อดีต ส.ส.นครนายก ประชาธิปัตย์ จี้ ป.ป.ช.นำอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ใช้ขอข้อมูลองค์กรต่างชาติปมโรลส์-รอยซ์ ให้สินบนการบินไทย ชี้เปิดช่องให้ทำได้ อย่าอ้างรออัยการสูงสุดทำ งงมากองค์กรอิสระแถลงอ้างอังกฤษตั้งเงื่อนไขไม่ส่งให้เหตุกลัวหลุด มึนไม่ตั้งอนุฯ ไต่สวนด้วย สงสัยคนทำผิดมีอิทธิพลมาก เตือนระวังชาวบ้านออกมาไล่ จวกทำงานช้า แย้ม สนช.เตรียมสอบเอง จ่อแฉเนื้อหากฎหมายใหม่
วันนี้ (28 ก.พ.) นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.นำอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันปี 2003 ที่ไทยร่วมเป็นภาคีสมาชิกตั้งแต่ปี 2554 กับองค์การสหประชาชาติ มาใช้เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับกรณีบริษัท โรลส์-รอยซ์ ให้สินบนข้ามชาติกับบริษัทการบินไทยในการขอข้อมูลจากองค์กรต่างประเทศ เนื่องจากในอนุสัญญาดังกล่าวข้อ 43 ระบุถึงความร่วมมือระหว่างประเทศที่รัฐภาคีสมาชิกต้องให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันในการสืบสวนสอบสวนในกระบวนการทางแพ่งและปกครองเกี่ยวกับการทุจริต และข้อ 46 ระบุไว้ว่าความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางกฎหมาย ที่รัฐภาคีต้องข่วยเหลือในการสืบพยานหลักฐาน สอบปากคำบุคคล ส่งเอกสารของศาล ค้น ยึดและอายัด ตรวจสอบวัตถุและสถานที่ให้ข้อมูล พยานหลักฐาน
นายชาญชัยกล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีข้อ 23 เรื่องการฟอกเงินในกรณีการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างหรือให้สินบนถือเป็นการฟอกเงินที่ได้มาจากการทุจริตก็ให้ใช้กฎหมายฟอกเงินเข้าดำเนินการได้ทันที ดังนั้นจะเห็นได้ว่าอนุสัญญานี้เปิดช่องให้สามารถดำเนินการครบถ้วนทุกประเด็น และสามารถใช้ได้ทันที แต่เหตุใด ป.ป.ช.จึงยังไม่มีการดำเนินการใดๆ อ้างว่าต้องรอให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้ขอข้อมูลตามกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ ทั้งๆ ที่ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นผู้ไปลงนามในอนุสัญญาฯ ดังกล่าวสามารถใช้ประโยชน์จากอนุสัญญานี้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีการดำเนินคดีอาญาภายในประเทศก่อนตามที่มีการกล่าวอ้าง นอกจากนี้ประเด็นดังกล่าวยังมีการดำเนินคดีในประเทศอังกฤษแล้วด้วย จึงถือว่าองค์ประกอบครบถ้วนที่รัฐภาคีตามอนุสัญญานี้จะต้องให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช.ของไทย
“ผมงงมากที่ ป.ป.ช.แถลงว่าอังกฤษตั้งเงื่อนไขว่าไม่ส่งให้กลัวนำมาเปิดเผย เพราะในอนุสัญญาให้เปิดเผยเพียงแต่ให้มีการคุ้มกันพยานอย่าให้ถูกทำร้าย แต่ถ้าเป็นอย่างนี้แสดงว่า ป.ป.ช.เป็นปัญหากับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แต่จนถึงขณะนี้เรื่องสินบนข้ามชาติโรลส์รอยซ์กลับยังไม่มีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง หรือเป็นเพราะว่าคนที่ทำผิดมีอิทธิพลมากจึงไม่มีการดำเนินการใดๆ เรื่องนี้นับเป็นความชุ่ยที่สุดของ ป.ป.ช.เพราะผ่านมาเกือบ 2 เดือนแล้ว ผมไม่อยากให้เกิดภาวะที่ประชาชนลุกขึ้นมาไล่ ป.ป.ช.” นายชาญชัยกล่าว
นายชาญชัยกล่าวด้วยว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่างานปราบปรามการทุจริตในไทยติดขัดที่ ป.ป.ช.เพราะเป็นคอขวดทำให้คดีล่าช้า เนื่องจากทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ท., สตง. หรือดีเอสไอ สอบสวนแล้วต้องทำเรื่องส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการในขั้นสุดท้ายทั้งหมดก่อนส่งฟ้องศาลเพียงองค์กรเดียว แต่เรื่องกลับล่าช้าบางคดีใช้เวลาเป็นสิบปี แม้รัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติระบุให้ ป.ป.ช.ต้องทำคดีทุจริตให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี แต่ข้อเท็จจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น ทำให้มีการทำลายพยาน หลักฐาน ถ้า ป.ป.ช.ไม่ปรับปรุงแก้ไขตัวเอง ประชาชนกำลังเอือมระอาและจะลุกขึ้นแก้ไข เพราะทุกประเทศที่แก้ปัญหาทุจริตสำเร็จ ล้วนมีภาคประชาชนเข้าไปร่วมและขับเคลื่อนให้มีการแก้ไข เช่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่ไม่มีศักยภาพจึงมาเป็น ป.ป.ช. ถ้าไม่ทำงานเรื่องสินบนนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเรื่องสำคัญของชาติเพราะเป็นต้นตอของการแตกความสามัคคีที่คนกลุ่มหนึ่งซื้ออำนาจรัฐเข้ามาเพื่อโกงกิน คนกลุ่มหนึ่งตรวจสอบส่งเรื่อง ป.ป.ช.แต่ทำอะไรไม่ได้ จึงต้องดูว่าควรปฏิรูป ป.ป.ช.แล้วหรือยัง
นายชาญชัยกล่าวว่า ทั้งนี้ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ตนจะแถลงถึงเนื้อหาในกฎหมาย ป.ป.ช.ที่กำลังมีการยกร่างแต่ปกปิดเนื้อหาไม่ให้ประชาชนรู้ให้สังคมทราบ เพราะยังมีคนดีใน ป.ป.ช.ที่ตั้งใจปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นกำลังเสียกำลังใจ หาก ป.ป.ช.ชุดนี้ไม่ทำงาน คณะอนุกรรมาธิการปราบโกงที่มี พล.ร.อ.พะจุณ ตามประทีป เป็นประธาน จะทำหน้าที่สอบสวนเรื่องนี้เองโดยจะทำหนังสือถึงสถานทูตอังกฤษเพื่อขอเอกสาร ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง แล้วจะรู้ว่าใครกันบ้างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้