รองนายกฯ เป็นประธานมอบรางวัล อปท.ทำงานดี 122 แห่ง รวม 192 ล้าน หวังต่อยอดโครงการเดิมให้เป็นส่วนหนึ่งในการนำประเทศก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 แจงแนวคิดกันทุจริต ออก ม.44 คุมลงทุนมูลค่าสูง แก้ปัญหาจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจและภาครัฐ ใช้แค่รอ กม.ใหม่
วันนี้ (22 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่มหาวิทยาลัยสวนดุสิต นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นประธานมอบรางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มี การบริหารจัดการที่ดีประจำปี 2559 จำนวน 122 แห่ง โดยนายวิษณุกล่าวว่า โครงการที่ได้รับรางวัลและนำมาแสดงวันนี้เป็นโครงการที่ดีเยี่ยม มีแนวทางของรัฐบาลประชารัฐ และเป็นโครงการที่อยู่ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สอดคล้องกับสถานการณ์ สร้างความปรองดองในพื้นที่ บางโครงการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาถือเป็นการก้าวสู้ไทยแลนด์ 4.0 อยากให้คณะอนุกรรมการพิจารณารางวัลในปีต่อไปนำเกณฑ์ไทยแลนด์ 4.0 มาเป็นเกณฑ์ให้รางวัลด้วย เพราะต้องการให้ อปท.เป็นส่วนหนึ่งในการนำประเทศก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ทั้งนี้ และเหตุผลที่ต้องให้รางวัลเป็นเงินจำนวนมากและสมน้ำสมเนื้อนั้นเพราะต้องการให้นำงบประมาณจำนวนดังกล่าวไปต่อยอดโครงการที่ทำอยู่เดิม และพัฒนาสู่สิ่งใหม่หวังพัฒนาต่อยอดไประดับชาติ
ด้านนายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดสรรเงินอุดหนุนเพื่อเป็นรางวัลให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดีครั้งนี้มีเงินรางวัลรวม 192 ล้านบาท แบ่งเป็นรางวัลประเภทโดดเด่น 15 รางวัล รวม 73 ล้านบาท เช่น เทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ได้รางวัล 10 ล้านบาท องค์การบริหารส่วนตำบลดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 9 ล้านบาท รางวัลประเภททั่วไป 33 รางวัล รวมเป็นเงิน 88.5 ล้านบาท อาทิ เทศบาลนครอุดรธานี อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี 6 ล้านบาท เทศบาลตำบลกลางดง อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย เป็นเงิน 5 ล้านบาท รางวัลจูงใจให้องค์กรปกครองส่ วนท้องถิ่นที่ผ่านการประเมินของสถาบันการศึกษาฯ 74 รางวัล เป็นเงิน 30.5 ล้านบาท อาทิ เทศบาลเมืองมหาสารคาม อ.เมืองมหาสารคาม จ. มหาสารคาม เป็นเงิน 412,162 บาท
อย่างไรก็ตาม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้จะพัฒนาการดำเนินงานเพื่อต่อยอดไปสู่การประกวดในระดับสากล “รางวัล United Nations Public Service Awards” อันเป็นเกียรติยศชื่อเสียงต่อประเทศชาติต่อไป อย่างไรก็ตาม เงินรางวัลที่ได้มอบไปนั้นอยากให้ใช้เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน แต่ละองค์กรต้องรายงานผลความก้าวหน้าในการใช้จ่ายเงินรางวัลให้คณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนเพื่อให้เป็นรางวัลสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบภายใน 6 เดือน นับจากวันที่ได้รับเงินรางวัลด้วย
ทั้งนี้ นายวิษณุได้ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุเตรียมออกคำสั่งตามมาตรา 44 ควบคุมการลงทุนที่มีมูลค่าสูงป้องกันการทุจริตว่า สิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงมาก คือ การจัดซื้อจัดจ้างที่ผ่านมาได้ใช้มาตรา 44 สั่งพักงานเจ้าหน้าที่ในส่วนราชการเพื่อรอการสอบการดำเนินงานมาแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ซึ่งในส่วนของท้องถิ่นถ้ามีการจัดซื้อจัดจ้างจะเป็นโครงการขนาดเล็กหรือขนาดกลาง มาตรการที่มีอยู่รับมือได้อยู่แล้ว แต่ที่นายกฯ เป็นห่วง คือ การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจและภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการที่มีมูลค่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป โดยการจัดซื้อจัดจ้างก็ให้ดำเนินการตามปกติ แต่จะให้มีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบและรับเรื่องร้องเรียนได้
รองนายกฯ กล่าวว่า หน่วยงานนี้อยากตั้งขึ้นถาวรแต่ไม่ตั้งเป็นองค์กรใหม่ ให้เป็นเพียงคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่ง เมื่อกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ใช้บังคับใช้ คณะทำงานนี้จะไปอยู่ในส่วนนั้นครอบคลุมไปถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ระเบียบพัสดุไม่ครอบคลุมด้วย แต่เมื่อกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างประกาศแล้วยังมีเวลา 180 วันกว่าจะใช้บังคับ นายกฯจึงคิดจะสร้างกระบวนการอะไรขึ้นมาดูแลในส่วนนี้ และต้องมีอำนาจทางกฎหมายในการยับยั้งโครงการได้ จึงอาจต้องออกเป็นกฎหมายโดยใช้อำนาจมาตรา 44 มาดำเนินการ เพราะหากออกเป็น พ.ร.บ.จะใช้เวลานาน ตนกำลังคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการ โดยตั้งใจจะออกมาให้เร็วที่สุด และการพิจารณาของหน่วยงานนี้ กำลังคิดว่าเรื่องแบบไหนให้รายงานนายกฯ แบบไหนรายงานคณะรัฐมนตรี แบบไหนรายงานเจ้ากระทรวง แบบไหนสั่งแก้ไขได้เลย