“ประยุทธ์” เผยมอบนโยบาย จนท.ดำเนินการต่อ “ธัมมชโย” ตามกฎหมาย เบาไปหาหนัก วอนเห็นใจ จนท. ไม่มีใครอยากทำอะไรหากไม่ผิด กม. ขอร้องผู้กระทำผิดออกมาสู้คดีทุกอย่างก็จบ ยันรัฐไม่ได้เข้าไปทำลายสถานที่ทำบุญ แจงหัวหน้าอุทยานพีพีขอย้ายเอง ปัดเด้งเพราะมีความผิด ชี้เหตุถูกกดดันจากผู้ประกอบการ ข้องใจขอลดธรรมเนียบค่าเช่าตอนนี้
วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการดำเนินคดีต่อพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย และศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่ขณะนี้ยังมีปัญหาบานปลายอยู่ว่า วันนี้ไม่อยากให้มีการนำเสนอในเรื่องของความขัดแย้ง เรื่องวัดพระธรรมกายนั้นเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่จะต้องดำเนินการไป ขณะนี้มีหลายส่วนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ขอร้องว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเลย ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน ประชาชนและพระก็ต้องให้ความร่วมมือ เพราะถือเป็นการทำงานภายใต้กฎหมาย ตนไม่ต้องการให้ใช้กฎหมู่มากดดันเจ้าหน้าที่ ไม่เช่นนั้นจะทำงานยาก สุดท้ายจะเกิดการกระทบกระทั่งบาดเจ็บสูญเสีย เพราะฉะนั้นใครที่กำลังเชียร์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขณะนี้อย่าลืมว่าหากมีลูกหลานของตัวเองอยู่ในสถานการณ์และพื้นที่นั้นแล้วจะรู้สึกอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่ พระ หรือประชาชนที่เชื่อถือศรัทธา หากเกิดบาดเจ็บสูญเสียล้มตายลงไปแล้วจะทำอย่างไร
“ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับคนที่กระทำความผิด หรือไม่ผิด ก็ต้องออกมาแสดงความบริสุทธิ์ให้ได้ แค่นั้นทุกเรื่องก็จะจบลง ไม่ต้องเสียเวลา พลังงาน หรืองบประมาณ ในส่วนของภาครัฐไม่ทำก็ไม่ได้ ผมจึงอยากขอร้องสื่อมวลชนให้ลดการเสนอข่าวในเรื่องนี้ลงไปบ้าง เพราะถ้าสามารถลดการเสนอลงไปได้ การสร้างแนวร่วม การสร้างมวลชนก็จะลดลง และผมเองก็เป็นที่รักชีวิตของคนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร จะถูกหรือผิดก็ตาม เพราะเขาก็เป็นคนไทย และผมก็รักทุกคน เพียงแต่ว่าต้องรักษากฎหมาย กฎกติกาของบ้านเมือง” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มอบนโยบายไปแล้วว่าให้ปฏิบัติหน้าที่และทำทุกอย่างตามกฎหมาย จากเบาไปหาหนัก ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องไปไตร่ตรองและใคร่ครวญดู เพราะถ้าจะปฏิบัติแบบเบาไปทั้งหมดก็จะเกิดการยื้อเวลายาวนานไปหรือเปล่า แต่ถ้าหนักเกินไปจะเกิดความวุ่นวายกันหรือเปล่า ตรงนี้ต้องไปตัดสินใจเพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย เหลือแต่พวกเราที่จะต้องช่วยกันทำให้สังคมสงบให้ได้ ให้ผู้กระทำความผิดออกมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเรื่องก็จบ อย่าไปสร้างหรือนำเสนอว่าวันนี้เจ้าหน้าที่ถอยหลังอีกแล้ว เสนอข่าวเช่นนี้เจ้าหน้าที่ก็อึดอัด เพราะในความเป็นจริงไม่มีใครอยากทำถ้าไม่ใช่กฎหมาย เพราะเจ้าหน้าที่เองก็มีครอบครัว มีลูกเมียเช่นกัน ไม่ต้องการให้ใครมาด่าหรือต่อว่า ส่วนใหญ่ก็นับถือศาสนาพุทธ สังคมต้องไปดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นถูกต้องหรือไม่ และควรต้องทำอย่างไร
“ไม่ได้หมายความว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าไปทำลายทิ้งทั้งหมด มันไม่ใช่ สมมติว่าถ้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ก็ต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับสถานที่ โดยเฉพาะที่เป็นสถานที่ในการทำบุญนั้น จะต้องไปอย่างไรขณะนี้ก็บังไม่รู้เหมือนกัน เพราะมีกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้อง ถ้าไม่ผิดกฎหมายอะไรเลยก็ทำอะไรไม่ได้ มันเป็นเรื่องของบุคคล” พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีนายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอย้ายตัวเองว่า ตนถามไปกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว ปรากฏว่าราคาค่าธรรมเนียมเช่าอุทยานของนักท่องเที่ยวต่างชาติขึ้นมาตั้งแต่ปี 50 แล้ว แต่ทำไมถึงมีการมาเรียกร้องให้ลดค่าเช่าตอนนี้ก็ไม่รู้ ทั้งนี้ เมื่อเขาทำไม่ได้ก็ขอย้าย ไม่ได้ย้ายเพราะมีความผิดอะไร เขาขอย้ายเอง ตนไม่ได้ไปลงโทษอะไรเขา เป็นการรักษาไปตามกติกา
“เมื่อเขาโดนกดดันมากๆ ก็เหมือนคนทำงานไม่สบายใจก็ย้ายได้” เมื่อถามว่า ตกลงการขอย้ายเกิดจากการถูกกดดันในพื้นที่ใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ใครที่กดดัน ผู้ประกอบการ ไม่เห็นหรือในข่าว กฎหมาย กฎกระทรวงก็ออกมาแล้ว แล้วมันทำได้ไหม เมื่อทำไม่ได้ ก็เปลี่ยนคนอื่นทำ