ที่ห้ามพระเข้าร่วมกิจกรรมของวัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานนั้น คงต้องไปดูว่าหลักพระธรรมวินัยกำหนดไว้อย่างไร ทั้งนี้ บริเวณประตู 7 ของวัดพระธรรมกาย เจ้าหน้าที่ได้นำหนังสือข้อสั่งการของ พศ. ไปติดแสดงเพื่อย้ำไม่ให้สงฆ์ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน

แน่นอนว่า นี่คือ ความเคลื่อนไหวของทางฝ่ายสงฆ์ที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงนั่นคือเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีที่มีคำสั่งไปถึงรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายในสังกัดที่เปิดเผยและมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมครั้งแรกโดยที่ไม่ต้องตีความให้มากความก็คือห้ามพระเณรมาร่วมชุมนุมและขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ถ้าฝ่าฝืนก็มีโทษตามมา

ความหมายก็คือ “บล็อก” บรรดาพระสงฆ์ที่อาจถูกธรรมกายระดมกันเข้ามา ซึ่งในจำนวนนั้นอาจมีทั้งพระปลอมพระจริงปะปนกันมาซึ่งในคำสั่งดังกล่าวยังระบุให้พระสงฆ์ที่ไม่เกี่ยวข้องและยังอาศัยอยู่ในวัดพระธรรมกายให้กลับออกไปอยู่ที่วัดของตัวเอง ซึ่งความหมายก็คือต่อไปนี้จะมีการเข้าตรวจสอบบรรดาพระสงฆ์เหล่านั้นด้วย

หลายคนมองว่าการปิดล้อมวัดพระธรรมกายของแบบนี้สร้างผลลบกับรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เนื่องจากเห็นว่าเป็นได้ไม่คุ้มเสีย มองว่าเหมือนกับการ “ขี่ช้างจับตั๊กแตน” ที่ไม่คุ้มค่า อย่างไรก็ดี หากมองอีกมุมหนึ่งแม้ว่านาทีนี้ยังไม่อาจจับกุมตัว “ธัมมชโย” ได้ และยังไม่แน่ชัดว่าหลบอยู่ที่ไหน แต่ในทางสังคมถือว่า “ได้ฝังคนพวกนี้” ฝังลัทธินี้ลงไปแล้ว อย่างน้อยก็คงไม่อาจแสดงศักยภาพได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว และจากวันนี้หากธัมมชโยจะเลือกเส้นทางหลบหนีก็ต้องหลบหนีไม่พบหน้าผู้คนในประเทศไทยอีก 15 ปี ตามอายุความ

สำหรับวัดพระธรรมกาย หากยังไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และในที่นี้ก็คือเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) รวมไปถึง “เถรสมาคม” ในอนาคตด้วย โอกาสมันดูมืดมนเหลือเกิน

ขณะเดียวกัน หลายคนมองว่า วัดพระธรรมกายและสาวกของ ธัมมชโย สามารถยื้อกับอำนาจรัฐมาได้นานสองนาน ยิ่งนานเท่าไหร่ก็เหมือนตบหน้ารัฐ ตบหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่แม้จะใช้อำนาจพิเศษแต่ไม่สามารถจัดการให้ “สะเด็ดน้ำ” โดยเร็วได้ และที่ผ่านมา มีการใช้วิธีการต่างๆ ที่มองว่า ทำให้รัฐเสียหน้า เช่น การระดมสาวกมาขัดขวาง การสร้างภาพว่าพระสงฆ์ถูกรังแก ทำลายพุทธศาสนา มีการฟ้ององค์กรระหว่างประเทศ องค์กรชาวพุทธ สารพัด นี่ยังไม่นับวิธีการปลีกย่อยเรื่องอดอาหาร หรือแสดงให้เห็นว่าพระเณรอดอยาก เนื่องจากถูกขัดขวางการบินฑบาตร สารพัด แต่เชื่อหรือไม่ว่าวิธีการแบบนั้นยิ่งทำให้สังคมมองแบบติดลบมากกว่าเดิม เพราะมีคำถามเดียวก็คือหากบริสุทธิ์ใจ หรือไม่มีอะไรซุกซ่อนอยู่ในวัดทำไมถึงไม่เปิดทางให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นแต่โดยดี ให้ค้นให้ละเอียด เสร็จแล้วก็กลับไปและหลังจากนั้นรัฐบาลก็ต้องเลิกมาตรา 44 ไปเอง

แต่นี่ยังขัดขวางทุกวิถีทางแสดงว่าต้องซุกซ่อนบางอย่าง โดยเฉพาะ “ธัมมชโย” เอาไว้ ดังนั้น ยิ่งยื้อก็ยิ่งเสียหาย สิ่งที่เห็นในวันนี้สำหรับธรรมกายก็เหมือน “การเล่นละคร” ที่แม้มีฉากสวยหรูมากมายเพราะทุนหนา และเขียนบทไม่สมจริง ไม่ค่อยมีเหตุผลรองรับ หากเป็นแบบนี้ก็คงไม่นานก็คงต้องลาโรง เพราะมันน่าเบื่อ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น