รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ชี้ผู้ทรงคุณวุฒิ ป.ย.ป.หลากหลาย ทำปรองดองเริ่มชัด ยันบังคับใช้กฎหมายไม่ขัดแย้งสมานฉันท์ ม.44 แก้ไขได้ ชูนายกฯ รับฟัง ปัดกลั่นแกล้งธรรมกาย แค่ให้ กม.เดินหน้า
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่อาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนห้องสอนศึกษาในพระอุปถัมภ์ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 กล่าวถึงภาพรวมผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ (ป.ย.ป.) ทั้ง 39 คน ว่ามีความหลากหลายโดยมาจากทุกภาคส่วนซึ่งเริ่มเห็นความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ถึงแนวโน้มที่กำลังเดินไปสู่ความปรองดอง ตนมีกำลังใจมากขึ้นที่เห็นการทำงานและการมีส่วนร่วมมาถูกที่ถูกเวลา อย่างไรก็ตาม ป.ย.ป.ได้กำหนด 27 วาระปฏิรูปเร่งด่วน ซึ่งแม่น้ำทั้ง 5 สายจะต้องนำไปขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กันให้เสร็จตามเวลาที่เหลืออยู่
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่ามีการใช้มาตรา 44 พร่ำเพรื่อ นายพีระศักดิ์กล่าวว่า ประเทศเดินหน้าไม่ได้ก็เพราะว่ากฎหมายปกติติดขัด การบังคับใช้กฎหมายกับการปรองดองไม่ได้แย้งกัน ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย แต่ถ้าย้อนไปดู ตนเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับฟัง บางครั้งประกาศใช้ไปแล้วก็มีการแก้ไขปรับเปลี่ยน ถ้ามีอะไรไม่ถูกต้องเหมาะสม เมื่อมีข้อมูลนายกฯ ก็มีการแก้ไขมาตรา 44
เมื่อถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ไปจัดการกับวัดพระธรรมกายเป็นการสวนทางกับการปรองดองหรือไม่ นายพีระศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการบังคับการใช้กฎหมายตามนโยบายของ คสช. เพราะถ้าใช้กฎหมายปกติแล้วติดขัดก็ใช้มาตรา 44ไปช่วย กรณีของวัดพระธรรมกายไม่ใช่การเลือกใช้มาตรา 44 ไปกลั่นแกล้งใคร แต่เป็นการทำให้กฎหมายเดินหน้าไปได้มากกว่า ซึ่งคงไม่บานปลายกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว